เจ้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 29 โอกาสที่เป็นไปไม่ได้ของทัพกีฬาไทย

เหลือเวลาเพียง 8 เดือน การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ก็จะวนมาถึงอีกแล้ว มาเลเซียรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 19-31 สิงหาคม 2560

มาเลเซียประกาศกร้าวตั้งแต่รู้ตัวว่าเป็นเจ้าภาพแล้วว่าจะต้องเป็นเจ้าเหรียญทองให้ได้เท่านั้น

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะชาติใหญ่ในอาเซียนอย่างไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือแม้แต่ฟิลิปปินส์ เมื่อเป็นเจ้าภาพก็จะลงเอยด้วยการเป็นแชมป์ให้เห็นอยู่เสมอ

มาเลเซียเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งล่าสุด เมื่อ 15 ปีที่แล้ว หรือถ้านับวันที่แข่งขันจริงในปีหน้าก็ 16 ปี ครั้งนั้นทัพเสือเหลืองก็ได้เจ้าเหรียญทองไปครองแบบเชือดไทย 111 ต่อ 103 ทอง

ซึ่งก็ถือว่าเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่มาเลเซียคว้าแชมป์ได้ตลอดเกือบ 60 ปีของประวัติศาสตร์ซีเกมส์

 

เจ้าภาพเดินหน้าเตรียมปฏิบัติการเป็นเจ้าอาเซียนครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ตัวเองด้วยการกำหนดชนิดกีฬาที่ถนัดและมีลุ้นเหรียญเป็นกอบเป็นกำ

ตัดอีเวนต์ที่คู่แข่งอย่างไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย เคยครองแชมป์มาก่อนทิ้งไป

มวยไทยจากเดิมนับ 10 รุ่น เหลือเพียง 5 ตะกร้อจัดแข่ง 5 ประเภท แต่ส่งแข่งได้เพียง 3 สควอชที่มาเลเซียเก่งมากชิงชัย 10 เหรียญทอง โบว์ลิ่งที่เจ้าภาพถนัดก็จัดถึง 11 รายการ นอกจากนั้น ยังมีการจัดกีฬาฤดูหนาวเข้ามาอีก ไอซ์ฮอกกี้ สปีดสเก๊ตติ้ง ฟิเกอร์สเก๊ต รวมกัน 10 รายการ

เมื่อพิจารณาแล้วโอกาสที่ไทยจะเอาชนะเจ้าภาพได้คงเป็นเรื่องยากมาก แม้แต่ “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่อยู่กับวงการกีฬาโลกมาอย่างยาวนานยังออกปากเองว่า โอกาสที่ไทยจะรักษาตำแหน่งเจ้าเหรียญทองเอาไว้ได้นั้นเป็น “ศูนย์”

“ปัจจุบันกีฬาซีเกมส์เป็นสิ่งที่เจ้าภาพหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องเป็นเจ้าเหรียญทองให้ได้เท่านั้น ซีเกมส์หนนี้เจ้าภาพจัด 38 ชนิดกีฬา ชิง 405 ทอง มองแล้วว่าโอกาสที่ไทยจะเป็นเจ้าเหรียญทองนั้นแทบเป็นศูนย์ เพราะดูจากอีเวนต์กีฬาต่างๆ ที่เจ้าภาพจัด เซปักตะกร้อ บังคับให้ส่งได้เพียง 3 จาก 5 อีเวนต์เท่านั้น กีฬาทางน้ำ จัดถึง 60 เหรียญทอง ผมว่ายากมากที่ไทยจะชนะมาเลเซียได้” บิ๊กจา กล่าว

ขณะที่ ณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ดูแลการเตรียมนักกีฬาไทยนั้นก็ไม่ได้ตั้งธงว่าไทยจะได้แชมป์ในเหรียญรวม แต่เล็งไปถึงการเป็นเจ้าเหรียญทองในกีฬาสากลที่มีในโอลิมปิกเกมส์มากกว่า

“ตอนนี้อยากให้มองข้ามซีเกมส์ไปแล้ว เพราะไทยต้องมองไกลไปถึงเอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ รวมทั้งการสร้างนักกีฬาเวิลด์คลาส ซีเกมส์อาจจะเป็นตัววัดความสำเร็จ แต่ กกท. อยากให้มองไปที่กีฬาสากลมากกว่า เพราะจะสร้างความสำเร็จในโอลิมปิกได้ หรือไทยอาจจะได้เจ้าเหรียญทองก็จริง แต่ถ้าสถิติไม่พัฒนาก็ไม่ดีนัก จึงอยากเน้นไปที่การสร้างนักกีฬาระดับโลกให้มากขึ้นเรื่อยๆ”

รองผู้ว่า กกท. กล่าว

 

