หลากวงการ ร่วมไว้อาลัยการจากไปของ “นิธิ เอียวศรีวงศ์”

7 สิงหาคม 2566 เวลา 11.47 น. นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่ของไทยได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งปอดมาอย่างยาวนาน ครอบครัวแถลงว่า นิธิสั่งเสียไว้ว่าจะบริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ และมีความประสงค์ที่จะไม่มีพิธีสวดพระอภิธรรม เพราะไม่ต้องการรบกวนให้ผู้อื่นต้องเดินทางไกลไปร่วมงานศพที่เชียงใหม่ ทางครอบครัวจะทำบุญที่วัดเป็นการภายใน แต่ถ้าใครอยากรำลึกถึงนิธิ ก็สามารถจัดงานทำบุญให้เองได้ตามความสะดวก

การจากไปของนิธิสร้างความสั่นสะเทือนแก่แวดวงวิชาการไทยเป็นอย่างมาก นิธิเป็นนักวิชาการที่ทรงอิทธิพลต่อแนวคิดของสังคมไทย และมีลูกศิษย์มากมายทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย ผ่านสถานะอันหลากหลาย ทั้งอาจารย์ นักวิชาการ คอลัมนิสต์ นักเขียนรางวัลศรีบูรพา ผลิตข้อคิดข้อเขียนมากมายจากหนังสือหลายเล่มที่กลายเป็นหนังสือระดับตำนาน พร้อมกับการผลิตผลงานอย่างต่อเนื่องยาวนานและสม่ำเสมอ ชื่อของนิธิ เอียวศรีวงศ์ จึงเป็นชื่อผู้คนยอมรับนับถือและต่างค้อมคารวะถึงความยิ่งใหญ่ทางวิชาการของเขา

นิธิ เอียวศรีวงศ์ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโท สาขาประวัติศาสตร์ จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ารับราชการในตำแหน่งอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้ลาศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา จนสำเร็จในปี พ.ศ.2519 กลับมารับราชการตามเดิม จนได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ และเข้าโครงการลาเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดใน พ.ศ.2543

นิธิ เอียวศรีวงศ์ เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการแสดงความคิดสู่สังคมผ่านรูปแบบบทความทางหนังสือพิมพ์ และในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์อยู่เป็นประจำ ผลงานหลายชิ้นของเขาเป็นดั่งหมุดหมายของวิชาประวัติศาสตร์ไทย ตั้งคำถาม ชี้เป้า และให้คำอธิบายถึงความเป็นไปได้ทางประวัติศาสตร์ที่คนทั่วไปอาจมองไม่เป็น อาทิ “ปากไก่และใบเรือ”, “การเมืองไทย สมัยพระเจ้ากรุงธนบุร”, “โมงยามไม่ผันแปร”, “กรุงแตก, พระเจ้าตากฯและประวัติศาสตร์ไทย”, “การเมืองไทยสมัยพระนารายณ์”, “ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียนและอนุสาวรีย์ว่าด้วยวัฒนธรรม, รัฐ และรูปการจิตสำนึก” ฯลฯ และเมื่อผู้อ่านได้พบเจอในสิ่งที่นิธิปักหมุดหมายในพรหมแดนใหม่แวดวงวิชาการนั้นไว้ สิ่งที่เคยรับรู้มาก่อนหน้านั้นก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะนิธิได้เสริมเติมข้อมูลใหม่ทางประวัติศาสตร์และสังคมร่วมสมัยให้แก่คุณไปแล้ว

มติชนสุดสัปดาห์รวมรวบการแสดงความไว้อาลัยต่อนิธิ เอียวศรีวงศ์ จากผู้คนในสังคมแทนการคารวะและน้อมส่งอาจารย์เดินทางไกลมา ณ ที่นี้

ศ.ดร.เกษียร เตชะพีระ 

In this nighttime marathon journey, we’ve come to lose a brilliant guiding star. It’ll sadly be darker but we’ve neither remorse nor hesitation and will continue to follow his spirit and march on till the dawn comes.

ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

“ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ปัญญาชนคนสำคัญของไทยคนหนึ่ง ผมอ่านบทความในมติชนของแกประจำตั้งแต่เป็น นร.มัธยม และมาอ่านงานของแกจริงจังมากขึ้นตอนเป็น นศ. ปี 1 …แม้ชีวิตจะเป็นสิ่งไม่เที่ยง แต่การสูญเสียใครสักคนที่เรารู้สึกผูกพันด้วย ย่อมทำให้เราใจหายเสมอ”

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

“My condolences…ครับ Aj. Nidhi is gone อ.นิธิ ได้จากพวกเราไปแล้ว ท่านคือนักประวัติศาสตร์แห่งยุคสมัยใหม่ที่ทำให้พวกเรา “ตาสว่าง” กับทั้งอดีตและปัจจุบัน ท่านเสนอแนะ “อนาคต” ไว้เป็นแนวทางแห่ง “สัจจธรรม” เพื่อนสนิท “ข้ามชาติ” ของท่านคนหนึ่งบอกว่า นี่แหละคือกฎแห่งธรรมชาติ”

สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส. ศิวรักษ์ 

แด่ นิธิ เอียวศรีวงศ์  นิธิ เอียวศรีวงศ์ ไม่ได้เป็นเพียงนักประวัติศาสตร์ ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามาก และลูกศิษย์เขาแต่ละคนก็มีความรอบรู้ประวัติศาสตร์  นิธิเขียนหนังสือหลายเล่มอย่างน่าอ่าน น่าทึ่ง น่าวิจารณ์
นอกเหนือไปจากการเป็นอาจารย์ เป็นนักเขียนแล้ว นิธิยังเป็นปัญญาชน ซึ่งอาจารย์ที่เป็นปัญญาชนนั้นมีน้อย นิธิเป็นปัญญาชนซึ่งยอมเสี่ยงชื่อเสียงเกียรติยศ เพื่อแสดงทัศนะต่อต้านเผด็จการ ยืนหยัดอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย

นิธิเป็นคนสำคัญที่ตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนขึ้น อุดหนุนชาวบ้านร้านตลาดให้เขาได้รับปริญญาเอกไม่แพ้กับคนอื่นๆ น่าเสียดายที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนนั้นมีอันเป็นไป เพราะเหตุผลส่วนตัว

นิธิได้ใช้ชีวิตทั้งหมดเพื่อส่วนรวม เพื่อลูกศิษย์ลูกหา และเพื่อประชาชน ไม่เฉพาะคนไทย คนใดก็ตามที่สนใจเรื่องเมืองไทย สนใจเรื่องอดีตของไทย สนใจในความเป็นไปของไทย จะต้องนึกถึงนิธิตลอดไป
ส. ศิวรักษ์

สุชาติ สวัสดิ์ศรี 

นิธิ เอียวศรีวงศ์ ลาลับจากไปแล้ว
ด้วยรักและอาลัยในมิตรภาพ
ที่ยาวนานมาตั้งแต่ครั้ง “สังคมศาสตร์ปริทัศน์”

บรรยง พงษ์พานิช

กราบไว้อาลัยปราชญ์สยาม ศาสตราจารย์ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์…
ความเมตตาที่มีให้จะอยู่ในใจผมตลอดไปครับ

ศ.ดร.โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์ นักวิชาการปรัชญา 

เสียใจมากๆกับการจากไปของ อ. นิธิอย่างกะทันหัน รู้จักอาจารย์ครั้งแรกตอนกลับจากอเมริกาใหม่ๆ ไปเสนอเปเปอร์ที่ ม. ธรรมศาสตร์ อาจารย์คอมเมนต์ไว้ดีมากๆ ยังจำได้

รศ.ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์

อาลัยอาจารย์นิธิ แวดวงวิชาการสูญเสียบุคลากรที่ไม่อาจทดแทนได้
RIP AJ Nidhi – we have lost a great scholar who is irreplaceable.

