ปรากฏการณ์ ‘แบล็กพิงก์-ไอดอลเกาหลี’ บุกไทย จากสนามศุภฯ ถึงราชมังคลาฯ 2 งานใหญ่สะท้อนจุดแข็งซอฟต์เพาเวอร์

ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยถือว่าเป็นศูนย์รวมศิลปินไอดอลเกาหลีมากที่สุดนับตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ปี 2023 ด้วยสองงานคอนเสิร์ตระดับเบิ้มๆ ภายในวันเดียวกัน เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา

นั่นก็คือคอนเสิร์ต “BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK” ของ 4 สาวเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังระดับโลก BLACKPINK (แบล็กพิงก์) ที่มีหนึ่งสาวไทย “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” เป็นสมาชิก

และอีกงานคืองานประกาศรางวัล “Golden Disc Awards ครั้งที่ 37” งานประกาศรางวัลเพลงที่เก่าแก่ของประเทศเกาหลีใต้

พ่วงด้วยคอนเสิร์ตระดับย่อมๆ ที่ครั้งนี้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงานเป็นครั้งแรก

 

เริ่มกันที่ฟากฝั่ง BORN PINK ของสาวๆ แบล็กพิงก์ กับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 4 ปี ที่กลับมาจัดในประเทศไทย หลังจากจัดครั้งล่าสุดไปเมื่อปี 2019 และถูกเว้นช่วงด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เข้ามา

โดยงานคอนเสิร์ตครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามกีฬาแห่งชาติ หรือสนามศุภชลาศัย เกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงดราม่าจากกลุ่มแฟนคลับมาตั้งแต่การเปิดเผยสถานที่จัดงาน พร้อมเสียงเรียกร้องให้ทางผู้จัดงานเปลี่ยนสถานที่

ด้วยเหตุผลว่า “สนามศุภชลาศัย” ไม่เหมาะสมกับการใช้เป็นสถานที่จัดงานคอนเสิร์ต เพราะจุคนได้น้อยกว่าประเทศอื่นๆ ที่แบล็กพิงก์ไปจัดคอนเสิร์ตมาก่อนหน้านี้

และประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโซนเอเชียและยังเป็นบ้านเกิดของลิซ่าด้วย หลายคนจึงคาดหวังว่าสถานที่จัดคอนเสิร์ตน่าจะดีกว่านี้ อลังการมากกว่านี้

เพราะลิซ่าสร้างชื่อให้กับประเทศในฐานะคนไทยที่ใช้ความสามารถและพรสวรรค์ของตนเอง จนได้กลายมาเป็นหนึ่งในสมาชิกวงแบล็กพิงก์ที่ดังระดับโลก

ไม่ว่าจะขยับ หยิบ จับอะไร ก็จะเกิดเป็นกระแสในทางที่ดีอยู่เสมอ

ยกตัวอย่างเช่น ลูกชิ้นยืนกินที่บุรีรัมย์ สายไหม ขนมไทยต่างๆ รวมถึงมะม่วงน้ำปลาหวาน ที่เพื่อนร่วมวงอย่าง “โรเซ่” ลงภาพว่าเป็นเมนูของโปรด ก็กลายเป็นเมนูขายดีขึ้นมาทันที

แม้เสียงวิจารณ์และเรียกร้องให้เปลี่ยนสถานที่จะดังมากแค่ไหน ท้ายที่สุดสถานที่จัดคอนเสิร์ตก็ยังคงถูกยืนยันว่าเป็นสนามศุภชลาศัยเช่นเดิม

ดราม่าไม่จบแค่เรื่องสถานที่ ภาพบรรยากาศการเตรียมงานที่สนามศุภชลาศัยก่อนถึงวันคอนเสิร์ต ถูกนำมาเป็นหัวข้อถูกวิจารณ์ในโลกโซเชียลกันอย่างล้นหลามอีกครั้ง จากภาพความเก่าแก่ทรุดโทรมของสถานที่ ยิ่งพอขึ้นป้ายรูปของทั้ง 4 สาว กลับยิ่งเพิ่มความเก่าแก่ ดูเป็นสไตล์วินเทจย้อนยุคมากกว่าจะดูทันสมัย ไม่สมกับความเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก

พร้อมกันนี้แฟนคลับบางส่วนยังเรียกร้องให้ทางผู้จัดดำเนินการปรับปรุงพื้นที่อย่างการทาสีใหม่เพื่อให้ไม่ดูเก่าซอมซ่อเป็นการด่วน

ประเด็นนี้ “ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์” อธิบดีกรมพลศึกษาคนปัจจุบัน ได้เปิดเผยว่า การจะปรับปรุงสนามศุภชลาศัยครั้งใหญ่คงเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ แต่จะดูแลให้อยู่ในสภาพที่ดี เนื่องจากสนามศุภชลาศัยถูกยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนเป็นอาคารอนุรักษ์ หรืออาคารเก่าที่มีคุณค่าทางทางสถาปัตยกรรมเป็นที่เรียบร้อย

โดยตอนนี้รอเตรียมขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากร เมื่อตัวสนามมีอายุครบ 100 ปี

สนามศุภชลาศัยแห่งนี้มีความเก่าแก่ ควรค่าแก่การอนุรักษ์อาคารสถานที่ให้คงสภาพเดิม ป้ายหรือโลโก้ที่ถูกมองว่าโบราณ กลับเป็นสิ่งที่ทางกรมพยายามอนุรักษ์ไว้ การขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเพื่อรับรองว่าสิ่งก่อสร้างแห่งนี้มีความสําคัญและมีคุณค่าทางศิลปะ ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี

เมื่อปรับปรุงไม่ได้ แฟนคลับแบล็กพิงก์ก็ได้แต่ทำใจยอมรับและได้แต่หวังว่าการจัดการภายในงานจะไม่แย่ไปกว่านี้

ในส่วนของการแสดง 4 สาวแบล็กพิงก์ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เพอร์ฟอร์แมนจัดเต็มทั้งร้อง เล่น เต้น แร็พ จนแฟนๆ อิ่มความสุขไปตามๆ มีเหล่าคนดังในวงการบันเทิงตบเท้าไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก

โดยยอดจำนวนแฟนคลับที่เข้าชมคอนเสิร์ต วันแรกมีการรายงานตัวเลขอยู่ที่ 40,000 คน

และวันที่สองมีการเปิดเผยจากหนึ่งในทีมงานของวงแบล็กพิงก์ ตัวเลขผู้เข้าชมอยู่ที่ 50,000 คน

ซึ่งตรงกับภาพมวลมหาแฟนคลับที่อัดแน่นอยู่ในพื้นที่สนามศุภชลาศัยที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ในช่วงวันงาน

และนับว่าเป็นความโชคดีที่ไม่มีเรื่องราวร้ายๆ จากการรวมตัวกันของคนเกือบครึ่งแสนในงานครั้งนี้

และหลังจากคอนเสิร์ตที่ไทยจบลงปุ๊บ แบล็กพิงก์ก็สร้างความปังอย่างต่อเนื่อง ได้รับเลือกให้เข้าร่วมงาน “Coachella” เทศกาลดนตรีชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งเผยรายชื่อศิลปินที่จะเข้าร่วมในปี 2023 อย่างเป็นทางการ

โดยงานนี้แบล็กพิงก์จะได้ร่วมแสดงในฐานะเฮดไลน์ หรือศิลปินที่จะเป็นไฮไลต์ของงาน หลังจากที่ในปี 2019 เคยเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่ขึ้นแสดงบนเวที Coachella มาแล้ว

ก่อนจะมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นศิลปินเคป๊อปวงแรกที่ได้เป็นเฮดไลน์ของงาน และจะขึ้นแสดงในวันที่ 15 และ 22 เมษายน ที่จะถึงนี้

ขณะที่อีกฝั่งซึ่งเป็นงานประกาศรางวัลผลงานเพลงอย่างงาน “Golden Disc Awards ครั้งที่ 37” งานประกาศรางวัลเพลงยอดนิยมของเกาหลีใต้ ที่มีมาตั้งแต่ปี 1986

ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานนอกประเทศ เป็นประเทศที่ 4 ต่อจากญี่ปุ่น, มาเลเซีย และจีน เพื่อให้อุตสาหกรรมเคป๊อปเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและก้าวเป็นผู้นำเทรนด์

“อีคยองรัน” ประธานผู้อำนวยการการจัดงาน Golden Disc Awards และ CEO บริษัท Studio Jam กล่าวเปิดใจในวันแถลงข่าว ถึงการเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงาน เพราะเชื่อในความรักและแรงสนับสนุนของแฟนๆ ชาวไทยที่มีต่อวัฒนธรรรมเคป๊อป

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีตลาดของเคป๊อปที่สำคัญมากๆ ถ้ามองในแง่ตลาดโกลบอลของอุตสาหกรรมเคป๊อปทั้งหมด เราทราบมาว่าประเทศไทยมีแฟนคลับจำนวนมากมากที่รักในเสียงเพลงเคป๊อปอย่างยิ่ง เราคิดมาเสมอว่าอยากจะมีโอกาสมาจัดงานที่ประเทศไทย แต่ทุกท่านน่าจะทราบดีว่าการที่เราจะได้จัดงานในต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ครั้งนี้เราได้เจอพาร์ตเนอร์ที่ดีในประเทศไทย มีเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม ก็เลยได้มาจัดงานในประเทศไทย เรามั่นใจว่าทุกการเตรียมงาน ทุกการแสดงของศิลปิน จะตอบแทนความรักและการรอคอยของแฟนๆ เคป๊อปในไทยเป็นอย่างยิ่ง” อีคยองรันกล่าว

โดยภายในงานมีการมอบรางวัลให้กับศิลปินไอดอลที่สร้างผลงานเพลงจนได้รับความนิยม รวมถึงโชว์การแสดงของศิลปินทุกวงทุกคนที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นวง Seventeen, Stray Kids, Enhupen, Le Sserfim, New Jeans, Treasure, IVE, G-IDEL, J-Hope, Big Naughty, BE’O, Younha, Jay Park

รวมถึงศิลปินระดับตำนานอย่าง PSY (ไซ) ตำนานตัวพ่อ เจ้าของผลงานเพลง “กังนัมสไตล์” ตำนานเพลงที่บุกเบิกเพลงเกาหลีให้ดังกระหึ่มทั่วทุกมุมโลก ในช่วงปี 2012 จนมียอดเข้าชมเอ็มวีมากถึง 4,600 ล้านวิว ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มาร่วมงานครั้งนี้

และถูกใช้เป็นเพลงปิดท้ายงานพร้อมชุดพลุสุดอลังการจากทีมงานเกาหลี เป็นของขวัญให้กับแฟนๆ ชาวไทยอีกหนึ่งเซ็ตใหญ่

งานนี้ถูกถ่ายทอดสดออกสู่สายตาชาวโลก ทำให้ประเทศไทยได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ของฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นต่อวงการเคป๊อป ซอฟต์เพาเวอร์ที่สำคัญของประเทศเกาหลีใต้

งานโปรดักชั่นที่ครอบคลุมทั้งเวที แสง สี เสียง ตลอดจนมุมกล้องจากฝีมือคนไทย ทำให้ชื่อของประเทศไทยกลายเป็นที่น่าจับตาในการเป็นแหล่งจัดงานเคป๊อปมากขึ้น จากเดิมที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว

ภาพการรวมตัวของคนจำนวนมาก ทั้งจากคอนเสิร์ตแบล็กพิงก์ ที่สนามศุภชลาศัย และงานประกาศรางวัล Golden Disc Awards ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ฉายภาพให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอุตสาหกรรมเคป๊อปได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มแฟนคลับชาวไทยเสมอมา

เป็นความสำเร็จและจุดแข็งที่เกาหลีใต้ให้ความสำคัญ-ผลักดันมาโดยตลอด จนสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ และได้รับความนิยมจากคนทั้งโลกอย่างถล่มทลายจนถึงทุกวันนี้