เชิงบันไดทำเนียบ : แกะรอย “เรือดำน้ำลุงป้อม” จับคลื่น ‘บิ๊กลือ’ มาแรง ‘บิ๊กนุ้ย’ ลูกประดู่ชมพู-ฟ้า ชิงนั่ง ‘แม่ทัพเรือ’

 

โดย ปรัชญา นงนุช

ดำมาเงียบและออกจาก “บ้านนรสิงห์” เงียบๆ หลัง ครม. เห็นชอบจัดซื้อเรือดำน้ำ Yuan Class S26T จากจีน 1 ลำ วงเงิน 13,500 ล้านบาท จนสื่อไปสืบพบเอง หลังผ่านครม.มาแล้วเกือบ 1 สัปดาห์

แม้จะมีเสียงสะกิดจากผู้ใหญ่ในกองทัพเรือมาก่อน 1-2 วัน เข้าครม.วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็น “ความฝัน” ของ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และกองทัพเรือที่เป็นจริง หลังเคยผลักดันตั้งแต่สมัยเป็น รมว.กลาโหม รัฐบาล’อภิสิทธิ์’ จนมาถูกพับโครงการในสมัยรัฐบาล’ยิ่งลักษณ์’

โดยนายทหารในกระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือ คอนเฟิร์มตรงกันว่าผ่านครม. เมื่อวันที่ 18 เม.ย.จริง แม้ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้นำเรื่องเสนอครม. ก็ตีเนียนและตีมึนไม่ชี้ชัดว่าวันไหนกันแน่ที่นำเข้าครม.

“ผมจำไม่ได้ ผ่านไปนานแล้ว เอาเป็นว่าผมอยู่ในที่ประชุมแล้วกัน พวกสื่อจะรู้ไปทำไม หรือจะต้องถามด้วยว่าจะหายใจอย่างไร จะต้องถามกันอย่างไร” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ตั้งแต่งบจัดซื้อเรือดำน้ำผ่านการพิจารณางบประมาณจาก สนช. เป็นการก้าวขาข้างหนึ่งแล้วว่า “เรือดำน้ำมาแน่” ทำให้สื่อถาม ‘บิ๊กป้อม’ อยู่เรื่อยๆว่า “เรือดำน้ำถึงไหนแล้ว” ทั้งที่กระทรวงกลาโหมและทำเนียบรัฐบาล หลังประชุมครม. เป็นคำถามที่ ‘บิ๊กป้อม’ มักไม่สบอารมณ์นักเมื่อสื่อถามและสื่อก็มักได้คำตอบที่ไม่ต่างกันนักในแต่ละครั้ง

ที่น่าสนใจวันที่ 28 มี.ค. หลังประชุมครม. ก่อนที่ ‘บิ๊กป้อม’จะลางานยาวช่วงสงกรานต์ ก่อนครม. อนุมัติจัดซื้อ 18 เม.ย. สื่อก็ถามเรื่องเรือดำน้ำเช่นเคย ก็ได้รับคำตอบที่ไม่แตกต่างนัก

ซึ่งในขณะนั้นมีกระเเสข่าวว่าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมทำการตรวจหนังสือโครงการ ร่างสัญญาจัดซื้อ(ทีโออาร์) ให้อัยการสูงสุดร่วมตรวจเช็คเรียบร้อยแล้ว

“ใครบอกว่าโครงการเรือดำน้ำจะเข้า ครม. ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ในกระทรวงกลาโหม” พล.อ.ประวิตร เผยเมื่อ 28 มี.ค.

ที่สำคัญเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ประชุม ครม.อนุมัติจัดซื้อรถถัง VT-4 จากจีน ของกองทัพบก ระยะที่ 2 รวม 10 คัน กว่า 2,000 ล้านบาท ที่เป็นวงเงินรวมรถกู้ซ่อมด้วย การจับตามองจึงตกไปที่ “รถถัง” แทน “เรือดำน้ำ” จึงมีการมองว่าวาระ “เรือดำน้ำ” เข้าวันนี้หรือไม่ด้วย เพราะ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ ออกมากล่าวถึงความจำเป็นถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำอีกครั้ง และตอบโต้อดีตนายทหารที่วิพากษ์วิจารณ์โครงการนี้

“หากมีความจำเป็นก็ต้องจัดหา โดยคุณภาพจะต้องเป็นไปตามความเหมาะสม วันนี้มีคนโจมตีเรื่องนี้ตามเว็บไซต์ต่างๆ โดยมีอดีตทหารด้วย คิดว่าคนเหล่านี้ใช้ไม่ได้ ถือว่าทำลายระบบกองทัพเพราะเขียนในสิ่งที่ไม่ใช่เท็จจริง อย่างไรก็ตามวันนี้กองทัพมีความมั่นคง เพราะคนเก่าๆ ที่ไม่ดีออกไปแล้ว” นายกฯ กล่าว
สุดท้ายโครงการมาอนุมัติวันที่ 18 เม.ย.แทน ซึ่งพล.อ.ประวิตร ก็คอนเฟิร์มว่าตนอยู่ในที่ประชุมทั้งการเสนอและอนุมัติ วันประชุม ครม. เมื่อ 11 เม.ย. จึงเชื่อได้ว่าไร้ “ปมเรือดำน้ำ”

