ผ่าเป้าความหวัง 20 ทองทัพไทย ภารกิจสุดยิ่งใหญ่ในเอเชี่ยนเกมส์

“ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย” มีภารกิจสำคัญในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ช่วงระหว่างวันที่ 18 สิงหาคม-2 กันยายนนี้ ซึ่งถือเป็นมหกรรมกีฬาใหญ่แห่งทวีปเอเชีย…

จากการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อ 4 ปีก่อน ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยทำผลงานคว้ามาได้ทั้งสิ้น 12 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 28 เหรียญทองแดง เป็นอันดับที่ 6 ในตารางรวมเหรียญ

ทำให้ความคาดหวังครั้งนี้จะต้องทำผลงานให้ดีกว่าเดิม

ทัพไทยส่งนักกีฬาชิงชัยในเอเชี่ยนเกมส์ 2018 จำนวนทั้งหมด 830 คน แบ่งเป็น นักกีฬาชาย 445 คน นักกีฬาหญิง 385 คน และเจ้าหน้าที่อีก 368 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,198 คน ซึ่งเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 40 ชนิดกีฬา และอีก 2 กีฬาสาธิตคือ อี-สปอร์ต และแคนูโปโล รวมทั้งสิ้น 465 อีเวนต์

ความคาดหวังผลงานของทัพไทยในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ได้มีการประเมินออกมา โดยแบ่งแยกตามแต่ละสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยที่เข้าร่วมการแข่งขัน 43 สมาคม และ 2 กีฬาสาธิต ตั้งความหวังรวมกัน 20 เหรียญทอง ซึ่งสามารถจำแนกความคาดหวังของแต่ละชนิดกีฬา

ดังนี้

ต”ะกร้อ” เป็นชนิดกีฬาที่ไทยตั้งความคาดหวังมากที่สุดคือ การกวาดทั้งหมด 4 เหรียญทองที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัย ประกอบด้วย ทีมชุดชาย, ทีมชุดหญิง, คู่ทีมชุดชาย และทีม 4 คนหญิง โดยเจ้าภาพจัดชิงชัย 8 อีเวนต์ แต่กำหนดให้แต่ละชาติส่งแข่งขันชาติละ 4 อีเวนต์เท่านั้น แต่สำหรับอินโดนีเซียใช้สิทธิในฐานะเจ้าภาพส่งได้ครบทั้ง 8 อีเวนต์!

ขณะที่ “มวยสากล” ทีมไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วม 10 รุ่น แบ่งเป็น ชาย 7 รุ่น หญิง 3 รุ่น ตั้งความหวังเอาไว้ 2 เหรียญทอง จากทั้งนักชกชาย และหญิง ความหวังสูงสุดฝ่ายชายอยู่ที่ “สด” “ฉัตร์ชัย บุตรดี” และ “เอ็ม” “วุฒิชัย มาสุข” ส่วนฝ่ายหญิงอยู่ที่ “หวาน” “จุฑามาศ รักสัตย์” และ “แต้ว” “สุดาพร สีสอนดี”

“เทควันโด” ส่งนักกีฬาเข้าร่วม 7 คน แบ่งเป็น ชาย 4 คน หญิง 3 คน ตั้งเป้าคว้า 2 เหรียญทอง ความหวังสูงสุดอยู่ที่ “เทม” “เทวินทร์ หาญปราบ” จอมเตะหนุ่มดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2016 และฝ่ายหญิงอยู่ที่ “เทนนิส” “พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” จอมเตะสาวเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2016

“ยกน้ำหนัก” ส่งนักกีฬาร่วมชิงชัย 15 คน แบ่งเป็น ชาย 8 คน หญิง 4 คน ตั้งเป้าคว้า 2 เหรียญทองเช่นกัน นำโดย “ดุ่ย” “สินธุ์เพชร กรวยทอง” รุ่น 56 ก.ก. ยกเหล็กหนุ่มดีกรีเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2016 คืนสังเวียนอีกครั้ง รวมทั้งจอมพลังสาว “แนน” “โสภิตา ธนสาร” รุ่น 53 ก.ก. และ “ฝ้าย” “สุกัญญา ศรีสุราช” รุ่น 58 ก.ก.

กอล์ฟ ส่งนักกีฬาชิงชัย 7 คน แบ่งเป็น ชาย 4 คน หญิง 4 คน ในประเภททีมชาย-หญิง และบุคคลชาย-หญิง ตั้งเป้าคว้า 2 เหรียญทองเช่นกัน นำโดย “จีน” อาฒยา ฐิติกุล สะวิงดาวรุ่งสาวน้อยมหัศจรรย์วัยเพียง 15 ปีเท่านั้น แต่พกพาดีกรีนักกอล์ฟหญิงที่คว้าแชมป์อาชีพอายุน้อยสุดในโลกด้วยวัยในขณะนั้น 14 ปี 4 เดือน

