จักรกฤษณ์ สิริริน : ชวนกันเล่น Board Game ช่วยชะลอ “สมองเสื่อม”

บทความพิเศษ

แฟนละครฮ่องกงเมื่อ 30 กว่าปีก่อนคงคุ้นเคยกับฉาก “วงไพ่นกกระจอก” ที่มักปรากฏ “นักแสดงสูงอายุ” นั่งล้อมวงกันอยู่เสมอ

ส่วนคอกีฬาก็คงเคยติดตามข่าวการแข่งขัน “ไพ่บริดจ์” ในกีฬา ASEAN Games ซึ่งนักกีฬาส่วนมากมักเป็น “รุ่นใหญ่” เช่นกัน

ทั้ง “ไพ่นกกระจอก” และ “ไพ่บริดจ์” เป็นส่วนหนึ่งของ Board Game หรือ “เกมกระดาน” ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมเล่นกันในหลายประเทศครับ

ที่หยิบยกเรื่องราวของ Board Game มาพูดถึง ก็เนื่องมาจากผมกำลังสนใจการเล่น Board Game

และกำลังสนใจในประเด็นปัญหาทางด้านสุขภาพของผู้สูงวัยไปพร้อมๆ กัน

 

เมื่อหลายเดือนก่อนผมเคยเขียนบทความ “ส่ง LINE ดอกไม้อรุณสวัสดิ์ ช่วยป้องกันอัลไซเมอร์” ไปแล้ว มาในครั้งนี้ขอนำเสนอประเด็น การชะลอ “ภาวะสมองเสื่อม” อีกสักครั้งนะครับ

ซึ่งในคราวนี้ จะขอต่อยอดจากเรื่อง “การส่ง LINE” ไปสู่การเล่น Board Game เพื่อป้องกัน “ภาวะสมองเสื่อม” ได้อีกทางหนึ่ง

“ภาวะสมองเสื่อม” หรือ “โรคสมองเสื่อม” (Dementia) เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากความเสื่อมถอยในด้าน “หน้าที่การรับรู้ของสมอง” อาทิ อาการไม่รับรู้วัน-เวลา-สถานที่ และบุคคล พูดอีกแบบก็คือ ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะไม่รู้วันรู้คืน-หลงทิศผิดทาง และจำใครไม่ได้

สาเหตุเกิดจากสมองได้รับความเสียหาย หรือพบโรคร้ายในสมอง ซึ่งมักเกิดจากการเสื่อมถอยไปตามอายุ แม้โดยทั่วไป “ภาวะสมองเสื่อม” จะเกิดมากในกลุ่มผู้สูงอายุ ทว่าคนในวัยอื่นก็อาจเป็น “โรคสมองเสื่อม” ได้เช่นกันครับ

“ภาวะสมองเสื่อม” นั้นสามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือประเภทย้อนกลับได้ และชนิดย้อนกลับไม่ได้ อย่างไรก็ดี มีเพียง 10% เท่านั้นที่ “ผู้ป่วยสมองเสื่อม” มีโอกาสกลับมาดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติได้หลังจากการรักษา

จึงนับว่าโรคนี้น่ากลัวมากครับ

 

อย่างไรก็ตาม นอกจากวิทยาการด้านการแพทย์ที่สามารถให้การรักษาและฟื้นฟู “ภาวะสมองเสื่อม” แล้ว ยังมีความพยายามในการค้นหามาตรการอื่นๆ ที่จะมาช่วยเยียวยา “ผู้ป่วยสมองเสื่อม” อย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในนั้นก็คือการเล่น Board Game นั่นเองครับ

วารสาร JAMA Psychiatry ได้ทำการสำรวจชาวฮ่องกงที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจำนวน 15,000 คน โดยไม่เจาะจงว่ากลุ่มตัวอย่างชายหญิงสูงอายุเหล่านี้มี “ภาวะสมองเสื่อม” หรือไม่ และงานวิจัยชิ้นนี้เป็น Longitudinal Study ที่จะมีการติดตามประเมินผลประชากรอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี

โดยทีมวิจัยได้ใส่กิจกรรม “การเล่น Board Game” เข้าไปใน “การวิจัยเชิงทดลอง” ครั้งนี้ โดยกำหนดให้กลุ่มตัวอย่างต้องนั่งล้อมวงเล่น Board Game ด้วยกันทุกวันในเวลาเย็น

ผลการวิจัยพบว่า ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมลดลงอย่างมีนัยสำคัญในหมู่ผู้ทำกิจกรรมดังกล่าวคือการเล่น Board Game เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 1,500 คน หรือ 10% ซึ่งตรงกับสมุฏฐานโรค (Etiology) ข้างต้น

รองศาสตราจารย์ Dr.Deborah Blacker ผู้เชี่ยวชาญ “โรคสมองเสื่อม” แห่งมหาวิทยาลัย Harvard กล่าวว่า “…จากการสังเกตศักยภาพในการสร้างความสัมพันธ์แบบย้อนกลับของงานวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม พบว่ากิจกรรมที่ส่งเสริมทางปัญญาเช่นนี้ สามารถช่วยลดความเสี่ยง รวมทั้งช่วยชะลอ หรือป้องกันโรคสมองเสื่อมได้…”