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 

ด้วยรัก เคารพ และ อาลัย อ. นิธิ ครับ  จากผู้ที่ตามอ่านงานเขียนของอาจารย์ทุกอาทิตย์  ขอให้พวกเราได้มีโอกาสร้างสังคมอย่างที่อาจารย์ถวิลหาในที่สุดครับ

ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 

ภาควิชาประวัติศาสตร์ ขอแสดงความเสียใจ และอาลัยยิ่ง ต่อการจากไปของ ศาสตราจารย์ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักประวัติศาสตร์คนสำคัญของไทย

สาขาวิชาประวัติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

สาขาวิชาเอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอแสดงความอาลัย กับการจากไปของท่านศาสตราจารย์ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ผู้ประสิทธิ์ประสาทงานวิชาการประวัติศาสตร์นับไม่ถ้วนอีกท่านหนึ่ง และระลึกถึงคูณูปการองค์ความรู้ที่ท่านได้มอบไว้ แก่นักวิชาการสายสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และผู้สนใจใฝ่ศึกษาทั้งปวงครับ

ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอแสดงความเสียใจและอาลัยอย่างสุดซึ้งในการจากไปของ ศาสตราจารย์ ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์ คุณูปาการทางภูมิปัญญาที่ท่านอาจารย์มอบไว้ให้แก่สังคมไทยจะเป็นนิรันดร์

ยุกติ มุกดาวิจิตร

ผมเสียใจกับการจากไปของอาจารย์ครับ ขอบคุณที่อาจารย์วางแนวทางหลายๆ อย่างไว้ให้แก่สังคมไทย ขอบคุณที่ได้รู้จักและได้เป็นกัลยาณมิตรแก่กันในบั้นปลายของชีวิตอาจารย์  (อ่านฉบับเต็ม)

พวงทอง ภวัครพันธุ์

สำหรับดิฉัน การได้รู้จักอาจารย์นิธิถือเป็น privilege เป็นความงดงามหนึ่งที่บังเกิดแก่ชีวิตของดิฉัน
แม้จะรู้ว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่เที่ยง แม้จะรับรู้เรื่องนี้มาสักพักใหญ่แล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่อาจารย์จากไป ก็ใจหายเสียเหลือเกิน พวกเราจะคิดถึงอาจารย์ไปอีกนาน … ไม่มีใครจะสามารถแทนที่นักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ได้เลย ด้วยความเคารพรักและอาลัยอย่างถึงที่สุด (อ่านฉบับเต็ม)

สมบัติ บุญงามอนงค์

เคยมีโอกาสนำนาฬิกา 2475 ไปมอบให้ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์กับมือ ได้นั่งทานข้าวด้วยกัน อ.เล่าว่าแกเป็นนักสะสมนาฬิกาเก่า แกตกใจนิดหน่อยที่นาฬิกาของผมเป็นนาฬิกาแขวน ผมเข้าใจว่าแกพยายามนึกว่าจะแขวนยังไงและมันก็จะดูแปลกๆหากที่บ้านมีนาฬิกาแขวนอยู่แล้ว จะมีหลายอันก็จะกระไร

นอกจากนั้นคนใกล้ชิด อ.นิธิ เล่าว่าตอนที่ผมเคลื่อนไหวในช่วงปี 53 ในกิจกรรมผูกผ้าแดงและหลายๆกิจกรรม แกชื่นชมทั้งวิธีคิดและวิธีการ ประมาณว่าแกสนุกกับกิจกรรมที่ผมทำมาก
วันนี้ทราบข่าวว่า อ.นิธิ ได้จากพวกเราไปแล้ว ผมขอกราบลา อ.มา ณ โอกาสนี้

เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของอ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ปัญญาชนนักวิชาการที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความยุติธรรมทางสังคม ตอนผมถูกจุฬาฯปลดจากตำแหน่งนายก อบจ อาจารย์กรุณาเขียนบทความ“กึ๋นของอนุรักษ์นิยมไทย” ขอเชิญชวนทุกคนอ่านบทความนี้อ่านงานต่างๆที่อ.เขียนเพื่อสังคมไทยที่ใจกว้างเป็นธรรมกว่านี้