เมื่อพิจารณาสถิติที่ผ่านมาแล้ว ซีเกมส์ 28 ครั้งที่ผ่านมา ไทยไม่เคยจบอันดับต่ำกว่าเบอร์ 3 ของอาเซียนแม้แต่ครั้งเดียว ได้แชมป์ 13 ครั้ง รองแชมป์ 12 ครั้ง อันดับ 3 อีก 3 ครั้ง และที่สำคัญ ตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 14 เมื่อปี 2544 ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นต้นมา ไทยไม่เคยจบต่ำกว่าอันดับที่ 2 เลย ได้แชมป์มา 6 ครั้ง รองแชมป์ 6 ครั้ง ที่สำคัญทั้ง 6 แชมป์ที่ได้รองแชมป์นั้น เป็นการแพ้เจ้าภาพทั้งสิ้น

“ตัน ศรี ตวนกู จาฟาร์” ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกมาเลเซีย ประกาศว่าทัพเสือเหลืองจองไว้ล่วงหน้าแล้ว 111 เหรียญทอง เท่ากับที่เคยทำได้ในการเป็นเจ้าภาพและเป็นแชมป์ครั้งล่าสุดนั่นเอง การเก็บตัวแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกระหว่างเดือนกันยายน 2558-กันยายน 2559 เป็นการพิจารณาศักยภาพของนักกีฬา ช่วงสอง ตุลาคม 2559-มีนาคม 2560 จะมีการตัดตัวนักกีฬาที่ผลงานไม่ดีออกไป และช่วงสุดท้ายตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 เป็นต้นไปจะเป็นการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบเพื่อลุ้นเหรียญทอง ซึ่งถือว่าเข้มข้นไม่แพ้กับที่ไทยเตรียมการเอาไว้

ถึงแม้จะปลุกใจและทำลายขวัญคู่แข่งกันล่วงหน้า แต่มาเลเซียก็มีเรื่องเครียดในการเตรียมเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งนี้ เพราะล่าสุดรัฐบาลมาเลเซียอนุมัติงบประมาณ 450 ล้านริงกิต (3,825 ล้านบาท) ในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 9 ซึ่งโดนตัดงบฯ จากเดิมที่ขอไว้ 500 ล้านริงกิต (4,250 ล้านบาท) ทำให้งบฯ ในการเป็นเจ้าภาพหายไปถึง 425 ล้านบาท

“ไครี่ จามาลุดดิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬาของมาเลเซียกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากสถานการณ์ตอนนี้ทำให้ทุกฝ่ายต้องประหยัดงบฯ ของตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากที่ต้องจัดการแข่งขันในงบประมาณที่น้อยลงไปอีก แต่เข้าใจดีว่ารัฐบาลกำลังมีปัญหาเรื่องรายได้จากการเก็บภาษี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่างบฯ ที่ได้มาจะยังสามารถช่วยให้มาเลเซียจัดซีเกมส์ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนั้น มาเลเซียจะต้องเป็นเจ้าเหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้เท่านั้น

 

กีฬาที่ไทยและมาเลเซียหมายตาจะคว้าเหรียญทองให้ได้ในครั้งนี้คงหนีไม่พ้นฟุตบอลชายและตะกร้อทุกรายการที่ส่งแข่งขัน

ทีมเสือเหลืองคว้าเหรียญทองฟุตบอลชาย 2 สมัยติด ในซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ลาว และครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ส่วนไทยได้แชมป์ 2 ครั้งหลังสุด ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่พม่า และครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ การที่มาเลเซียได้เล่นในบ้าน ย่อมสร้างปัญหาทั้งในแนวตรงและแนวอ้อมๆ ให้กับคู่แข่งได้เสมอ

ส่วนตะกร้อนั้น มาเลเซียคงไล่ไทยไม่ทันในเวลาไม่ถึงปี แต่ต้องระวังเรื่องการตัดสินที่จะทำให้ไทยพลาดพลั้งได้ เรื่องนี้ พล.ต.จารึก นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยฯ ออกปากเตือนนักตะกร้อไทยเลยว่า จะต้องเตรียมทีมให้แข็งแกร่งที่สุดเพราะอาจเจอปัญหาเรื่องการตัดสินของชาติเจ้าภาพ

ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ในปี 2560 จะเป็นการครบรอบ 50 ปีที่ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ทรงชนะเลิศเหรียญทองการแข่งขันเรือใบ ในกีฬาแหลมทอง ชื่อเดิมของกีฬาซีเกมส์ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2510 ที่ประเทศไทย

ถ้านักกีฬาทีมชาติไทยพลิกล็อกเป็นเจ้าเหรียญทองมาได้ก็คงจะเป็นการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของในหลวง รัชกาลที่ 9 แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็ขอให้น้อมนำเอาพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่นักกีฬาทีมชาติไทยอยู่เสมอว่า

ให้สร้างมิตรภาพกับนานาชาติ ในฐานะตัวแทนประเทศ โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลแพ้ชนะ