สอดคล้องกับรองศาสตราจารย์ Dr.Jennifer Weuve ผู้เชี่ยวชาญ “โรคสมองเสื่อม” จากมหาวิทยาลัย Harvard เช่นกัน ที่กล่าวว่า

“…ปัจจุบันทั่วโลกพบจำนวนผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากการเล่น Board Game แล้ว กิจกรรมอื่นๆ อาทิ การอ่านหนังสือ ก็มีส่วนช่วยให้พวกเราหลีกเลี่ยงภาวะสมองเสื่อมได้เช่นกัน…”

 

นอกจากนี้ วารสาร The New England Journal of Medicine ยังได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยเชิงทดลองของการเล่น Board Game กับ “ภาวะสมองเสื่อม” ว่า การเล่น Board Game นั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองเสื่อมได้จริง เพราะนอกจากจะได้ “ลับสมอง” ผ่านกลไกของ Board Game แล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์เชิงสังคมได้อีกด้วย

“…เนื่องจาก Board Game มีผู้เล่นเป็นองค์ประกอบสำคัญ ดังนั้น นอกจากจะช่วยชะลอ “ภาวะสมองเสื่อม” แล้ว ยังสร้างให้เกิดความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนสูงวัยได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างสนุกสนาน…”

ปัจจุบัน Board Game ได้รับความนิยมมากในหมู่คนรุ่นใหม่ Generation Z ที่หลายคนกำลังเบื่อหน่ายกับ “ชีวิต Digital”

เพราะพายุ 5 G และ Social Media ได้ทำการกวาด “กิจกรรม Manual” เกือบทั้งหมด ออกจาก Lifestyle ของผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่วันหนึ่งๆ ใช้เวลาหมดไปกับ Smart Phone และ “โลกออนไลน์” คือ “อยู่กับตัวเอง” มากกว่าการจับกลุ่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

การเล่น Board Game กิจกรรมใหม่ใน “โลกออฟไลน์” ที่สามารถเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเวลา และทุกสถานที่ จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดยทุกวันนี้มีคนรุ่นใหม่จำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกได้พัฒนา Board Game ใหม่ๆ ให้ซับซ้อนกว่า Board Game ยุคโบราณขึ้นมาอย่างมากมายและต่อเนื่อง

ส่งผลให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับ Board Game ที่สนุกสนาน และที่สำคัญก็คือ ทำให้เกิดการลับสมองประลองปัญญากันมากขึ้นตามไปด้วย

นำไปสู่ความรุ่งเรืองและเฟื่องฟูของ Caf? Board Games ร้านจำหน่าย Board Games และชุมชนคนรัก Board Games ทั่วทุกมุมโลกนั่นเองครับ

 

โดยนอกจากการเกิดขึ้นของ Cafe และร้านขาย Board Games แล้ว ยังมีความพยายามยกระดับและต่อยอดวงการ Board Games ไปสู่มหกรรมการแข่งขันที่เรียกว่า B-Sports หรือ “กีฬา Board Games” (Board Games Sports)

ซึ่งคล้ายกับการผลักดันให้เกิด E-Sports หรือเวทีประลอง “เกมคอมพิวเตอร์” ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกมาแล้วนั่นเองครับ

ดังนั้น นอกจาก Board Game จะมีส่วนช่วยชะลอ “ภาวะสมองเสื่อม” แล้ว

ยังเสมือนการย้อนคืนอดีตอันสร้างสรรค์ เปิดที่ว่างให้จิตใจได้คิดและทบทวนตรรกะบางอย่าง

ที่หลายคนไม่ต้องการให้ Internet หรือคอมพิวเตอร์เข้ามาครอบครอง “สมอง” ของเราไปเสียทุกอย่างจนแทบจะหมดสิ้น

การเกิดขึ้นของ Cafe Board Games จึงกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แพ้ Cat Cafe หรือ “คาเฟ่แมว”

โดยทุกวันนี้เราคงได้เห็นปริมาณร้านเกมกระดานหรือ Cafe Board Games มีมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างจังหวัด โดยเฉพาะในระดับนานาชาติ

สะท้อนถึงการหาทางออกของ Generation Z ท่ามกลางความสับสนในยุค Digital Disruption

ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ยังมี “คนอีกกลุ่มหนึ่ง” ไม่ยอม และไม่อยาก “ถูกกลืนหาย” ไปในโลก Digital โดยพวกเขาเหล่านั้นกำลังมองหาช่องว่างให้กับ “สมอง”

และอาจเป็นความพยายามเล็กๆ น้อยๆ ที่จะ “ฉุดรั้ง” หรือ “กระตุกเตือน” ไม่ให้อีกหลายคนถลำลึกไปในกระแสน้ำ Digital อันบ้าคลั่ง และเชี่ยวกราก

คล้ายการกระซิบเบาๆ ว่า “มนุษย์ทุกคนอาจไม่ต้องการ Technology เสมอไป” ครับ!