ซึ่งวันที่ 18 เม.ย. ประเด็นที่มาแรงและกลบ “เรือดำน้ำ” หนีไม่พ้น “หมุดคณะราษฎร” ที่หายไป พร้อมกับปม ‘บิ๊กป้อม’ หายไปไหนช่วงสงกรานต์ แล้วไปกับใคร ไปทำอะไร ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ ออกมาชี้แจงกว้างๆ ว่า “ผมลา” ต่อมามีการเปิดเผยว่าไปยุโรป ประเทศอังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์

หากมาย้อนคำพูดนายกฯ หลังประชุมครม. เมื่อ 11 เม.ย. ที่สื่อถาม”บิ๊กป้อม พี่ที่เคารพ” หายไปไหน ก็ไม่พ้นคำตอบที่ชวนสงสัยต่อ โดย ‘บิ๊กตู่’ ตอบรวมๆว่า ไปราชการต่างประเทศ ฝ่ายความมั่นคง ประเทศไหนบอกไม่ได้ เพราะเป็นความลับ จึงเป็นพาดหัวสื่อแทบทุกฉบับว่า “ราชการลับ”

ก็ไม่เท่านายกฯเปรย ว่า “ไม่ได้ไปคุยซื้อเรือดำน้ำที่จีน” โดยที่สื่อไม่ได้ถามเรื่อง “เรือดำน้ำ” เลย สะท้อนว่าในความคิดของนายกฯ มีความเคลื่อนไหวเรื่อง “เรือดำน้ำ” เสมอ

ต่อมาวันประชุมสภากลาโหม 24 เม.ย. ก่อนข่าวเรือดำน้ำจะหลุดออกมาไม่กี่ชั่วโมง ‘บิ๊กป้อม’ได้ทิ้งนัยยะที่ประชุมอย่างน่าสนใจ หลัง’เสธ.ต้อง’พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลประชุมเรื่องการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ รัฐบาลพิจารณาถึงความจำเป็นและความเหมาะสม โดยไม่จำกัดเฉพาะประเทศใด

“โดยเฉพาะอาวุธทางยุทธศาสตร์ที่ประเทศรอบบ้านในอาเซียนมีใช้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเล และใช้เป็นพลังอำนาจทางทหารเพื่อต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ของชาติ” พล.ต.คงชีพ เผย

ซึ่งคำตอบนี้ไปสอดรับคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร ก่อนประชุม ครม. เมื่อ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังสื่อถามถึงที่ไปที่มา ครม. เห็นชอบจัดซื้อเรือดำน้ำจีน ที่ผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้วพึ่งเป็นข่าว และไม่มีการแถลงข่าวใดๆ

โดย‘เสธ.ไก่อู’พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เหตุผลเป็นเอกสารชั้นความลับ หรือ “มุมแดง” ที่เป็นระเบียบของทุกคณะรัฐมนตรีที่จะไม่มีการแถลงข่าว

พร้อมกันนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ ‘บิ๊กณะ’พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. ทันที ด้วยเป็นผู้นำเสนอโครงการจัดซื้อไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อให้’บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร เสนอ ครม.

เรียกได้ว่า ‘บิ๊กณะ’กำลังเนื้อหอม ที่ต้องตอบคำถามและชี้แจงที่ไปที่มา โดยเมื่อ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ‘บิ๊กณะ’ ได้กล่าวสั้นๆ ถึงกรณีการเดินทางเยือนจีนเพื่อเซ็นสัญญาจัดซื้อ เพียงสั้นๆ ว่า “อยู่ระหว่างการประสานงาน”

โดยมี ‘บิ๊กปุย’พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.สส. ทำหน้าที่ตอบคำถามสื่อปม “เรือดำน้ำ” แทน ‘บิ๊กณะ’ รอให้ถึงเวลา”อันควร” ให้กองทัพเรือแถลงยาวๆ ไม่อยากให้ตอบสั้นๆ หลังเซ็นสัญญากับจีน พร้อมยืนยันถึงความ “จำเป็น” ต้องมีเรือดำน้ำ ชี้เป็นดาบ 2 คม เปิดเผย “อาวุธ” เกรงมีระบบเหนือกว่ามาทดแทนได้ ในฐานะเพื่อน ตท.15 ที่จะเกษียณปีนี้พร้อมกันด้วย

