คิดผิด ขอให้คิดใหม่/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

คิดผิด ขอให้คิดใหม่

 

“ทอดไมตรี” จูบปากหย่าศึกกันชื่นมืนอีกครั้ง “พี่น้อง 3 ป.” เมื่อบ่ายจัดๆ วันอังคารที่ผ่านมา หลังประชุมคณะรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ประคองกอด “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ ไปพูดคุยเปิดอกกัน “นอกรอบ” ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี หลัง “ตบจูบ” กันเรียบร้อย “น้องตู่” เดินส่ง “พี่ป้อม” ขึ้นรถ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทุกคนดูสุขกาย สบายใจ อย่างเด่นชัด

“ทำเนียบ” เหมือน “สนามเด็กเล่น” ไปโดยปริยาย เพราะก่อนหน้านี้ ที่ประชุม ครม. “น้องตู่” สั่งเคาะ มีมติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้ “รองนายกฯ” กำกับดูแล

“พี่ป้อม” รับผิดชอบการบริหารราชการแทนนายกฯ เพิ่มในสัดส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฉพาะ “กรมพัฒนาที่ดิน-กรมฝนหลวงและการบินเกษตร-สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม-องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร” หรือ “อ.ต.ก.”

ที่หัสเดิม “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ กำกับดูแลชั่วคราว ซึ่ง 4 หน่วยงานนี้เคยอยู่ในความรับผิดชอบของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” อดีต รมช.เกษตรฯ ซึ่งถูก “บิ๊กตู่” ปลดออกจากตำแหน่งกลางอากาศ

ลำดับถัดไปงานของ 4 กรมดังกล่าว การพิจารณากลั่นกรอง ก่อนจะเสนอเข้า ครม. ต้องเสนอผ่าน “พล.อ.ประวิตร” รับทราบก่อนทุกเรื่องราว

เท่ากับว่า “ลุงป้อม” มีงานงอกเพิ่ม นอกจากของเดิมที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

“ของเล่นใหม่” ที่ได้รับมอบหมาย “พล.อ.ประวิตร” จะแอบผ่องถ่ายให้ “ผู้กองธรรมนัส” เป็นรัฐมนตรีเงาในฐานะที่เคยกำกับดูแลเก่าได้หรือเปล่า เป็นเรื่องที่คาดเดาสุ่มสี่สุ่มห้ายาก

รู้แต่ว่า พอโดน “น้องตู่” เกาหลังไปสองสามขยิก สีหน้าท่าทีพี่ใหญ่โอเคเลย กลับมาอารมณ์ดีจุงเบย ที่คิดจะกรวดน้ำคว่ำกะลากัน เป็นอัน “จบข่าว” ลืมไปสนิท

โลกเราหนอ สันติภาพ แม้จะจอมปลอม ย่อมดีกว่าสงครามรบพุ่ง ความขัดแย้ง การเจรจาปรองดองมันสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ทุกปัญหาคลี่คลายด้วยกาลเวลา

แต่ศึกพี่น้อง 3 ป. ในทางปฏิบัติ น่าจะสงบจบลง “ชั่วคราว” พักรบแค่ประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น

 

ปมร้าวลึกของ “พี่น้อง 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์” บนโลกใบใหม่ ถนนสายการเมือง แตกต่างหนังคนละม้วนกับช่วงอยู่ในกองทัพ “การเมือง” ทำให้คนโง่ โลภ โกรธ หลง ไม่มีทางล่วงรู้ว่าใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู

หลัง “พล.อ.ประยุทธ์” ปลด “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” และ “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ออกจากตำแหน่ง มิต่างอะไรกับจงใจทุบกล่องดวงใจ “พี่ใหญ่” แถมลงมือแบบไม่ไร้ไมตรี ไม่ไว้หน้า ไม่บอกกล่าวเล่าสืบ ส่งสัญญาณอะไรเลยสักแอะ

แม้ต่อมาภายหลัง “น้องตู่” จะเอาใจ โชว์หวานเจี๊ยบกับ “พี่ใหญ่” สารพัดครั้ง ล่าสุด ทอดไมตรีมอบหมายงานกำกับดูแล 4 กรมในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หมายปลอบขวัญให้ก็จริง

แต่น่าจะแค่พักเบรก หยุดยั้งความรู้สึกได้แต่ชั่วครู่ชั่วยาม

เพราะลำดับถัดไป ก่อนสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดประชุมรอบใหม่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน “พล.อ.ประยุทธ์” ตามไฟต์บังคับ ต้องเร่งมือหาบุคคลมาดำรงตำแหน่ง 2 รัฐมนตรีช่วยแทน “ผู้กองธรรมนัส” และ “ดร.แหมม่”

“พล.อ.ประวิตร” จะเสียรังวัดซ้ำซากอีกครั้ง เพราะมีข่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์” อาจจะล้างไพ่สลับฟันปลากับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค เพื่อเปิดทางสะดวกในตำแหน่ง “มท.2-รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย” ให้กับ “บิ๊กฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ปลัด มท.ที่เกษียณราชการในวันที่ 30 กันยายน ขึ้นมาทิงนองนอย แบบโดยพลัน