เพนกวิน – พริษฐ์ ชิวารักษ์

อนิจฺตา วต สงฺขารา อุปฺปาทวยธมฺมิโน อุปฺปชฺชิตวา นิรุชฺฌนฺติ เตสํ วูปสโม สุโข
ขอแสดงความอาลัยกับ ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ครูบาอาจารย์คนสำคัญยิ่งของวงการประวัติศาสตร์ไทย
สิ้นชีวิตท่านแล้ว แต่ผลงานของท่านจะยังคงอยู่เพื่อจรรโลงสังคมไทยต่อไป
ขอให้ดวงวิญญาณของท่านเข้าถึงสุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ

ปกป้อง ชานันท์” ผู้รับผิดชอบนโยบายด้านอัตลักษณ์และความหลากหลายทางเพศ-ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย

กราบอาจารย์นิธิครับ ตั้งเเต่เรียนจนทำงานทุกวันนี้ได้ ป้องก็ได้ความรู้ข้อคิดจากอาจารย์มากมาย
อาจารย์ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ เผยแพร่ความรู้ และขับเคลื่อนประชาธิปไตย
วันนี้เป็นวันที่ช็อค และเสียใจอีกวันที่ทราบข่าวการจากไปของอาจารย์ครับ
วิชาความรู้ข้อคิดต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลกทัศน์ผู้คนและลูกศิษย์ และการเคลื่อนไหวขออาจารย์ คือมรดกสำคัญของวงการวิชาการครับ

ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ หนึ่งในสดมภ์หลักของสังคมไทย ทั้งด้านประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครอง และการยืนหยัดเคียงข้างการต่อสู้ของภาคประชาชนตลอดมา #ก้าวไกล

ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย

ทราบข่าว อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ท่านเสียชีวิตในวันนี้ เป็นการสูญเสียอาจารย์ผู้ทรงคุณค่าต่อแวดวงวิชาการ โดยเฉพาะประวัติศาสต์ และการเมืองของไทย ด้วยความเคารพ และความอาลัยค่ะ

วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์

อาทิตย์ก่อน จะแวะเอาน้ำเต้าหู้ทำเอง ของโปรดอาจารย์นิธิไปให้
คนที่บ้านบอกว่า ตอนนี้แกทานอะไรไม่ได้แล้ว
แม้จะเตรียมใจรับสภาพ
แต่พอทราบข่าววันนี้ใจหายจริงๆ
อ่านหนังสือแกมายาวนาน
นึกถึงวันคืนเก่าๆ ที่เคยเดินทางไปกับแกตอนเขื่อนปากมูล จนถึงโรงไฟฟ้าบ่อนอก หินกรูด ฯลฯ
แกเป็นนักวิชาการที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดคนหนึ่งเท่าที่สังคมไทยเคยมีมา
มีแต่ความอ่อนน้อมถ่อมตนกับชาวบ้าน แต่แข็งกร้าวกับเผด็จการและใช้ความรู้เหล่านี้อยู่เคียงข้างกับคนยากคนจนมาตลอดชีวิต
ไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์และหลักการจนลมหายใจสุดท้าย
อีกนานทีเดียว ที่เราจะได้เห็นบุคคลเช่นนี้
กราบอาจารย์ครับ

หนุ่มเมืองจันท์

กราบลาด้วยอาลัย
อจ.นิธิ เอียวศรีวงศ์
ปราชญ์แห่งสยาม
ยังจำคำพูดนี้ของอาจารย์ได้ดีครับ
“หมุนเข็มนาฬิกากลับกี่ครั้ง
เข็มก็เดินหน้าเสมอ”
นี่คือ สัจธรรมของกาลเวลา

ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย  อ.นิติศาสตร์ จุฬาฯ

ทราบข่าวการจากไปของ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ แล้วรู้สึกใจหายและเสียใจอย่างยิ่ง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่สนใจเรื่องประเด็นทางการเมือง กฎหมายและสังคมต้องอ่านงานของท่าน ซึ่งผมเองติดตามอ่านงานของท่านมาตั้งแต่สมัยเรียนตราบจนปัจจุบัน  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คงต้องบอกว่าวงการวิชาการของไทยได้สูญเสียบุคลากรคนสำคัญที่ผมเองสามารถเรียกได้อย่างไม่ขัดเขินเลยว่า “นักปราชญ์” ไปเสียแล้ว

