“ผู้นำใหม่” 10 มหาเศรษฐีประเทศไทย/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

“ผู้นำใหม่” 10 มหาเศรษฐีประเทศไทย

 

ฉบับที่แล้ว “ค้างท่อ” ไว้ ว่าด้วยเรื่อง “ผู้นำใหม่” ของประเทศไทย ดูตามใจกระแสสังคม จากคะแนนนิยมผลสำรวจของ “นิด้าโพล” ที่ทิ้งปมยังไม่สนับสนุนเลือกใคร ทั้ง “พรรคการเมือง-ตัวบุคคล” เพราะยังหาจุดเหมาะสมลงตัวไม่ได้ จึงละไว้สูงถึงร้อยละ 40 ทั้งสองภาคส่วน

เกือบครึ่งของผลสำรวจ ชักตะพานแหงน รอคนเก่ง ที่เพียบพร้อมทุกองคาพยพ ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน มีนวัตกรรมก้าวทันโลกในยุคแห่งการท้าทายเปลี่ยนแปลง แบบไร้พรมแดนอย่างรวดเร็ว ซึ่งค่อนข้างหายาก และแสดงว่า คนที่อยู่บนเวทีการเมืองในเวลานี้ คุณลักษณะยังไม่โดดเด่นเพียงพอ

จึงเริ่มต้นคนโดนใจจาก “ทางเลือกแรก” 10 มหาเศรษฐีประเทศไทย ลากลายแทงทุกมติ จุดลงตัวที่ “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่มีองค์ประกอบบริบูรณ์

ทั้งครองอันดับ 5 เศรษฐีประเทศไทย แชมป์หุ้น 2 ปีซ้อน บริษัท “กัลฟ์” เติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นเบอร์หนึ่งด้านพลังงานแล้ว สามารถเข้าซื้อหุ้น INTUCH เปลี่ยนมือยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม มาอยู่กับคนไทยได้สำเร็จ

ไม่ต้องอะไรมาก คิดจากตรรกะง่ายๆ สะท้อนผ่าน หากเอาความรู้ความสามารถที่สร้างความสำเร็จให้กับองค์กรของตัวเองมาขับเคลื่อนพัฒนาประเทศให้เหมือนกับบริษัท ยึดโยงอยู่บนพื้นฐานส่วนรวมอย่างแท้จริง

ทุกอย่างที่บอบช้ำอย่างหนัก ไม่ว่าเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรืออื่นใด ประเทศอาจจะมีความหวังขึ้นมาได้บ้าง แต่เบื้องต้น ขณะนี้ ชั่วโมงนี้ ดังที่ฟันธงไว้ “เจ้าตัว” น่าจะปฏิเสธมากกว่าตอบรับ ยกเว้น “มีเงื่อนไขใหม่”

บุคคลต่อมา ที่โดดเด่นและมีความเป็นไปได้มาก คือ “เศรษฐา ทวีสิน” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และยังสวมหมวกอีกหลายใบ ทั้งบริษัท ปภานัน จำกัด บริษัท เอส.ยู.เอ็น แมเนจเม้นท์ จำกัด บริษัท เอ็นอีดี แมเนจเม้นท์ จำกัด บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สเปซ จำกัด

ผู้คร่ำหวอดแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ระดับเบอร์ต้นๆ ของประเทศ อายุพอดิบพอดี 58 ปี จบการศึกษาปริญญาโท บริหารธุรกิจ-การเงิน Claremont Graduate School ประเทศสหรัฐอเมริกา

เขาถูกปล่อยข่าวมาตลอดว่า อาจจะเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของ “พรรคเพื่อไทย” เป็นนักธุรกิจที่ “กล้า” แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ตรงไปตรงมา พูดจาจับต้องได้ เห็นภาพ ชี้ปัญหาสังคม แบบไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม คู่ขนานไปกับการทำธุรกิจ ซึ่งมีน้อยคนมากที่ไม่ได้เกรงกลัวอำนาจรัฐ

เมื่อไม่นานมานี้ “โทนี่ วู้ดซัม” หรือ “ทักษิณ ชินวัตร” แสดงความคิดเห็นในคลับเฮาส์ และเปิดประเด็นค้างเอาไว้ว่า แคนดิเดตนายกฯ คนหนึ่งของเพื่อไทยคนต่อไป มีบุคลิกเหมือนกับผม