“บิ๊กฉิ่ง” เกษียณปุ๊บ รับตำแหน่งปั๊บ เพื่อเดินหน้าปฏิบัติภารกิจทางการเมือง ตามที่ “2 ป.” ปูทางไว้ด้วยการตั้งพรรคการเมืองสำรอง ที่จะใช้ชื่อพรรคเศรษฐกิจไทย

ตามท้องเรื่องมีอยู่ว่า “แก้วที่ร้าวแล้ว” ระหว่าง “พี่ใหญ่” กับ “น้องรอง+น้องเล็ก” จนถึงขั้นอุกฤษฏ์ ต้องแบ่งสมบัติกันโดยพฤตินัย ฝ่ายหนึ่ง ยึดศูนย์อำนาจในทำเนียบ อีกฝ่ายได้พรรค พปชร.ไปดูต่างหน้า

แรกเริ่มเดิมที หลังเด้ง 2 รมช.คนสนิท “พี่ป้อม” แล้ว “บิ๊กตู่” จะส่งหน่วยกล้าตายไปร่วมทัพใน พปชร. แต่ถูกอีกฝ่ายเตะสกัด แต่งตั้งใครต่อใครมาเสริมใยเหล็กเต็มไปหมด จนไม่มีที่เบียดแทรก

แถมมีการส่งสัญญาณมาขู่ฟอดๆ อีกต่างหากว่า ไม่ว่าจะเกิดกรณี “ยุบสภา” หรือ “อยู่ครบเทอม” แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งแล้วว่า “พปชร.” จะไม่ส่งชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เข้าประกวดในบัญชีชื่อนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กตู่” ไม่ได้กินแกลบ รู้อะไรมั้ย …รู้ เห็นอะไรมั้ย เห็น …ทำอะไรมั้ย ทำ …คือการเตรียมสไลด์ตัวเองจาก พปชร. แอบไปตั้งพรรคใหม่ไว้สำรอง ภายใต้การคุมเกมของ “พี่รอง-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” โดยใช้ “บิ๊กฉิ่ง” ประสานสิบทิศ

นอกจากนั้นแล้ว อีก 1 เก้าอี้ รมช.แทน “ดร.แหม่ม” ว่ากันว่า “บิ๊กตู่” มองเกมทะลุ คมกริบยิ่งกว่าสมองขงเบ้งเลยละคาบนี้

โดยมันสมอง สำรวจแถว ส.ส.ภาคใต้ 14 คน แล้วไม่ใช่ไอ้เท่ง ไอ้ทอง ไอ้หนูนุ้ย มีบุคลากรที่ยอดเยี่ยมอยู่หลายคน ควรจะได้โควต้าตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่งั้นแล้วเลือกตั้งสมัยหน้าจะถูกริบเก้าอี้เรียบวุธ

ขณะเดียวกัน มีข่าวคลุกวงในระบุว่า ในสัดส่วนอื่นๆ “บิ๊กตู่” เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยหมดทุกด้าน โดยเฉพาะ “กลุ่มทุน” พรรคใหม่ พลังดูด 2 เด้งจากเครือข่ายสนันสนุนตัวเอง ทุนเดิมจาก พปชร. ผนึกกับ “สายบิ๊กป๊อก” ที่เวลานี้รับประกันซ่อมฟรีว่ามีอยู่เพียบ ดังนั้น “พรรคใหม่” ทั้งกระสุน-สวนกล้วยเหลือเฟือ

ขณะที่ฐานกำลังคน ภายหลังจากตะลอนทัวร์ เดินสายลงพื้นที่ อ้างอิงเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ตรวจราชการทั้งจากเพชรบุรี-สุโขทัย และสัญจรไพรไปนครราชสีมา

ปรากฏว่า มี ส.ส.ในสังกัด พปชร.เด็กในคาถา “ก๊วน 4 ช.เก่า” ที่เคยเข้า-ออกบ้านป่ารอยต่อฯ พากันแหกด่านมะขามเตี้ยมาต้อนรับ “พล.อ.ประยุทธ์” มากันแบบยกจังหวัด ทั้งภาคเหนือ-อีสาน-กลาง-ใต้ตอนบน-ตอนล่าง ร่วมเข่งกันชื่นสะดือ เกือบ 60 ชีวิต

ตอบโจทย์ได้ชัดแจ๋วแล้วว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะใช้บริการ “กลุ่ม 4 ว.” เป็นฐานกำลังใหญ่ ประกอบด้วย “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-อนุชา นาคาศัย-สุชาติ ชมกลิ่น”

ใครที่บอกว่า โควิด-19 -น้ำท่วม ไม่กลัว …กลัวผู้นำโง่ …คิดผิด ขอให้คิดใหม่นะครับ