นอกจากโอกาสพูดคุยส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ผมเคยร่วมงานกับ อ.นิธิ อย่างเป็นทางการด้วยการร่วมเวทีเสวนาเรื่องอำนาจศาลรัฐธรรมนูญกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เชียงใหม่ซึ่งก็นานมากแล้ว ยังจำได้ดีว่าในวงเสวนาวันนั้นทั้งเหตุและผลที่ท่านหยิบยกพูดถึงเรื่องดังกล่าวราวกับว่าท่านเรียบจบมาทางด้านนิติศาสตร์เลยทีเดียว เพราะเต็มไปด้วยตรรกะและเหตุผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้งยากจะถกเถียง ทั้งๆ ที่เราก็ทราบกันดีว่าท่านมิใช่นักกฎหมาย และนี่คือจุดเด่นของ อ.นิธิ ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน (ท่านได้)

ต่อจากนี้ไปเราคงไม่มีโอกาสได้ฟังบทสัมภาษณ์และงานเขียนของ อ.นิธิ อีกต่อไปแล้ว แต่งานของท่านจะเป็นงานอมตะที่จะถูกพูดถึงอ้างอิงตลอดไปในวงการวิชาการของไทย (อาทิ รัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรม ฯลฯ)  ขอร่วมแสดงความเสียใจต่อการจากไปของอาจารย์ด้วยครับ

โตมร ศุขปรีชา นักเขียน 

สมัยทำงานใหม่ๆ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ มีบรรยายเรื่อง ‘เสด็จพ่อ ร.5’ น่าจะที่มติชน ผมได้รับมอบหมายให้ไปฟังแล้วเขียนออกมาเป็นรายงานสั้นๆ ถึงเรื่องนี้ลงในนิตยสาร Trendy Man

จำได้ติดใจเลยว่า พองานตีพิมพ์ออกมา พี่สุ – บรรณาธิการใหญ่เรียกเข้าไปบอกว่า อ.นิธิ ถามถึงเลยนะ ว่าใครเขียนรายงานนี้  ไม่ใช่เพราะเขียนดีนะครับ แต่เพราะเขียนแย่ต่างหาก

ตอนนั้นผมเพิ่งจบการศึกษาด้านชีวเคมีจากคณะวิทยาศาสตร์ จึงไม่มีความเข้าใจอะไรกับเรื่องทางสังคมศาสตร์หรือประวัติศาสตร์เลย อย่าว่าแต่ประวัติศาสตร์ในแบบที่มีการตีความใหม่อย่างลึกซึ้งอย่างที่ อ.นิธิ ทำเลย

แต่เป็นตอนนั้นเอง ที่คำตำหนิของ อ.นิธิ ที่ส่งผ่านมาทางพี่สุ กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผม ‘ตาสว่าง’ ในมิติการเรียนรู้ทางสังคม และตระหนักถึง ‘ข้อด้อย’ ของการเรียนแค่วิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ว่าแม้มันจะไม่ได้ขังเราเอาไว้ในกรอบ แต่ถ้าเราคุ้นชินกับกรอบเดียว เราก็อาจไม่เห็นโลกแบบอื่นๆ ด้วยสายตาและมุมมองอื่นๆ ได้เลย

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ผมอ่านงานของ อ.นิธิ เท่าที่จะหาได้ ทั้งคอลัมน์ ‘น้ำ ฟ้า ปลา ดาว’ ที่อาจารย์เขียนตอบปัญหาชีวิตต่างๆ โดยใช้นามปากกาว่า ‘รังรอง’ ในนิตยสารแพรว ไปจนถึงคอลัมน์สำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศนี้ ในมติชนสุดสัปดาห์และมติชนรายวัน

หลายเรื่องหลายประเด็นมาก ที่เหมือนงานเขียนของ อ.นิธิ ได้กระชากผมขึ้นมาจากหลุมลึกทางความเข้าใจในเรื่องต่างๆ เมื่อได้อ่านมากขึ้น และรู้จักกับนักเขียนนักวิชาการทางตะวันตกมากขึ้น ผมคิดว่า อ.นิธิ ยิ่งใหญ่เหมือน Howad Zinn นักประวัติศาสตร์และนักปรัขญาอเมริกัน

เมื่อทราบข่าวการเดินทางไกลของ อ. ในวันนี้ จึงเสียใจมาก เสียใจมากจริงๆ ที่จะไม่ได้เห็นความคิดและการวิเคราะห์เรื่องต่างๆ จาก อ. ผู้ที่ผมถือเป็นครูคนสำคัญอีกแล้ว

ขอแสดงความคารวะ อาลัย และจะย้อนกลับไปอ่านงานของอาจารย์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ

ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย

อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์  จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราต่อไป หลับให้สบายนะคะ

เชตวัน เตือประโคน ส.ส.ปทุมธานี

ทราบข่าวการเสียชีวิตของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ แล้วก็รู้สึกใจหาย แม้จะพอทราบเรื่องสุขภาพของอาจารย์อยู่บ้าง แต่พอ “เวลา” มาถึงจริงๆ ก็ปรับอารมณ์ไม่ได้เหมือนกัน   ผมไม่เคยเรียนกับอาจารย์นิธิ และแน่นอนแล้วว่าก็คงไม่ได้มีโอกาสได้เรียนแบบลงทะเบียนเรียน แต่ถ้าถามถึงครูพักลักจำ ในวงพูดคุย ในวงเสวนา เกือบทุกประโยคของอาจารย์มีส่วนสำคัญทำให้ผมเป็นผมอย่างทุกวันนี้

ผลงานหลายๆ ชิ้นของอาจารย์ บางครั้งผมถึงขั้นอ่านแล้วอ่านอีก ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่เป็นการค้นหากลเม็ดเด็ดพรายในสไตล์การเขียน คิด และวิเคราะห์ปรากฏการณ์ต่างๆ  อาจารย์นิธิเป็นคนเขียนบทความได้สนุก และเป็นคอลัมน์แรกๆ ในมติชนสุดสัปดาห์ที่ผมเปิดมาอ่าน

อาจารย์นิธิเป็นคนเล่าเรื่องสนุก น่าติดตาม และคลิปการบรรยายในงานต่างๆ ของอาจารย์ที่ปรากฏอยู่บนยูทูป เป็นสิ่งที่ผมเปิดฟังคลิปแล้วคลิปเล่าขณะเวลาขับรถเดินทาง  วันนี้ ไม่มีอาจารย์นิธิแล้ว แต่ผลงานอันทรงคุณค่าของ “บุคคลที่ควรบูชา” ยังอยู่และจะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นต่อๆ ไป ตลอดกาลครับ  ด้วยอาลัย อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์

รังสิมันต์ โรม

ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ผู้คอยเป็นกำลังใจให้กับการเรียกร้องประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่แม้ในบั้นปลายของชีวิต จำได้ว่าผมยังเคยไปร่วมงาน “รดน้ำดำหัวเยาวชน” ที่อาจารย์อยากขอขมาเด็กๆ ที่ต้องโตมาในสังคมที่คนรุ่นอาจารย์สร้างขึ้น ขอให้อาจารย์วางใจว่าพวกผมและพี่น้องประชาชนจะไม่หมดหวังในการต่อสู้เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าอย่างแน่นอนครับ

อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

ใจหาย
ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์
ด้วยความรักและเคารพ

เดชรัต สุขกำเนิด

อาลัย ศ. นิธิ เอียวศรีวงศ์ ผมรู้จักชื่อของอาจารย์ครั้งแรกจากหนังสือ การเมืองไทยในสมัยพระนารายณ์ แต่มาใช้หนังสือของอาจารย์จริงจังในการสอนในหนังสือ สองหน้าสังคมไทย