ส่วนชนิดกีฬาที่ตั้งความหวังคว้าอย่างน้อยให้ได้ 1 เหรียญทอง ประกอบด้วย “ปันจักสีลัต, ยูยิตสู, ยิงเป้าบิน, กีฬาทางอากาศ, บริดจ์, เรือพาย, เรือใบ, เจ็ตสกี” ทำให้รวมทั้งสิ้น 13 สมาคมกีฬา ตั้งความหวังรวมกัน 20 เหรียญทอง แต่ก็อาจจะมีชนิดกีฬาอื่นที่สอดแทรกขึ้นมาเป็นม้ามืดคว้าเหรียญทองได้ด้วย

ด้านกีฬามหาชนอย่าง “ฟุตบอล” เมื่อ 4 ปีก่อนทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยสร้างผลงานยอดเยี่ยมคว้าอันดับ 4 มาครอง แต่ครั้งนี้ตั้งความหวังที่จะผ่านเข้ารอบลึกที่สุด ทว่าไม่ได้การันตีว่าจะถึงรอบตัดเชือก ขณะที่ทัพนักเตะ “ชบาแก้ว” ทีมฟุตบอลหญิงไทยหวังสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้เป็นครั้งแรก

ส่วนทางด้านของ “การกีฬาแห่งประเทศไทย” (กกท.) โดยฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ได้ติดตามประเมินผลการเก็บตัวฝึกซ้อมของทัพนักกีฬาไทยมาตลอด จึงสามารถตั้งความหวังได้ว่า ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยมีศักยภาพที่จะคว้าได้ถึง 17 เหรียญทอง 15 เหรียญเงิน 28 เหรียญทองแดง

ซึ่งจะเป็นผลงานที่ดีกว่าครั้งที่แล้วอีกด้วย

ขณะที่ “บิ๊กจา” “พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์” รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ระบุว่า ส่วนตัวตั้งเป้าว่าทัพไทยจะคว้าได้ระหว่าง 15-20 เหรียญทองเช่นกัน โดยเชื่อมั่นอยู่แล้วว่า ทุกสมาคมกีฬาก็อยากได้เหรียญทองกันทั้งนั้น แต่ต้องยอมรับว่า เอเชี่ยนเกมส์ไม่ใช่งานง่าย เพราะมีชาติชั้นนำในเอเชียมากมาย

“อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือ การไปใช้ชีวิตที่อินโดนีเซีย ซึ่งทีมฟุตบอลชายจะเป็นทีมแรกที่ไปถึงที่พักนักกีฬา วันที่ 12 สิงหาคม โดยทีมที่ถึงก่อนก็อยากให้ศึกษาเส้นทางให้ดีๆ เพราะการจราจรที่อินโดนีเซียค่อนข้างแออัด ทำให้เวลาเดินทางไปแข่งขันจำเป็นที่ต้องเผื่อเวลาด้วย” บิ๊กจากล่าว

พล.ต.จารึกกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องแผ่นดินไหวก็เป็นห่วงอยู่บ้าง แต่ว่าจากการสอบถามพบว่า ทั้งที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ยังอยู่ห่างกับที่เกิดเหตุพอสมควร และไม่โดนผลกระทบกระเทือนอะไร แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจะมีการหารือกันถึงการป้องกัน และรวมพลหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแน่นอน

ด้าน “บิ๊กต้อม” “ธนา ไชยประสิทธิ์” หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย เผยว่า ความคาดหวังของทัพไทยสำหรับตัวเองได้มีการประเมินไว้ว่า นักกีฬาไทยจะสามารถสร้างผลงานคว้าได้ที่ 15-20 เหรียญทอง แต่จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงแข่งขัน ทั้งเรื่องคู่แข่งขัน กรรมการ และการตัดสิน โดยเฉพาะชนิดกีฬาที่ตัดสินด้วยสายตา

อย่างไรก็ตาม ความคาดหวัง 20 เหรียญทองนั้น หากทำได้ตามเป้าหมายจะถือว่า เป็นผลงานดีที่สุดอันดับ 2 ของทัพไทยในการเข้าร่วมชิงชัยในเอเชี่ยนเกมส์

โดยจะเป็นรองเพียงแค่ในเอเชี่ยนเกมส์ ปี 1998 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยครั้งนั้นทัพไทยคว้าได้สูงสุดถึง 24 เหรียญทอง 26 เหรียญเงิน 90 เหรียญทองแดง และเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย

…ถือเป็นความคาดหวังที่ค่อนข้างสูงสำหรับทัพนักกีฬาทีมชาติไทย และต้องยอมรับว่าเป็นงานหนักที่จะต้องต่อกรกับชาติมหาอำนาจแห่งเอเชีย ทั้ง “จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อิหร่าน, คาซัคสถาน” รวมทั้งชาติที่มีการพัฒนาด้านกีฬาขึ้นมาในระยะหลังอย่าง “อินเดีย, ไต้หวัน” และชาติที่แตกตัวออกมาจากสหภาพโซเวียตทั้งหลายที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น…

แต่ด้วยแรงสนับสนุนทั้งหลายส่วนจากทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่ร่วมกันพัฒนาวงการกีฬาไทยมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแรงใจเชียร์จากชาวไทยทั้งประเทศ เชื่อมั่นว่า ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังในศึกเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้อย่างแน่นอน

แต่คงต้องฝากชาวไทยทุกคนร่วมกันส่งแรงใจ และแรงเชียร์ไปให้ถึงดินแดนอิเหนาในครั้งนี้