ปารีส 2024 vs พันธมิตรรัสเซีย สงครามเย็นโลกกีฬาครั้งใหม่ / Technical Timeout : จริงตนาการ

Technical Timeout

จริงตนาการ

[email protected]

 

ปารีส 2024 vs พันธมิตรรัสเซีย

สงครามเย็นโลกกีฬาครั้งใหม่

 

หลังจากที่ รัสเซีย เข้าไปบุก ยูเครน นานาชาติก็เดินหน้าบอยคอตรัสเซียกันอย่างแพร่หลาย แม้แต่ในวงการกีฬาก็มีแสดงออกกันในหลายๆ ชนิดกีฬา

ถึงแม้ว่าจะมีกฎเหล็กจาก คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ที่ระบุไว้ว่า การเมืองต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกีฬา แต่ก็ยังเห็นการตัดรัสเซียและเบลารุส ที่สนับสนุนปฏิบัติการครั้งนี้ให้หลุดออกจากแผนที่กีฬาโลกอยู่ดี

นักกีฬารัสเซียและเบลารุสถูกตัดออกจากการแข่งขันกีฬาคนพิการ พาราลิมปิกเกมส์ 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ก่อนการแข่งขันจะเริ่มเพียงไม่กี่วัน ซึ่งก็ขัดต่อธรรมนูญในการรักษาสิทธิในการแข่งขันและการมีส่วนร่วมอยู่ดี ทั้งๆ ที่นักกีฬาผ่านการคัดเลือกมาแล้ว แต่กลับโดนตัดสิทธิแบบฟ้าผ่า

ชาติชั้นนำ 26 ชาติ ได้ให้รัฐมนตรีกีฬาของประเทศร่วมประชุม เพื่อห้ามนักกีฬาจากรัสเซียและเบลารุสร่วมแข่งขันกีฬานานาชาติหลังจากนี้ รวมทั้งไม่ให้ทั้งสองประเทศเป็นเจ้าภาพกีฬานานาชาติใดๆ เลย

ที่สำคัญไม่ให้ภาคธุรกิจจากรัสเซียมาสนับสนุนการแข่งขันกีฬาใดๆ ในอุตสาหกรรมกีฬาโลก

26 ประเทศที่ร่วมประชุม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ลิทัวเนีย, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ไอร์แลนด์, เกาหลีใต้, แคนาดา, ฝรั่งเศส, โปแลนด์, ออสเตรีย, เช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, ลัตเวีย, ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส, สโลวะเกีย, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ

มีประเด็นน่าสนใจว่า ถ้าไอโอซีเลือกแบนรัสเซียออกจากการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ จะเกิดอะไรตามมาบ้าง

 

บิล มัลลอน นักประวัติศาสตร์โอลิมปิก แสดงความคิดเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะจัดโอลิมปิกเกมส์ขึ้นมาเอง ถ้าไม่ได้แข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่ออินโดนีเซีย เจ้าภาพกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 1962 ครั้งนั้นอินโดนีเซียไม่ให้วีซ่านักกีฬาไต้หวันและอิสราเอลเข้ามาร่วมแข่งขัน เพราะต้องการแสดงความเป็นฝ่ายเดียวกันกับจีนที่มีข้อพิพาทกับไต้หวัน และชาติตะวันออกกลางที่มีปัญหากับอิสราเอล

เมื่อเลือกปฏิบัติแบบนั้น ไอโอซีก็จัดการแบนอินโดนีเซียไม่ให้แข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 1964 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไอโอซีก็ตอบโต้ด้วยการจัดแข่งขัน “มหกรรมกีฬาของชาติเกิดใหม่” ในปี 1963

มี 51 ชาติส่งนักกีฬาร่วมแข่งขัน ชาติชั้นนำได้แก่ จีน, โซเวียต, ญี่ปุ่น อาร์เจนตินา รวมทั้งเกาหลีเหนือ แต่ก็จัดได้เพียงครั้งเดียว ก่อนที่จะหายไป

ถ้ารัสเซียจะจัดกีฬาลักษณะนี้ขึ้น จีน, เบลารุส, ซีเรีย, เกาหลีเหนือ, อินเดีย และหลายชาติที่สนับสนุนรัสเซียในการบุกยูเครนครั้งนี้ก็คงไม่ปฏิเสธที่จะส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน แต่ไม่น่าจะเป็นนักกีฬาชื่อดังเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตามการที่นักกีฬาจากรัสเซียและเบลารุสถูกแบนทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินใจของวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียด้วยซ้ำ ก็อาจจะทำให้บางคนตัดสินใจไปร่วมแข่งขันโอลิมปิกที่รัสเซียและพันธมิตรจะจัดขึ้นเช่นกัน

ถ้าจะเกิดโอลิมปิกเกมส์มอสโกขึ้นมาจริงๆ ก็คงก่อนที่โอลิมปิกจริงๆ จะเกิดขึ้นปารีส และชาติพันธมิตรรัสเซียก็คงต้องระมัดระวังที่จะโดนไอโอซีเล่นงานอดไปบู๊ที่ปารีสด้วย

ก่อนโอลิมปิกเกมส์ 2020 มีโควิด-19 และก่อนโอลิมปิกเกมส์ 2024 ก็น่าจะมีสงครามเย็นเกิดขึ้นอีกครั้ง น่าติดตามจริงๆ โลกกีฬาหลังจากนี้จะเดินหน้าไปในทิศทางไหน

เพราะการเมืองได้เข้ามาครอบงำแบบแยกไม่ออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว •