รำลึกถึง “สตีฟ จ็อบส์” ผู้เป็นตำนาน ทิ้งไว้แต่ความทรงจำ วันนี้ในอดีตเขาเสียชีวิต

เรื่องการเสียชีวิตของ สตีฟ จ็อบส์ เป็นข่าวที่ทุกคนทราบดี เขาเป็นใคร สร้างความเปลี่ยนแปลงโลกเทคโนโลยีอย่างเป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดีเช่นกัน

คนของโลกฉบับนี้ จึงขอเล่าเฉพาะชีวิตส่วนของจ็อบส์

เขามีชื่อเต็มว่า สตีเฟน พอล จ็อบส์ เกิดที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เสีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2498

แม่ชื่อโจแอนน์ แคโรล ซีเบิล หญิงชาวอเมริกัน และพ่อชื่ออัลดุลฟาตาห์ จานดาลี ชาวซีเรีย

ลืมตาดูโลกขณะพ่อแม่ทั้งคู่ยังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโทในสหรัฐ ซึ่งหมายถึงทั้ง 2 คนไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูแลบุตรชาย

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ซีเบิลและจานดาลี ต้องการมอบลูกชายให้เป็นลูกบุญธรรม อีกเหตุผลหนึ่งที่ทั้งสองตัดสินใจเช่นนี้ เกิดจากพ่อของซีเบิลไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกสาวแต่งงานกับจานดาลี แต่มีข้อแม้ว่าสามีภรรยาที่จะรับเป็นลูกบุญธรรมนั้น

ต้องเป็นผู้ที่จบมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ พอล และ คลาร่า จ็อบส์ สามีภรรยาที่แสดงเจตนารมณ์รับเด็กเป็นลูกบุญธรรมไม่จบมหาวิทยาลัย โดยครอบครัวจ็อบส์รับปากกับซีเบิลและจานดาลี ว่าจะส่งลูกเรียนจนจบมหาวิทยาลัยให้ได้ ซีเบิลและจานดาลีจึงตั้งสินใจมอบลูกให้

ซีเบิลและจานดาลี แต่งงานในเดือนธันวาคม 2498 หลังการเสียชีวิตของพ่อซีเบิลได้ 4 เดือน หรือหลังจากยกลูกให้ครอลครัวจ็อบส์ได้ 10 เดือน

ต่อมาซีเบิลเปลี่ยนนามสกุลเป็นซิมป์สัน และให้กำเนิดบุตรสาว ชื่อ โมนา ซิมป์สัน ปัจจุบันเป็นนักแต่งนวนิยายชื่อดัง

ซีเบิลและจานดาลี หย่าร้างกันเมื่อปี 2505

จ็อบส์ และ โมนา ซิมป์สัน เจอกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2525 และติดต่อกันอย่างลับๆ จนถึงปี 2529 โดยจ็อบส์แอบไปพบกับซิมป์สันที่แมนฮัตตันในนิวยอร์ก จ็อบส์ทราบรายละเอียดของพ่อแม่ที่ให้กำเนิดจาก โมนา ซิมป์สัน และเคยเชิญแม่ตัวจริงไปร่วมงานหลายครั้ง แต่จ็อบส์ไม่ต้องการพบพ่อและความพยายามที่จะพบกับจ็อบส์ของจานดาลี ไม่ประสบความสำเร็จ

จ็อบส์รับพอลและคลาร่าเป็นพ่อแม่ แต่ไม่ยอมรับซีเบิลและจานดาลีเป็นพ่อแม่โดยเด็ดขาด

พอลเป็นพ่อค้า นักการเงิน และนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คลาร่า เป็นนักบัญชี ได้ย้ายออกจากซานฟรานซิสโกไปอยู่ที่เมาเท่นวิว เพื่อปักหลักค้าขายเครื่องจักรกล ซึ่งตอนนั้นเด็กชายจ็อบส์อายุเพียง 5 ขวบ เข้าเรียนไฮสคูลในโรงเรียนคูเปอร์ทิโน จูเนีย ไฮสคูล และโฮมสตีด ไฮสคูล ที่เมืองคูเปอร์ทิโนในแคลิฟอร์เนีย

