“พญาหงส์” เผด็จศึกสาว สปป. ลาว คว้าชัยศึกใหญ่ “เลเจนด์ เอฟซี คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” ปลื้มกระแสตอบรับดีมาก เล็งยกทีมจัดต่อที่ภูเก็ต

              พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม แชมป์เควันหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของไทย สุดแกร่ง ขึ้นชกมวยไทยอีกครั้งลีลายังดุดันและเร้าใจ ชนะทีเคโอ ลูกหมี PK เวียงจันทร์ สาวนักชกจากสปป.ลาว ในยกที่ 2 ของศึกมวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รายการ เลเจนด์ เอฟซี “คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) จ.นครราชสีมา “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขัน ชี้กระแสการตอบรับพุ่งขึ้นตลอด ยกนิ้วชมชาวโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน แม้เจอฝนตกตลอดการแข่งขัน ด้าน “วิว” เยาวภา โปรโมเตอร์ ยันปีนี้จัดอีกแน่นอน เล็งยกทีมบุกภูเก็ต

              เลเจนด์ อารีนา กลุ่มบริษัท พราว บลูพอร์ต หัวหิน ร่วมกับ เทศบาลนครนครราชสีมา และศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน จัดการแข่งขันกีฬามวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รายการ เลเจนด์ เอฟซี “คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน เมื่อค่ำวันที่ 3 ก.ย. 2565 ณ เวทีมวยชั่วคราว บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา

 

              ในงานยังได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา, นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งฮีโร่โอลิมปิกลูกหลานย่าโม นำโดย สมจิตร จงจอหอ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2008, อุดมพร พลศักดิ์ อดีตจอมพลังเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ “เอเธนส์ 2004″ และ สุริยา ปราสาทหินพิมาย เจ้าของเหรียญทองแดงมวยสากลสมัครเล่นโอลิมปิกเกมส์ 2004 เข้าร่วมงาน และ “วิว” เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2004 ในฐานะโปรโมเตอร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก ร่วมด้วยประชาชนชาวโคราชที่มาร่วมชมและให้กำลังใจนักกีฬากันอย่างหนาตา แม้ฝนตกตลอดการแข่งขัน

 ไฮไลท์ของการแข่งขันอยู่ที่ มวยไทย รุ่น 47 กก.หญิง เป็นการพบกันระหว่าง พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม หรือ จันทกานต์ มโนบาล แชมป์เค-วันหญิงคนแรกของเมืองไทย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ ลลิษา มโนบาล หรือ “ลิซ่า”  BLACKPINK ศิลปินไทยชื่อดัง ขึ้นเวทีปะทะกับ ลูกหมี PK เวียงจันทน์ นักมวยชื่อดัง และอดีตนักกีฬาเทควันโดทีมชาติ จาก สปป.ลาว

เปิดศึกยกแรก เกมดุเดือดตั้งแต่เริ่ม โดยต่างฝ่ายต่างเดินหน้าออกอาวุธทำคะแนน แต่ยกนี้ เป็น “พญาหงส์” ที่ดูดุดันและหาจังหวะเข้าทำได้จะแจ้งกว่า จากนั้นยกสอง “พญาหงส์” เร่งเกม เดินหน้าออกอาวุธด้วยการประเคน หมัด เท้า เข่า ศอก ใส่ “ลูกหมี” อย่างต่อเนื่องจนออกอาการ กระทั่งกรรมการบนเวทีต้องสั่งยุติการชกในยกที่ 2  พร้อมกับชูมือให้ “พญาหงส์” เป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอไปอย่างงดงาม

              ด้านการแข่งขันมวยไทยคาดเชือก รุ่น 75 กก. ชาย เด่นพนม พรานสองหก ส.ส.โต โรงเรียนกีฬาโคราช เจ้าของเหรียญทองมวยไทยสมัครเล่นในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ขึ้นเวทีดวลกับ โมฮัมหมัด คาริมิชาร์ก นักชกจากอิหร่าน ผลปรากฎว่า “เด่นพนม” ซึ่งตลอดการชกออกอาวุธได้อย่างหนักหน่วงและแม่นยำ ก่อนจะปล่อยหมัดขวาเผด็จศึกกลางยก 2 เอาชนะน็อคนักมวยจากอิหร่านไปได้สำเร็จ

