กีฬา

‘แมนฯ ยู’ ในมือ ‘อีริก เทน ฮาก’ ปัญหาที่ถูกแก้หรือแค่ช่วงโปรโมชั่น / Technical Time-Out : จริงตนาการ

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 9 - 15 กันยายน 2565
คอลัมน์Technical Time-Out
เผยแพร่

Technical Time-Out

จริงตนาการ

[email protected]

 

‘แมนฯ ยู’ ในมือ ‘อีริก เทน ฮาก’

ปัญหาที่ถูกแก้หรือแค่ช่วงโปรโมชั่น

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ดูมีปัญหามาตลอด 10 ปีหลัง นับตั้งแต่ที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป และปัญหาต่างๆ สะสมมาเรื่อยๆ เปลี่ยนกุนซือมาแล้วหลายคน แต่ก็เหมือนกับว่าปัญหาที่ว่านี้ไม่ได้ถูกแก้ไขให้ถูกต้องนัก

อีริก เทน ฮาก เป็นผู้จัดการทีมคนล่าสุดที่เข้ามาเล่นกับไฟ หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับอาแจ็กซ์มาแล้ว

เทน ฮาก เข้ามาพร้อมความเฮี้ยบ จริงจังกับแนวทางการทำงานของตัวเอง นั่นคือการทำงานหนัก การไม่เคยรู้จักกับนักเตะแมนฯ ยูคนไหนเป็นการส่วนตัว ไม่เป็นลูกหม้อของสโมสร ทำให้กล้าที่จะหักดิบปล่อยนักเตะที่ไม่ต้องการใช้งานออกจากทีมแบบไม่ต้องเกรงใจ

ปัญหาที่ต้องแก้ของทีมปีศาจแดง คือ สภาพความฟิตของนักเตะ ที่ไม่สามารถรับมือกับการเพรสซิ่งได้ตลอด 90 นาที การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในห้องแต่งตัว

ที่สำคัญนักเตะที่ฟอร์มไม่ดี ก็ยังเป็นตัวหลักของผู้จัดการทีมก่อนหน้านี้มาตลอด รวมทั้งผลงานที่ไม่สม่ำเสมอ

 

เทน ฮาก เปลี่ยนโฉมหน้าแนวรับ ในช่วง 4 นัดหลังที่ชนะรวด ด้วยการให้ 4 แบ๊กโฟร์ที่เคยเป็นตัวจริง อารอน วาน-บิสซาก้า, ลุก ชอว์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ หลุดไปนั่งสำรอง และจัดกองหลังชุดใหม่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย ที่ซื้อเข้ามาใหม่ และ ราฟาแอล วาราน กับ ดิโอโก้ ดาโลต์ มาเป็น 4 แบ๊กโฟร์ในยุคตัวเอง

แม็กไกวร์ในฐานะกัปตันทีม ไม่ได้รับการการันตีว่าจะได้ลงสนามสม่ำเสมอ และเทน ฮาก ก็ทำแบบนั้นจริงๆ เมื่อแม็กไกวร์ถูกจับนั่งข้างสนามมาตลอด 4 นัด

ในแดนกลางที่เป็นจุดอ่อนอย่างรุนแรงของแมนฯ ยู เมื่อซีซั่นก่อนเฟร็ด และสกอตต์ แม็กโทมิเนย์ ได้ลงเล่นคู่กันอย่างสม่ำเสมอ แม้แต่ช่วง 2 นัดแรกที่แพ้ให้ไบรท์ตันกับเบรนท์ฟอร์ด คู่นี้ก็ยังได้ทำหน้าที่พร้อมกัน เพราะยังไม่ได้มิดฟิลด์ตัวรับเข้ามาใหม่

อย่างไรก็ตาม โค้ชชาวดัตช์ได้ตัว คาเซมิโร่ มาเสริมทีมแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ให้เป็นตัวหลักอย่างที่แฟนบอลคาดหวัง เพราะเขามองว่าคาเซมิโร่ต้องปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ลีก ที่ต่างกับลาลีก้ามากทีเดียว แล้วให้แม็กโทมิเนย์ที่มีความสด รักการบู๊ ทำหน้าที่ในการเก็บกวาด ไม่ต้องสนใจเกมรุก เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของ บรูโน่ แฟร์นันเดส กับ คริสเตียน อีริกเซ่น ที่ถนัดกับการจ่ายบอลและการยิงประตูอยู่แล้ว

แนวรุกที่เคยพึ่งพา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เปลี่ยนมาใช้งาน มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นหน้าเป้า ให้ เจดอน ซานโช่ ยืนทางซ้าย แล้วจับ อันโตนี่ ปีกขวาคนใหม่จากอาแจ็กซ์ มายืนทางขวา นอกจากนั้น ยังมี แอนโธนี่ อีแลนก้า ดาวรุ่งความเร็วสูงเป็นอะไหล่ อองโตนี่ มาร์ซิยาล ถูกวางให้เป็นหน้าเป้าตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่น แต่มาเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้หน้าที่ตกเป็นของแรชฟอร์ด ขณะที่โรนัลโด้เป็นเพียงตัวสำรอง ที่ถูกส่งในครึ่งหลังเท่านั้น

แม้แต่ในตำแหน่งผู้รักษาประตู เทน ฮาก ยังยืมมาร์ติน ดูบราฟก้า จากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพื่อกดดันดาบิด เด เกอา ที่ไม่สามารถฟอร์มหลุดได้ เพราะมีทั้งดูบราฟก้า และทอม ฮีตัน ที่รอเสียบอยู่

 

เทน ฮาก บอกว่า ถึงแม้แมนฯ ยูจะชนะมาแล้ว 4 นัดติดต่อกัน ปราบมาแล้วทั้งลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล แต่ก็อย่าเพิ่งฝันถึงแชมป์ เพราะยังห่างไกลจากการลุ้นแชมป์มาก ถึงแม้จะทำได้ดีขึ้น ลูกทีมเข้าใจแนวทางที่เขาต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เท่าที่เป็นอยู่มันยังไงพอ

แมนฯ ยูที่เละเทะมานาน เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แต่ก็ต้องดูความสม่ำเสมอจะมีมากขนาดไหน และปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะถูกแก้ไขที่ถูกจุดขนาดไหน

เหมือนที่เทน ฮาก เคยบอกว่า โค้ชฟุตบอลไม่ได้มีเวทมนตร์ที่จะเปลี่ยนอะไรได้ในชั่วข้ามคืน •