“ข้อมูลในลักษณะนี้ หากเป็นมาตรฐานในหลายประเทศ ที่เป็นสากลถือเป็นข้อมูลที่ต้องรักษาเป็นความลับ ไม่เอามาเผยแพร่มากนัก. ยกเว้นเรื่องกว้างๆ ในส่วนของเราเองหากถึงเวลาอันควร” พล.อ.สุรพงษ์ กล่าว

ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ‘ราชนาวีไทย’ จะมียุทโธปกรณ์ครบ 3 มิติ คือ เหนือผิวน้ำ ระดับผิวน้ำ และใต้ผิวน้ำ ในยุค ‘บิ๊กป้อม-บิ๊กณะ’ แต่สิ่งที่ถูกจับตาไม่น้อย คือ แคนดิเดท “แม่ทัพเรือคนใหม่”

โดย ‘บิ๊กลือ’พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสธ.ทร. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ (กจด.) ตท.18 แคนดิเดท ผบ.ทร. ถูกจับตามองทันที หลังถูกพับเก็บและเสนอมายาวนานเกือบ 10 ปี จึงเป็นแต้มต่อให้ ‘บิ๊กลือ’ ทันที

ก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กลือ’ เข้ารดน้ำขอพร ‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปธ.องคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ได้ถามว่าเป็นอะไรกับ “ลมโชย” หรือ ‘บิ๊กโชย’พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี โดย ‘บิ๊กลือ’ ตอบกลับ “เป็นน้องชาย”

‘ป๋าเปรม’ ยังถาม ‘บิ๊กลือ’ อีกว่า เป็นตำแหน่งอะไรในกองทัพเรือ และถามถึงกองเรือดำน้ำ และไม่พลาดเรื่องเรือดำน้ำ

‘บิ๊กลือ’ ตอบว่า “เป็นเสธ.ทร. กองเรือดำน้ำตั้งมาหลายปีแล้ว อยู่ที่สัตหีบ ส่วนเรือดำน้ำ รอเสนอเข้าครม.” ซึ่งคำตอบนี้แสดงชัดว่า วาระอนุมัติเรือดำน้ำ เข้าวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะ วันที่ ‘ป๋าเปรม เปิดบ้าน คือ 10 เม.ย.

 


ความเคลื่อนไหวใน กองทัพเรือ ถึงแคนดิเดท ผบ.ทร. คนต่อไประหว่าง ‘บิ๊กลือ’ กับ ‘บิ๊กนุ้ย’พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ตท.16 ผู้ช่วยผบ.ทร. หาก ‘บิ๊กณะ’ ยึดแนวทางระบบปีเดียว เรียงคิวขึ้นเป็น ก็จะเป็น ‘บิ๊กนุ้ย’ ได้ขึ้นก่อน เพราะมีวาระเพียง 1 ปี เกษียณปี61 หากเป็น ‘บิ๊กลือ’  เลย ก็จะเป็นผบ.ทร.ถึง 3 ปี เพราะเกษียณปี63 ปิดทาง ตท.16-17 ทันที

แต่ ‘บิ๊กนุ้ย’ ก็ต้องจับตามอง เพราะได้รับมอบภารกิจสำคัญ คือ งานมหกรรมทางเรือนานาชาติและประชุมผบ.ทร.อาเซียน ช่วงเดือน พ.ย.นี้ หลังโผทหารปลายปีออกแล้วด้วย

การให้ ‘บิ๊กนุ้ย’ ดูแลอาจเป็นการ “ปูทาง” เป็น “ผบ.ทร.” คนต่อไป อีกทั้งเป็น ตท.16 ยังเพื่อนร่วมรุ่น ‘บิ๊กจอม’พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. และ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ด้วย พร้อมมีแรงหนุนจาก “ลูกประดู่ชมพู-ฟ้า” หรือ “สวนกุหลาบคอนเนคชั่น” ในกองทัพเรือพอสมควร

ส่วน ‘บิ๊กลือ’ ก็สามารถดูแลงาน “เรือดำน้ำ” ต่อได้เช่นกัน แม้จะยังไม่ได้ขึ้นเป็น “ผบ.ทร.” ช่วงปลายปีนี้ เพราะมีอายุราชการถึงปี63 แต่ตำแหน่ง ผบ.ทร. ที่ผ่านมาจะนั่งเฉลี่ย 2 ปี เพื่อให้สามารถสานต่อนโยบายได้ยาว เหมือนกับกองทัพอากาศ เพื่อความต่อเนื่องของงานก็เป็นสิ่งสำคัญ

เหลือเวลาอีกราว 5 เดือน ก่อนโผทหารปลายปีออก ทุกอย่างต้องจับตามองกันยาวๆต่อไป เพราะทั้ง ‘บิ๊กลือ-บิ๊กนุ้ย’ ต่างมีแต้มต่อใกล้เคียงกัน และกระเเสในกองทัพเรือยังไม่นิ่ง

เป็นปีที่ ทร. มีเรื่องให้ “ลุ้น” อยู่ตลอด !!