ช่วงที่เรียนไฮสคูลมักจะแวะไปที่ บริษัท ฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด ที่เมืองพาโล อัลโต บ่อยครั้ง จนได้พบกับ วิลเลียม ฮิวเล็ตต์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด และถูกทาบทามให้ไปทำงานพาร์ตไทม์ในช่วงวันหยุดหน้าร้อนจากการที่เป็นคนอยากรู้อยากเห็นและไม่ยอมแพ้

หลังเรียนจบไฮสคูลเมื่อปี 2515 จ็อบส์เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรีด คอลเลจ ที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ในปีเดียวกัน

เรียนได้เทอมเดียวก็ลาออก

ในช่วงนั้น ดำรงชีวิตด้วยการเก็บกระป๋องโค้กหาเงิน รับอาหารฟรีจากวัดฮินดู “ฮาเร กฤษณะ” และอาศัยอยู่กับเพื่อน แต่ยังแอบไปฟังการเรียนการสอนที่มหาวิทยาลัยรีดระยะหนึ่ง เข้าทำงานเป็นช่างในบริษัทอาตาริ บริษัทผู้ผลิตวิดีโอเกม

ทำงานได้ระยะหนึ่งก็เดินทางไปหาความสงบทางจิตที่อินเดีย โดยไปพบกับ เนม คาโรลี บาบา นักบวชในศาสนาฮินดู ที่วัดเกนจิ อาศรม ที่นั่นเขาได้เปลี่ยนศาสนาเป็นชาวพุทธ

ตอนเดินทางกลับสหรัฐ ได้โกนศีรษะและแต่งชุดแบบอินเดีย

จ็อบส์ และ สตีฟ วอชเนียด รวบรวมเงินได้ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ และทั้งคู่ก่อตั้งแอปเปิลคอมพิวเตอร์ขึ้นที่โรงรถที่บ้านพักของจ็อบส์เป็นสำนักงานเมื่อปี 2519

ผลงานแรกสุดคือ คอมพิวเตอร์ “แอปเปิล วัน” เพื่อใช้ในสำนักงานใหญ่โดยเฉพาะ โดยวอชเนียดเป็นผู้ออกแบบ และจ็อบส์ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการขาย

ปีถัดไปได้ผลิตคอมพิวเตอร์แอปเปิล ทู ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรกของโลก และขายได้อยู่นานถึง 16 ปี

เมื่อเกิดความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน จ็อบส์ได้ลาออกจากแอปเปิลเมื่อปี 2528 และไปตั้ง เน็กซ์ คอมพิวเตอร์ ในปีเดียวกัน จ็อบส์เสนอให้แอปเปิลเข้ามาซื้อเน็กซ์ คอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2540 และจ็อบส์กลับมาดำรงตำแหน่งซีอีโอของแอปเปิลและภายใต้การบริหารของจ็อบส์ได้มีการขยายยอดขายอย่างรวดเร็วด้วยการผลิตสินค้าตัวใหม่ๆ

จ็อบส์ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในตับอ่อนเมื่อปี 2547 แต่ได้รับการรักษาจนหายโดยไม่มีเปิดเผยต่อสาธารณะ สำนักข่าวบลูมเบิร์กเคยรายงานผิดว่าจ็อบส์ได้เสียชีวิตลงเมื่อปี 2551

จ็อบส์ลาออกจากซีอีโอแอปเปิลเมื่อเดือนเมษายน 2554 ด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพ แต่ยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัท

ลาออกจากซีอีโอแอปเปิลได้เพียง 6 สัปดาห์ จ็อบส์ก็ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่บ้านพักที่แคลิฟอร์เนีย เมื่อเวลา 15.00 น.ในวันที่ 5 ตุลาคม 2554