เสียงจากประชาชนชาวกีฬา กับสิ่งที่อยากได้จากรัฐบาลใหม่

ใกล้ถึงเวลาที่ประชาชนชาวไทยจะได้ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงของตัวเองใน การเลือกตั้ง ใหญ่

แน่นอนว่า กีฬา เองก็เป็นส่วนสำคัญของประเทศไทย ที่ทุกรัฐบาลเข้ามาก็มักจะมีนโยบายด้านกีฬา และต้องเข้ามาดูแลการกีฬาของประเทศผ่านทาง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

เราจึงมาลองฟังเสียงของชาวกีฬาดูบ้างว่าเขาอยากได้รัฐบาลแบบไหนกัน

นายณัฐวุฒิ เรืองเวส

นายณัฐวุฒิ เรืองเวส อดีตรองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เชื่อว่าทุกรัฐบาลนั้นให้การสนับสนุนวงการกีฬาอยู่แล้ว เพราะว่ามันมีแต่ประโยชน์ทั้งสิ้น

เพียงแต่สิ่งที่อยากจะให้ใครก็ตามที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ต้องโฟกัสให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน เพราะปกติคนมักจะสนใจแค่กีฬาเป็นเลิศหรือผลการแข่งขัน แต่จริงๆ แล้วมันมีเรื่องของกีฬามวลชน, กีฬาพื้นฐานอยู่ อยากให้สนับสนุนให้ครอบคลุมทุกด้าน

“ในการสนับสนุนให้ครอบคลุมก็ต้องทำให้กีฬาเป็นที่นิยม อยู่ในสายเลือดของคนไทย ทำอย่างไรให้คนไทยมีความรักในกีฬา ซึ่งถ้าหากทำได้ตั้งแต่กีฬาขั้นพื้นฐาน อย่างอื่นก็จะตามมาเอง ไม่ว่าจะเป็นกีฬาเป็นเลิศหรือว่ากีฬาอาชีพ”

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า แน่นอนว่าถ้าหากทำได้ สามารถผลักดันให้ประชาชนเล่นกีฬาได้ มันได้เรื่องของสุขภาพอยู่แล้ว ทั้งสุขภาพกาย, สุขภาพใจ และยังสร้างสุขนิสัยที่ถูกต้อง รู้แพ้-รู้ชนะ-รู้อภัย สุดท้ายก็สามารถต่อยอดนักกีฬาไปเป็นนักกีฬาทีมชาติหรือสร้างอาชีพได้ นอกจากนี้ กีฬายุคใหม่ยังกระตุ้นเรื่องของเศรษฐกิจได้อีกด้วย อย่างเช่น การจัดการแข่งขันหรือทำเป็น กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (สปอร์ตทัวริซึ่ม)

ดังนั้น การพัฒนากีฬามันตอบโจทย์อยู่แล้ว ถ้าบริหารให้ดีจะเป็นเครื่องมือที่ดีของรัฐบาลได้

“โค้ชธง” ธงชัย สุโกกี

มาถึงเสียงจากวงการฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาอันดับ 1 ของประเทศไทยกันบ้าง “โค้ชธง” ธงชัย สุโกกี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าวว่า รัฐบาลนั้นถือว่าเป็นภาคใหญ่สำหรับการบริหารประเทศ

ดังนั้น อยากให้ยึดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักก่อน ไม่จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นสาขาอาชีพไหน อยากให้เข้ามาพัฒนาประเทศโดยองค์รวมก่อน

ถ้าหากทุกอย่างดี ประชาชนมีกินมีใช้ อยู่ดีกินดี ค่อยกระจายงบประมาณมาพัฒนาในเรื่องของกีฬา เพื่อให้คนไทยมีความสุขกับการเชียร์กีฬาต่อไป แต่ก็อยากให้สนับสนุนกีฬาในทุกประเภทด้วย เพราะว่าประเทศไทยไม่ได้มีแค่กีฬาฟุตบอลอย่างเดียว

“ในมุมมองผมรัฐบาลชุดนี้อาจจะไม่ได้มีบุคลากรที่โดดเด่นทางด้านกีฬามากนัก ยังไม่เห็นการพัฒนาด้านกีฬาที่ชัดเจน ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี มีปัญหาเรื่องของโควิด-19 ทำให้การจัดการแข่งขันต่างๆ หรือวงการกีฬามันซบเซาลงไป แต่ในยุคใหม่ ก็อยากเห็นบุคคลในวงการกีฬาเข้าไปอยู่ในภาครัฐบ้าง เพื่อจะได้มีคนที่รู้จักธรรมชาติของกีฬา จะได้ลงมาดูแลอย่างถูกวัตถุประสงค์ด้วย”

