นับจาก 8ก.พ.ที่ผ่านมา ถือเป็นวันสำคัญของการเมืองไทย ทำให้เกมการเลือกตั้งถึงกับพลิกทันที ชะตากรรมของพรรคไทยรักษาชาติ ระส่ำไม่น้อยตอนนี้ ได้สะเทือนไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วย จึงทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ ‘หญิงหน่อย’คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ปธ.ยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ที่เก็บตัวเงียบ ตั้งแต่มีกระแสข่าวลือ ‘บิ๊กเซอร์ไพรส์’ ออกมาตั้งแต่ 6ก.พ.ที่ผ่านมา ว่ากันว่าที่ ‘หญิงหน่อย’ หายไประยะสั้นๆเพราะไม่สบาย แต่สุดท้าย ‘หญิงหน่อย’ ยังคงฮึดสู้ ขึ้นเวทีดีเบตและปราศรัยใหญ่ 15ก.พ.ที่ผ่านมา
.
หากถามว่า ‘หญิงหน่อย’ รู้เรื่อง ‘บิ๊กเซอร์ไพรส์’ มานานเท่าไหร่ คงไม่มีใครตอบได้ แต่หากจับอาการ ‘หญิงหน่อย’ ก็คงไม่ได้รู้ล่วงหน้ามานานจนเกินไป เพราะมีท่าทีที่นิ่งกว่าปกติ ก่อนจะมาเป็นกระแสข่าวดังช่วง 6ก.พ. แต่ ‘หญิงหน่อย’ ก็ต้องสู้ต่อให้พรรคเพื่อไทยต่อไป แม้จะส่งไม่ครบทุกเขตก็ตาม ทำให้ขั้วต้าน คสช. ระส่ำไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
.
แต่สถานการณ์ทางการเมืองก็เกิด ‘อาฟเตอร์ช็อก’ ตามมาหลายลูก นับจาก 8ก.พ. หนึ่งในนั้นคือกระแสข่าวลือที่ออกมา ทั้ง ‘รัฐประหารซ้อน-ปฏิวัติซ้ำ’ สุดท้ายทั้ง ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. พร้อม ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และเลขาธิการคสช. ได้ออกมาสยบ ย้ำหนักแน่นไม่เป็นความจริง

ซึ่ง ‘บิ๊กแดง’ ได้ชื่อว่าเป็น ‘น้องรักต่างสาย’ ของ ‘บิ๊กตู่’ อย่างที่ทราบกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ สมัยเป็น ผบ.ทบ. เป็นผู้ผลักดัน พล.อ.อภิรัชต์ ให้กลับเข้าไลน์เส้นทางเหล็กอีกครั้ง หลังสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ต้องดูโยกไปเป็น ผบ.พล.ร.11 ฉะเชิงเทรา และ ผบ.มทบ.15 เพชรบุรี มาแล้ว
.
ด้วยความไว้วางใจที่มีให้นี้เอง ก่อนเหตุการณ์รัฐประการ 22พ.ค.57 เพียง 1 เดือน ‘บิ๊กตู่’ ได้ดัน ‘บิ๊กแดง’ ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. ที่คุมพื้นที่กรุงเทพฯทั้งหมด ในโยกโยกย้ายเม.ย.57 อีกทั้งได้รับมอบหมายหลายภารกิจของ คสช. ให้รับผิดชอบหลังรัฐประหารด้วย จน ‘บิ๊กแดง’ ได้ขึ้นเป็น แม่ทัพน้อยที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 1 และขึ้น 5 เสือ ทบ. ผู้ช่วย ผบ.ทบ. จนขึ้นเป็น ผบ.ทบ.
.
กระแสข่าวลือ ‘รัฐประหารซ้อน’ ก็ถูกลดน้ำหนักลงไป แต่ที่มาคู่กันคือราชกิจจานุเบกษาปลอม ที่เป็นคำสั่ง หัวหน้าคสช. ปลด 3 ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งทางรัฐบาลและคสช. ก็ได้ยืนยันชัดเจนว่า ‘ปลอม’ ซึ่งบุคคลที่ทำและปล่อยออกมา ย่อมหวังผลทางการเมือง ทำให้เกิดการตีความไปเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ต้องระวังคือจะทำให้เกิดความรู้สึก ‘หวาดระแวง’ ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลหรือไม่ด้วย ?
.
ซึ่ง ผบ.เหล่าทัพ-ปลัดกลาโหม ชุดปัจจุบันเป็น ตท.18 และ ตท.20 ได้แก่ ตท.18 ‘บิ๊กกบ’พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด ‘บิ๊กลือ’พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. ‘บิ๊กต่าย’พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. ส่วน ตท.20 เพื่อน ของ พล.อ.อภิรัชต์ ได้แก่ ‘ปลัดณัฐ’พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ที่ทำหน้าที่ประสานงานระหว่าง ‘บิ๊กแดง’ กับ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม และ ‘บิ๊กแป๊ะ’พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งล้วนเป็น ‘สมาชิกคสช.’ ทั้งหมด
.