ก่อนผมไปเรียนต่อ ป.เอก ผมได้ไปขอความรู้จากอาจารย์เรื่อง “นโยบายสาธารณะ” อาจารย์นิธิได้สอนผมว่า นักวิชาการไทยชอบใช้โมเดล “กระซิบกับผู้มีอำนาจ” แต่อาจารย์บอกว่า โลกมันกำลังเปลี่ยนแล้ว อาจารย์จึงสอนผมใช้โมเดล “กระจ่างกับสาธารณะ” ถ้าสาธารณะกระจ่างแล้ว เดี๋ยวนโยบายจะต้องเปลี่ยนเอง

จากวันนั้น ผ่านมา 20 ปี ผมได้ทำงานสายนโยบายมาโดยตลอด และจะไม่ลืมคำสอนของอาจารย์ และจะพยายามสร้างความกระจ่างให้ได้สักครึ่งหนึ่งของที่อาจารย์ทำ

ขอกราบขอบพระคุณ และขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งมา ณ โอกาสนี้

เบญจา แสงจันทร์

ขอน้อมส่ง อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ด้วยความเคารพและอาลัยยิ่ง อาจารย์เป็นยอดนักคิด นักเขียน นักประวัติศาสตร์แห่งสังคมไทย เป็นปัญญาชนผู้ยืนหยัดหลังตรงต่อหลักการ ไม่ก้มหัวให้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม ผลงานวิชาการของอาจารย์ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง และจะยืนหยัดอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป

สมภพ รัตนวลี

ขออาลัยต่อการจากไปของ ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการเพื่อคนทุกข์คนยาก และแวดวงวิชาการประวัติศาสตร์ การเมือง การเมืองภาคประชาชน ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคม

แน่นอน ผมเหมือนคนอื่นๆที่อ่านงานเขียนของอาจารย์ผ่านมติชนสุดสัปดาห์ตั้งแต่เด็ก จนเข้ามหาวิทยาลัย และอ่านหนังสือ อ.นิธิ ผ่าน สนพ.มติชน อย่างสนุกสนานและขนลุกขนชันตลอดเวลา อ.นิธิ มีจุดยืนในเรื่องประชาธิปไตย และการกระจายอำนาจอย่างคงเส้นคงวา และไม่เคยเห็นแกเข้ารกเข้าพงเลย จริงๆ นะ

เคยเชิญอาจารย์มาออกรายการทีวีก็หลายครั้งหลายหน มีครั้งหนึ่งที่ยังได้เรื่องมาเล่าให้พรรคพวกฟังไม่รู้จบ ผมเป็นโปรดิวเซอร์รายการ “ลานบ้านลานเมือง” ไปทำเรื่องประท้วงเขื่อนปากมูล ที่ จ.อุบลฯ จองตั๋วเครื่องบินจากเชียงใหม่ให้อาจารย์ หาที่พักให้ เมื่อจบรายการก็เอาซองใส่เงินค่าวิทยากรให้ราวๆ 3,000 บาท แต่ อ.นิธิ มองหน้าผมและบอกว่า ผมไม่เอา คุณจ่ายค่าเครื่อง ค่าที่พัก อาหารแล้ว ผมอยากมาพูดให้คนปากมูล แบบไม่เอาเงิน โอเคนะ ผมก็โอเคด้วยแบบงงงง

ผมไม่รู้ อ.นิธิ เชื่อเรื่องสัมปรายภพไหม แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่อาจารย์ทำมาทั้งหมด จะส่งผลให้ภพนี้มีเหตุมีผล บ้านเมืองมีหลักมีการ และมีลูกศิษย์ลูกหามากมายที่ได้ไอเดียจากอาจารย์ไปสรรค์สร้างต่อไม่รู้จบ ไม่รู้ตายครับ”

เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพฯ

อาจารย์เป็นหนึ่งคนที่ผมตามตั้งแต่สมัยเรียน อาจารย์เป็นหนึ่งคนที่ทำให้ผมรักที่จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์
อาจารย์เป็นหนึ่งคนที่ทำให้ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาและควรให้ความสำคัญ  และผมเชื่อว่าหลายหลักความคิดของอาจารย์จะอยู่ในหลาย ๆ การตัดสินใจของผมในอนาคต

ผมเสียใจที่อาจารย์จากไป อาจเป็นเพราะจะไม่ได้อ่านงานของอาจารย์อีกแล้ว พวกเราล้วนเสียใจต่ออีกครั้ง ที่ประเทศนี้ได้สูญเสียเสาหลักความรู้เกี่ยวกับด้านนี้ไป

การคงอยู่ของมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่มีทางที่จะตลอดไป แต่สิ่งที่อาจารย์ได้มอบให้พวกเราล้วนเป็นสิ่งที่ยั่งยืนและตลอดไป

แด่อาจารย์ นิธิ เอี่ยมศรีวงศ์ และขอร่วมเสียใจกับครอบครัวของอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วย

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร

ผมยอมรับว่า ผมรู้สึกใจหายกับการจากไปของอาจารย์ #นิธิเอียวศรีวงศ์ เป็นอย่างมาก

เพราะในทุกๆ ครั้ง ที่ผมรู้สึกว่ากำลังยืนอยู่ระหว่างทางสามแพร่งของการตัดสินใจ ข้อคิด และบทความของ อ.นิธิ จะช่วยตรึงจุดยืนที่มั่นคงให้กับผมได้เสมอ

ขอไว้อาลัยกับการจากไปของ อ.นิธิ ไว้ ณ ที่นี้ครับ

พล.ท.พงศกร รอดชมภู

ขอไว้อาลัยกับการจากไปของ  อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์
ตำราของท่านวิจัยไว้อย่างเป็นกลาง อคติหาได้ยากยิ่ง
นับว่าชาติได้สูญเสียบุคคลสำคัญไปอีกท่านหนึ่งครับ

ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม

ขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของอาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์  ตลอดชีวิตการอ่านของผม ท่านเปิดโลกแห่งประวัติศาสตร์และการเมืองของไทยให้กว้างขวาง มีหลายมุมที่ไม่เคยคิดมาก่อน และยังอ่านสนุกไปพร้อมๆกัน การจากไปของท่านนับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของแวดวงนักคิดนักเขียนนักวิชาการของไทยจริงๆ

ดร.ภาณุ ตรัยเวช

“วัฒนธรรมสำคัญกว่าความรู้” ยังคงเป็นคำพูดอาจารย์นิธิที่เราจำได้แม่นยำที่สุด
ซึ่งจะโทษเราก็ไม่ได้นะ เพราะมันเป็นประโยคที่ เรณูปัญญา เคยเอามาแซวใน “อ่าน” เล่มแรกๆเอาจริงมันเป็นประโยคที่ขว๊าขวา (ขนบธรรมเนียมประเพณีสำคัญกว่าความรู้จากตะวันตก — เราเคยตีความมันแบบนี้นะ) แต่ในบริบทสมัยนั้น ในสังคมที่มีแต่ขวา (ขนาดซ้ายยังเป็นขวาเลย 555) มันก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรนัก และเอาจริงๆ อาจารย์อยู่ในหมู่นักวิชาการแดงคนแรกๆ เลยด้วยซ้ำหลังจากนั้นไปๆ มาๆ เราครุ่นคิดถึงคำพูดนี้บ่อยมาก จนตอนนี้มันกลายมาเป็น creed ส่วนตัวของเราเลย
อย่าเปลี่ยนความคิดคน แต่จงสร้างวัฒนธรรมใหม่ ให้คนมาเข้าร่วมได้ วัฒนธรรมคือพฤติกรรม เปลี่ยนพฤติกรรมคนก่อน แล้วความคิดเขาจะเปลี่ยนตามมาเองทีหลัง “วัฒนธรรมสำคัญกว่าความรู้” จริงๆ ด้วยครับอาจารย์

ขอให้อาจารย์สู่สุขคตินะครับ