“อยู่ยาว” ได้สบายๆ ผลการสำรวจสะท้อน เชื่อถือ นิยมชมชอบใน พล.อ.ประยุทธ์ ยังท่วมท้น

ตามรายงานข่าวที่ได้จากคนที่ถือว่าอยู่วงในศูนย์กลางอำนาจ มีแนวโน้มสูงว่าโรดแม็ปการเมืองจะทอดยาวออกไป กว่าจะมีเลือกตั้ง ว่ากันว่าไม่น้อยกว่า “22 เดือน” นับจากนี้ นั่นหมายถึงว่าจะไปนับหนึ่งของการเริ่มต้นการปกครองประเทศในความหมายของ “ประชาธิปไตย” เอาต้นๆ ปี 2562

แน่นอนแนวโน้มเช่นนี้ย่อมก่อแรงกดดันต่อนักการเมืองที่หนทางเข้ามามีส่วนร่วมในโครงสร้างอำนาจอยู่ที่ “การเลือกตั้ง” ดังนั้น จึงมีคำถามในทำนอง “จะอยู่ได้จริงหรือ อะไรที่ทำให้อยู่ได้”

การแลกเปลี่ยนในมุม “อยู่ได้จริงหรือ” มีการแยกแยะองค์ประกอบที่จะส่งผลทางการเมื
อง

 

เริ่มจาก “ประชาชน” ซึ่งถูกมองว่า “ความแตกแยก” ทำให้มีพลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ล้วนสร้างความเป็น 2 ฝ่ายที่ยืนอยู่ตรงกับข้ามกันทั้งสิ้น ทำให้ไม่มีพลังพอที่จะเป็นกระแสสร้างแรงเสียดทานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรได้

“นักการเมือง” ไม่เพียงแตกแยก แต่ในภาพรวมยังเป็นจำเลยที่ไม่มีบารมีพอที่จะลุกขึ้นมาทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปเสียทั้งหมด

“กองทัพ” ตัดทิ้งไปได้เลย หากคิดว่าจะเป็นหัวหอกทำให้อะไรต่ออะไรเปลี่ยนไป เอกภาพภายในของกองกำลังทั้งหมดไม่มีสัญญาณว่าเปลี่ยนไป

นั่นหมายถึงไม่มีปัจจัยอะไรที่มีพลังพอที่จะทำให้การควบคุมอำนาจมีความยากเย็นขึ้น

อาจจะมีบางคนบอกว่าเพราะสภาวะเศรษฐกิจที่ทำท่าจะแย่ลงไปเรื่อยๆ จะเป็นแรงกดดัน ทว่า ในสภาวะความเป็นจริงนั้น แย่หรือไม่ยังเป็นข้อถกเถียง และประชาชนน้อยมากที่จะคิด จะเชื่อตามนั้น

ดังนั้น “อยู่ได้” จึงเป็นข้อสรุป

ส่วน “อยู่ได้เพราะอะไร” ไม่เพียงแต่ไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้

ทว่า ยังมีปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ “เสถียรภาพของรัฐบาล” มั่นคงอย่างยิ่ง นั่นคือ “ความนิยมในตัวผู้มีอำนาจ”

 

ผลสำรวจล่าสุดของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เรื่อง “2 ปี 6 เดือนของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”

เมื่อตัดส่วนที่ไม่แสดงความเห็นออกไป

ในคำถาม “มีความเห็นอย่างไรกับการทำงานของนายกรัฐมนตรี” ร้อยละ 34.96 ยังตอบว่า ทำได้ดีมาก ร้อยละ 48.32 บอกทำได้ดี มีแค่ร้อยละ 7.60 ตอบว่าไม่ค่อยดี ร้อยละ 4.00 บอกไม่ดีเลย และร้อยละ 4.32 บอกปานกลาง

เมื่อถามถึงอุดมการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 82.40 บอกว่ามีอุดมการณ์และความตั้งใจทำงานเพื่อชาติและประชาชน ร้อยละ 12.16 เท่านั้นที่ตอบว่าไม่มีอุดมการณ์ ขณะที่ร้อยละ 0.48 ตอบว่ามีบ้างไม่มีบ้าง

ในเรื่อง “ประสิทธิภาพการทำงาน” ร้อยละ 78.88 เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 14.48 เห็นว่าไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 0.48 ที่เห็นว่าบางอย่างก็มี บางอย่างก็ไม่มี

เมื่อถามถึงการทำงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ร้อยละ 67.36 เชื่อว่ามี ร้อยละ 16.96 เชื่อว่าไม่มี ร้อยละ 0.40 เห็นว่ามีบ้างไม่มีบ้าง

 

ผลการสำรวจนี้สะท้อนว่า ความเชื่อถือ ความนิยมชมชอบใน พล.อ.ประยุทธ์ ยังท่วมท้น

ด้วยเหตุนี้เอง แม้การเลือกตั้งซึ่งเป็นการคืนประชาธิปไตยให้การเมืองการปกครองไทยจะทอดยาวออกไปอีก 22 เดือน หรือจะไปเริ่มกันในปี 2562

จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ด้วยปัจจัยที่จะไม่ยินยอมให้เป็น ไม่มีพลังพอที่จะเป็นแรงกดดันที่ส่งผลสะเทือนอะไรได้

ขณะนี้คะแนนนิยม และความเชื่อถือในผู้มีอำนาจ ยังมั่นคง ไม่มีอะไรให้วิตก