แต่ในส่วน ‘บิ๊กแดง’ เป็นเลขาธิการคสช. ที่เป็น ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยด้วย (กกล.รส.) คสช. โดยตำแหน่ง ที่สำคัญการตัดสินใจใดๆของ ‘บิ๊กแดง’ ก็มี ‘ข้อจำกัด’ อยู่ด้วย เพราะ พล.อ.อภิรัชต์ ก็มีสถานะสำคัญที่ต้องวางบทบาทให้ดีและสง่างาม
.
ซึ่ง ‘บิ๊กตู่’ ก็ได้ย้ำถึงความสัมพันธ์ ความเป็นพี่น้องมานับสิบๆปีของตนกับผบ.เหล่าทัพ อีกทั้งย้ำว่า ม.44 ไม่สามารถใช้กับทุกตำแหน่งด้วย ในส่วนของ ‘บิ๊กแดง’ ก็ยืนยันมาเสมอว่ากองทัพจะต้องเป็นกลาง ยืนข้างประชาชน พร้อมขออย่าล้ำเส้นกัน ให้ยึดกรอบกติกา-กฎหมาย พร้อมกำชับผบ.หน่วย-กำลังพล ให้ระวังตัวทุกฝีก้าว อย่าให้ตกไปเป็นเหยื่อ
.
ซึ่งทั้ง ‘บิ๊กแดง-บิ๊กตู่’ ได้ออกงานร่วมกันในวันวาเลนไทน์ 14ก.พ. ในการตรวจการฝึกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ IDMEX 2019 ที่ กองพลรบพิเศษที่ 1 และ ร.ร.สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี พร้อมตรวจแถวกำลังพลกลางสายฝนด้วย ทำให้ภาพเผยแพร่ออกไป สยบข่าวลือหรือแรงเสี้ยมให้เบาลงไป
.
“มีอะไร ถามแดงสิ ลือเรื่องไร้สาระทั้งนั้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“รัฐบาลทุกรัฐบาลมีหน้าที่ทำให้เกิดความสมดุล อย่าจับมาเป็นประเด็นการเมือง ฉะนั้นอย่ามาถามผมในเรื่องพวกนี้อีก”พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
.
“นี่ไง มาเจอ นายกฯแล้วไง จะมีอะไรล่ะ” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
.
ท่ามกลางกระแสข่าวที่ตามมา คือชะตากรรมของการ ‘เลือกตั้ง’ คูหาจะได้เปิดตามกำหนดหรือไม่ ? ถ้ามีการเลือกตั้งตามกำหนด 24มี.ค.นี้ สถานการณ์หลังเลือกตั้งก็ต้องจับตา ที่แต่ละฝ่ายก็คาดคะเนกันไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ต้องนำมาชั่งน้ำหนักเพราะเป็นช่วงเดินเกมการเมือง ที่แต่ละพรรคก็มีปฏิบัติการข่าว หรือ ไอโอ ด้วยกันทั้งนั้น
.
อีกทั้งช่วงการหาเสียงแต่ละฝ่ายก็เปิด ‘ตำรากฎหมาย’ ออกมางัดข้อกัน ในการยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบ และแต่ละพรรคต่างมี ‘หน่วยตาสับปะรด’ ของพรรคทำหน้าที่ติดตามพรรคอื่น และเฝ้าระวังพรรคตนเอง เพื่อไม่ให้ ‘สะดุดขา’ ตัวเอง และตก ‘หลุมพราง’ คู่แข่ง
.
ซึ่งเหลือเวลาหาเสียงอีกกว่า 1 เดือน ย่อมมีเรื่องยื่นตรวจสอบอีกจำนวนมาก โดยการเดินหมากเลือกตั้งจึงมีทั้งงาน ‘หน้าบ้าน’ ในการหาเสียง-ลงพื้นที่ และงาน ‘หลังบ้าน’ ในการตรวจสอบคู่แข่งและวางกลยุทธ์หาเสียง ที่ต้องไปพร้อมๆกัน
.
ดังนั้นมหกรรม ‘เช็กบิลย้อนหลัง’ เลือกตั้ง จะมีหรือไม่ ? ถ้ามีจะมากหรือน้อยขนาดไหน ? เพราะได้ชื่อว่าการเมืองแล้ว ล้วนไม่มีอะไรแน่นอน เห็นได้ชัดจาก 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามา หลังเหตุการณ์ ‘ศุกร์หยุกโลก’ ที่แต่ละฝ่ายต่างขนลุกไปถ้วนหน้า