              ส่วน MMA รุ่น 47.8 กก.หญิง พัชริดา บัวอ่อน เจ้าของฉายา “ลูกกรอกคะนองฤทธิ์” ขึ้นสังเวียนปะทะกับ ดาวมะลุลี จันทิลาด ดีกรีนักกีฬามวยสากล คิกบ็อกซิ่งและเทควันโดทีมชาติ จากสปป.ลาว โดยแมทช์นี้ทั้งคู่สู้กันสนุกจนจบครบ 3 ยก ก่อนจะเป็น พัชริดา ที่ตลอดทั้ง 3 ยก เดินหน้าออกอาวุธได้จะแจ้งกว่า เอาชนะคะแนนแบบเป็นเอกฉันท์

 สรุปผลการแข่งขันอีก 6 คู่ที่เหลือ มีดังนี้ มวยไทยคาดเชือก รุ่น 55 กก.หญิง ฟาเซย์ ฟาลี จากอิหร่าน ชนะคะแนน ยิ้มสยาม ส.ส.โต โรงเรียนกีฬาโคราช, รุ่น 74 กก.ชาย เพชรทวีชัย ช.ชัยวัฒน์ ชนะน็อคยก 2 ฮาเหม็ด โซไลมานี จากอิหร่าน และรุ่น 65 กก.ชาย ฟ้าลิขิต เดอะ เลเจนด์ อารีน่า  ชนะคะแนน อาลีอัสก้า แฟมมิลี่มวยไทยยิม จากอิหร่าน

              MMA รุ่น 61.2 กก.ชาย วิลเลียม เกอร์กี จากฝรั่งเศส ชนะซับมิชชั่น จักรพันธ์ สมปักษ์ นักกีฬาไทย ในนาทีที่ 2.40 ของยก 2, รุ่น 61.2 กก.ชาย ปราชญ์ บัวภา นักกีฬาไทย เอาชนะทีเคโอ เรนาร์ด เกอร์กี จากฝรั่งเศส นาทีที 1.40 ยก 1 และ รุ่น 65.8 กก.ชาย อาโกเบอร์ ราซูโลว์ จากอุซเบกิสถาน ชนะซับมิชชั่น ธนวัฒน์ รัศมิ์ชินฤทธิ์ ในนาทีที่ 1.57 ยก 1

              หลังการแข่งขัน ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ เปิดเผยว่า รายการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแมทช์ที่ประสบความสำเร็จ โดยนอกจากเรตติ้งของการแข่งขันจะเพิ่มมากขึ้นจากสนามที่ผ่านมาแล้ว ในการแข่งขันสนามนี้ เห็นได้ว่าแม้ฝนตกหนักแค่ไหน ชาวโคราชก็รักจริงไม่ทิ้งกัน ไม่หนีไปไหน สำหรับตนนั้น ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้จัดงาน และอยากเห็นการขยายการจัดการแข่งขันออกไปตามจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากเป็นการต่อยอดกีฬามวยในบ้านเรา และพัฒนานักกีฬามวยของไทยแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดที่จะเดินทางไปจัดด้วย

              วิว” เยาวภา บุรพลชัย กล่าวในฐานะโปรโมเตอร์ว่า สนามนี้เราใช้การเชื่อมโยงกับ จ.นครราชสีมา ด้วยการนำนักกีฬาลูกหลานเมืองย่าโมทั้ง 9 คนขึ้นสังเวียนแข่งขันกับนักกีฬาต่างชาติ ทำให้แฟน ๆ ชาวโคราชเข้ามาร่วมชมและเชียร์ลูกหลานของตัวเองกันอย่างหนาตาตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ฝนตกลงมาตลอดเวลา ส่วนตัวรู้สึกปลื้มใจและประทับใจมาก ๆ ที่การแข่งขันครั้งนี้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยในช่วงปลายปีนี้ ได้เตรียมสานต่อด้วยการจัดการแข่งขันที่ จ.ภูเก็ต เป็นสนามต่อไป