Technical Time-out

SearchSri

 

แอลไอวี กอล์ฟ

เมื่อโปรดังท้าชนพีจีเอ

 

หลังจากเป็นประเด็นถกเถียงกันมายาวนาน ในที่สุดทัวร์กอล์ฟสุดอู้ฟู่ แอลไอวี กอล์ฟ อินวิเตชั่นแนล ซีรีส์ ก็ได้ฤกษ์ออกสตาร์ตรายการแรกที่สนามเซ็นจูรี่ คลับ ใกล้กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 11 มิถุนายน

สำหรับแอลไอวีเป็นทัวร์กอล์ฟใหม่ที่สื่อเรียกว่า “ซูเปอร์ลีก” เนื่องจากมีกลุ่มทุน พับลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียให้การสนับสนุนในชื่อ แอลไอวี กอล์ฟ อินเวสต์เมนต์ส ด้วยความที่มีเม็ดเงินลงทุนมหาศาล

จุดเด่นของของแอลไอวีจึงเป็นเงินรางวัลรวมซึ่งแต่ละทัวร์นาเมนต์กำหนดไว้ที่ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (825 ล้านบาท) แบ่งเป็นเงินรางวัลประเภทบุคคล 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (660 ล้านบาท) และประเภททีม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (165 ล้านบาท)

ฤดูกาลแรกของแอลไอวี ตอนนี้ประกาศสนามแข่งขันมาแล้ว 8 สนาม ในจำนวนนี้มีการแข่งขันที่ประเทศไทยในช่วงต้นเดือนตุลาคมด้วย

คนในวงการกอล์ฟที่เป็นแกนหลักในการจัดการแข่งขันแอลไอวีคือ เกร็ก นอร์แมน อดีตโปรกอล์ฟมือ 1 ของโลกชาวออสเตรเลีย ซึ่งนั่งเก้าอี้ซีอีโอของแอลไอวี

 

เมื่อแรกประกาศเรื่องการแข่งขันแอลไอวีออกมา ถือว่าสะเทือนวงการสะวิงโลกพอสมควร ความเห็นแตกเป็นหลายทาง โดยเฉพาะทางฝั่งผู้บริหารพีจีเอทัวร์ซึ่งเริ่มเกิดความรู้สึกไม่มั่นคง เพราะเจตนาของแอลไอวีนั้น เพื่อมาแย่งฐานความนิยมชัดเจน โดยมีเงินรางวัลมหาศาลเป็นตัวดึงดูดโปรดังๆ เข้าร่วม

นักกอล์ฟจำนวนหนึ่งยืนข้างพีจีเอทัวร์ และประกาศตัวชัดเจนว่าไม่คิดเข้าร่วม อาทิ รอรี่ แม็กอิลรอย อดีตมือ 1 โลกชาวไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งตั้งคำถามถึง “คุณภาพ” ของทัวร์ รวมถึงนักกอล์ฟที่เข้าร่วม เพราะเป็นทัวร์เกิดใหม่ ยังไม่มีระบบชัดเจน เน้นการเชิญเข้าแข่งสมชื่อ “อินวิเตชั่นแนล”

อย่างไรก็ตาม มีนักกอล์ฟดังจำนวนหนึ่งที่แสดงตัวว่าจะเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นอดีตมือ 1 โลกทั้ง ฟิล มิกเคลสัน, ดัสติน จอห์นสัน, ลี เวสต์วู้ด รวมถึงโปรดังอย่าง เอียน โพลเตอร์ และ เซร์คิโอ การ์เซีย

ตัวนอร์แมนเองถึงขั้นให้สัมภาษณ์ว่า มีความพยายามที่จะดึงตัว ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตโปรเบอร์ 1 ของโลกชาวอเมริกัน แม่เหล็กชั้นดีของแฟนๆ กีฬาทั่วโลก เข้าร่วมแข่งขัน โดยเสนอค่าตอบแทนเป็นตัวเลข 9 หลัก (หน่วยดอลลาร์สหรัฐ) แต่ยังไม่มีคำตอบชัดเจนในตอนนี้

กรณีของไทเกอร์นั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะเขายังอยู่ระหว่างฟื้นตัวจากอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อต้นปีที่แล้ว และลงแข่งขันได้เพียงบางรายการ ที่ผ่านมาก็เลือกลงแข่งเฉพาะรายการเมเจอร์เท่านั้น

ขณะที่มิกเคลสันเจอมรสุมชีวิตไปเต็มๆ เพราะโดนสื่อแฉบทสัมภาษณ์ที่พาดพิงทั้งฝั่งพีจีเอทัวร์และซาอุดีอาระเบียในเชิงลบ จนเจ้าตัวต้องออกมาขอโทษและประกาศพักเบรกจากกีฬากอล์ฟไม่มีกำหนดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หายหน้าไป 4 เดือนจึงกลับมาแข่งขันรายการเบิกฤกษ์ของแอลไอวี

พร้อมประกาศตัวแบบคลุมเครือว่ายังอยากลงแข่งรายการเมเจอร์ต่อไป แต่ไม่พูดชัดว่าจะร่วมแข่งขันพีจีเอทัวร์หรือไม่

 

ข้างฝั่งพีจีเอทัวร์และยูโรเปี้ยนทัวร์ก็จับมือเป็นพันธมิตร พยายามสร้างอำนาจต่อรอง และ “ขู่” นักกอล์ฟของทัวร์ที่คิดเข้าร่วมแอลไอวีว่าอาจจะโดนลงโทษไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งอาจรวมถึงการโดนตัดสิทธิเข้าแข่งขันรายการของพีจีเอทัวร์

ขณะที่ แกรม แม็กดาวล์ อดีตแชมป์เมเจอร์ชาวไอร์แลนด์เหนือ ปรารภว่า การแบนนักกอล์ฟเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม เควิน นา โปรมือ 33 ของโลกชาวอเมริกัน ก็ชิงประกาศถอนตัวจากพีจีเอทัวร์ เพื่อไปร่วมแข่งแอลไอวีเต็มตัวเลย

ต้องยอมรับว่าสำหรับวงการกอล์ฟอาชีพชายนั้น เรื่องเงินรางวัลเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจที่โปรกอล์ฟหลายคน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในระดับกลางๆ จะเลือกเข้าร่วมรายการของแอลไอวีที่ค่าตอบแทนสูง

และเบื้องต้นมีนักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขันเพียง 40 กว่าคนเท่านั้น

 

อีกประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ นักกอล์ฟดังหลายคน โดยเฉพาะมิกเคลสัน แสดงเหตุผลของตัวเองชัดเจนว่าทำไมถึงเลือกเป็นปฏิปักษ์กับพีจีเอทัวร์ โดยบอกว่าที่ผ่านมา ผู้บริหารทัวร์มักทำอะไรตามใจชอบ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนกฎ หรือการจัดปฏิทินแข่งขัน เพราะรู้ว่านักกอล์ฟไม่มีทางเลือกนอกจากปฏิบัติตาม เช่น การเปลี่ยนฤดูกาลแข่งขันจากแบบปีต่อปีเป็นแบบคาบปี

การที่มีทัวร์กอล์ฟอาชีพผุดขึ้นมาเป็นคู่แข่ง และมีนักกอล์ฟดังๆ หลายคนตีจากพีจีเอทัวร์ไปเข้าร่วม จึงน่าจะกระตุ้นให้ผู้บริหารพีจีเอฉุกคิดและปรับปรุงตัวเองได้บ้าง

การถือกำเนิดของแอลไอวีจึงไม่ใช่แค่การสร้างทัวร์กอล์ฟระดับโลกขึ้นมาแข่งอย่างเดียว แต่ยังเป็นความพยายามจากฝั่งนักกอล์ฟที่จะบีบพีจีเอทัวร์ไปด้วยเช่นกัน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่า ถึงเงินรางวัลจะสู้ไม่ได้ แต่ฝั่งพีจีเอก็มีทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์เป็นตัวชูโรง

สุดท้ายเรื่องนี้จะจบอย่างไร แอลไอวีจะรุ่งหรือจะล่ม เชื่อว่าปลายปีนี้น่าจะเห็นภาพมากขึ้น •