เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าข้อกล่าวหา พระเทพญาณมหามุนี ในคดีฟอกเงิน หรือในคดีรับของโจร
ล้วนแวดล้อมอยู่กับคดี”ทางเศรษฐกิจ”
เพราะเงินบริจาคอันเป็นต้นตอแห่งคดีความมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น
เป็นเรื่องของ “การฉ้อโกง” เป็นเรื่องของ”การลงทุน”
สะท้อนให้เห็นว่า 1 วงล้อมที่อยู่โดยรอบ”วัดพระธรรมกาย” เป็นนักลงทุน เป็นนักธุรกิจ
สัมผัสได้จาก “มหาเศรษฐี” บางคน
ที่ร่ำลือกันอย่างหนาหูส่วนหนึ่งเป็นมหาเศรษฐีจากธุรกิจโทรคมนาคมและการสื่อสาร
ส่วนหนึ่งอยู่ในธุรกิจ”อสังหาริมทรัพย์”
แม้กระทั่งการก่อสร้าง โบสถ์ อาคาร และถาวรวัตถุภายใน”วัดพระธรรมกาย”ก็สะท้อนสีสันใหม่
แตกต่างไปจาก โบสถ์วิหาร การเปรียญ แบบ”เก่า”
ต้องยอมรับว่ากระบวนการของ”วัดพระธรรมกาย”ดำเนินไปอย่างมีแผนทางด้าน “การตลาด”
“พิธีการ”ก็มากด้วยความ”อลังการ”
แม้กระทั่งการธุดงค์ที่กระทำต่อ”สาธารณสุข”ก็เป็นไปอย่างแตกต่างจากภาพเดิมของ “ธุดงควัตร”
นุ่มด้วยการจัดวาง”ดอกดาวเรือง”
ร่ำลือกันว่า “วัดพระธรรมกาย”ได้มือดีซึ่งเป็น”ครีเอทิฟ”จากสำนักเอเยนซี โฆษณาชั้นนำ
“ธรรมกาย”จึงได้ผลสะเทือนจาก”ทุนนิยม”
ไม่ว่าในเรื่องการประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าในเรื่องแผนการตลาด การเปิดตัวสินค้า
สร้างความตรึงตา ประทับใจ
การเติบใหญ่ของ”ธรรมกาย”จึงสัมพันธ์ แนบแน่นกับปัจจัยในระบอบ”ทุนนิยม”อย่างแนบแน่น
นำเสนอ”พุทธศาสนา”ในยุค”ทุนนิยม”
อย่าได้แปลกใจหาก“กัลยาณมิตร”ซึ่งมาแวดล้อมอยู่โดยรอบ”ธรรมกาย”มากด้วยความหลากหลาย
เป็นทั้ง “ระดับสูง”และ”รากหญ้า”
เป็นทั้ง “มหาเศรษฐี” เป็นทั้ง “คนชั้นกลาง”และคนใน”ชนบท”
มีทั้งที่เคยเป็น”เหลือง” มีทั้งที่เคยเป็น”แดง”
มีทั้งที่เคยเป็นแกนนำ “ประชาธิปัตย์” มีทั้งที่เคยร่วมกับ”ไทยรักไทย”และต่อเนื่องมาถึง “เพื่อไทย”
นี่คือ “พัฒนาการ” 1 ในทาง “สังคม”
เพียงแต่เป็นพัฒนาการอันสัมพันธ์และแนบแน่นอยู่กับ”ศาสนา”
พยายาม”ประยุกต์” ศาสนาให้”เหมาะสม”
เหมาะสมกับยุค “ทุนนิยม” เหมาะสมกับ “คนรุ่นใหม่”ที่อยู่ในสังคม “สมัยใหม่”