ผู้คนและคอการเมือง พากันคาดหมายไปในทิศทางเดียวกันว่า น่าจะหมายถึง “เศรษฐา ทวีสิน” นักธุรกิจคนรุ่นใหม่ มีความรอบรู้ทั้งโลกเก่าและโลกใหม่ ยอดเยี่ยมด้านการตลาด ขณะที่ความเป็นไปได้ เจ้าตัวยังไม่ได้ตอบรับ หรือปฏิเสธ เช่นเดียวกันคงต้องรอจังหวะปะเหมาะก่อนตัดสินใจ

 

ต่อไป มองหาผู้คนในแวดวงบนเวทีการเมือง ต่อด้วยนักธุรกิจเบอร์ใหญ่ของเมืองไทย 10 อันดับแรก มาถึงผู้ประสบผลสำเร็จแห่งวงการอสังหาฯ ลำดับถัดมา เฟ้นหา “ผู้นำรุ่นใหม่” จากบริษัท องค์กร กึ่งรัฐวิสาหกิจ-ที่ผลประกอบการอยู่แนวบวก เป็นที่กล่าวขานมาเป็นเวลานาน

คงไม่มีใครปฏิเสธ หนึ่งคือ “ปูนซิเมนต์ไทย” หรือ “เอสซีจี” เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังในภูมิภาคอาเซียนที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 100 ปี ผลิตปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง ที่สำคัญ มีการขยายกิจการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการยอมรับและเป็นต้นแบบของบริษัทมหาชนที่ดีเยี่ยม

ผู้บริหารองค์กรเอสซีจี มีชื่อเสียงมาทุกยุคทุกสมัย ปัจจุบัน “รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส” ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ต่อจาก “กานต์ ตระกูลฮุน” เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 แต่ “รุ่งโรจน์” ไม่ได้ท่องยุทธจักรนอกวงการเท่าใดนัก

ตามด้วย “การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย” หรือ “ปตท.” บริษัทด้านพลังงานของไทยที่แปรรูปมาจากรวมการกิจการพลังงานของรัฐ 2 องค์กร คือ องค์กรเชื้อเพลิง กับองค์การก๊าซธรรมชาติ เมื่อปี 2521 และประสบผลสำเร็จเป็นยักษ์ใหญ่รัฐวิสาหกิจของไทย อันดับที่ 95 ของโลกที่ผลประกอบการรายได้สูงสุด

ผู้บริหารองค์กรหมายเลข 1 ในปัจจุบันได้แก่ “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพิ่งได้รับแต่งตั้ง อายุแค่ 55 ยังอยู่ในตำแหน่งอีกนาน โอกาสที่จะผันตัวเองสู่เวทีการเมือง เป็นหนึ่งในทำเนียบนามนายกรัฐมนตรี จึงยังมีเวลาอีกยาวไกล

บุคคลต่อมา ที่รับผิดชอบองค์กรขนาดใหญ่ ผลประกอบการยอดเยี่ยม มีผลสำเร็จ ความเชื่อมั่นสูง มองไปที่ธนาคาร ได้แก่ “ไทยพาณิชย์” ที่ขณนี้ “อาทิตย์ นันทวิทยา” เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งปรเเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556

ปัจจุบัน “อาทิตย์” อายุ 50 กลางๆ ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากสถาบันบัณฑิตศศินทร์ ประสบการณ์การเงิน การธนาคารมากว่า 20 ปี ก้าวขึ้นมานั่งเบอร์ 1 ไทยพาณิชย์ต่อจาก “ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย”

คนสุดท้ายที่โดดเด่น คือ “ผยง ศรีวณิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย คนที่ 24 ได้รับความไว้วางใจ แม้อายุยังน้อยแค่ 52 ปี แต่โปรไฟล์ไม่ธรรมดา มีประสบการณ์ด้านการเงินการธนาคารมากว่า 20 ปี สำเร็จการศึกษาปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ ที่ University of Arizona สหรัฐอเมริกา เป็นพลังขับเคลื่อนหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นในยุคไทยแลนด์ 4.0

ที่เอ่ยนามมาทั้งหมด ดังที่บอกไว้เบื้องต้น ใครมาไม่มาก็ตาม แต่ถือว่าล้วนแล้วแต่เป็นผู้นำองค์กร บริหารงานที่รับผิดชอบอยู่ประสบผลสำเร็จ แค่จินตนาการเอาว่า ถ้ามาบริหารประเทศชาติ บ้านเมืองให้บรรลุเหมือนบริษัท

คนไทยจะมีความหวัง และความสุขขึ้นมาได้บ้างล่ะ ไม่มากก็น้อย