โค้ชธงกล่าว

“เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ

ด้าน “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่หญิงเจ้าของเหรียญทองจากกีฬา โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พูดถึงสเป๊กของรัฐบาลในฝันของตัวเองว่า ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ ก็อยากได้รัฐบาลที่ทันกับเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีมันไปไวมากๆ แล้วประเทศไทยตามไม่ทัน อยากให้ทุกอย่างเป็นดิจิทัล สามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้เองที่บ้าน ไม่ต้องไปต่อคิวให้ยาวเหยียด

พาณิภัคกล่าวต่อว่า ในส่วนของกีฬาแล้ว คิดว่าอยากให้มีสวนสาธารณะสำหรับการออกกำลังกายเยอะๆ เพื่อให้คนทั่วไปเข้าถึงกีฬาได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเป็น เทควันโด ได้ยิ่งดี เพราะว่าเป็นกีฬาที่เข้าถึงยากกว่ากีฬาอื่นๆ

ทุกวันนี้ถ้าเป็นฟุตบอล, แบดมินตัน หรือวอลเลย์บอล ทุกคนสามารถเล่นได้โดยไม่มีการเขินอาย แต่ถ้าเป็นเทควันโด คนจะไม่ค่อยกล้าเล่น ยิ่งถ้าต้องเล่นคนเดียวด้วยแล้ว จึงอยากให้เปิดพื้นที่ให้เทควันโดอยู่ในที่สาธารณะ ทุกคนจะได้เข้าถึงได้และเป็นเรื่องที่ดี

นอกจากนี้ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ยังบอกด้วยว่า ทุกวันนี้รัฐบาลยังให้การสนับสนุนวงการกีฬาน้อยอยู่ อย่างตัวเอง ถ้าหากว่าไม่ได้เหรียญรางวัลในระดับต่างๆ อาจจะเลิกเล่นไปแล้ว เพราะว่าเงินเดือน, เบี้ยเลี้ยง หรือสวัสดิการต่างๆ มันยังไม่เพียงพอ ถ้าไม่มีผลงานหรือได้เงินรางวัลจากผลงานก็คงจะเลิกเล่นไปแล้ว

“อยากให้ลงมาช่วยสนับสนุนกีฬาตั้งแต่ระดับรากหญ้า รวมถึงคนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่เช่นนั้นคนเหล่านี้จะอยู่ในวงการกีฬาได้ไม่นานก็หนีไปทำอย่างอื่นกันหมด” จอมเตะสาวทีมชาติไทยกล่าวปิดท้าย

“รุ่ง” รุ่งโรจน์ ไทยนิยม

อีกเสียงหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยเลยก็คือนักกีฬาคนพิการ “รุ่ง” รุ่งโรจน์ ไทยนิยม เจ้าของเหรียญทองเทเบิลเทนนิสคนพิการ ประเภทชายเดี่ยว คลาส 6 จาก พาราลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้อยากให้มีความโปร่งใสและเป็นประชาธิปไตยจริงๆ และอยากให้คนที่เข้ามาช่วยดูแลวงการกีฬาด้วย

รุ่งโรจน์กล่าวต่อว่า จริงๆ ในเรื่องของการสนับสนุนนั้นดีขึ้นเรื่อยๆ งบประมาณในการเตรียมนักกีฬาก็ได้เยอะขึ้น ตัวเองอยู่มานานจึงรู้ว่าเมื่อก่อนมันไม่ได้ดีขนาดนี้ แต่ก็อยากให้พัฒนายิ่งๆ ขึ้นไปอีก ปัจจุบันให้ความสำคัญกับนักกีฬาคนพิการแล้วก็อยากให้มันมากขึ้นเรื่อยๆ

“ในส่วนของรางวัลนักกีฬาคนพิการก็เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน จากที่เหรียญทองเดียวในระดับซีเกมส์ให้แค่ 50,000 บาท ทุกวันนี้ขึ้นมาเป็น 200,000 บาทแล้ว ถึงจะไม่เท่ากับรางวัลของนักกีฬาคนปกติที่ได้เหรียญละ 300,000 บาท แต่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก”

นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทย ปิดท้ายว่า สำหรับรัฐบาลในฝันนั้น อยากได้คนที่ทำได้ตามที่หาเสียงเอาไว้ ให้สัญญาอะไรกับประชาชนก็ขอให้ทำได้จริง ไม่ใช่พอเป็นรัฐบาลสมใจแล้วก็ไม่ทำตามที่พูด ทอดทิ้งประชาชน อยากได้คนที่อยู่เคียงข้างประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ขายฝันไปวันๆ

แล้วทุกคนล่ะ อยากได้รัฐบาลแบบไหนมาดูแลวงการกีฬากันครับ? •

 

 

เขย่าสนาม | เด็กเก็บบอล

[email protected]