นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมแถลงข่าวการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและลูกกรุง โครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์”

นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมแถลงข่าวการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและลูกกรุง โครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” ณ ตลาดทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ท่าไข่) จังหวัดฉะเชิงเทรา เน้นย้ำ เสริมสร้างสังคมที่ดีให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ด้วยการสนับสนุนส่งเสริมทักษะและความชอบอย่างมีคุณภาพ สู่ความมั่นคงและยั่งยืนของสังคมไทยในอนาคต

วันนี้ (24 พ.ค. 67) เวลา 09:30 น. ที่ตลาดทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ท่าไข่) ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมแถลงข่าวการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและลูกกรุง โครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” ชิงเงินรางวัลพร้อมถ้วยรางวัลและเกียรติบัตร โดยมี นางสาวอภิรดี เงินวิจิตร รองผู้อำนวยการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ประธานในพิธี นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ดร. นฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง อาจารย์วิรัช อยู่ถาวร ศิลปินแห่งชาติ ผู้ควบคุมวงดนตรีเฉลิมราชย์ ผู้แทนกรรมการตัดสินการประกวด และพันเอก สราญ มังคละโยธา รองเจ้ากรมดุริยางค์ทหารบก ร่วมแถลงข่าว ซึ่งภายในงานแถลงข่าวมีการแสดงของศิลปินรับเชิญ “รุ่ง สุริยา” ต้นแบบศิลปินลูกทุ่ง “แซ็ค ชุมแพ” ลูกทุ่งอินดี้ ศิลปินสังกัดบิ๊กเลิฟมิวสิค “มิ้วส์ อรภัสญาน์ สุกใส” ศิลปินสังกัดแกรมมีโกลด์ อ.วินัย พันธุรักษ์ ศิลปินแห่งชาติ ปี 2560 ต้นแบบศิลปินลูกกรุง และการแสดงดนตรีจากกรมดุริยางค์ทหารบก โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สื่อมวลชน พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก ร่วมในงาน

โอกาสนี้ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานแถลงข่าวจัดการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและลูกกรุง โครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาส่งเสริมทักษะของเด็กและเยาวชน ทำให้ลูกหลานเยาวชนรุ่นใหม่ “New Generation” ได้มีโอกาสที่ดีในชีวิต มีเวทีในการแสดงออกถึงความสามารถ รวมถึงได้ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเพลงลูกทุ่งและลูกกรุงของประเทศไทย ซึ่งการพัฒนาให้เด็กเป็นคนดีมีคุณธรรมมีจิตใจที่รักชาติ รักศาสนา รักแผ่นดินไทย เทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ บ้านเมืองก็จะมีความมั่นคงและแข็งแรง ซึ่งสิ่งสำคัญของทั่วโลก ที่เรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งอัตราการเกิดของมนุษย์น้อยลง หรืออาจเข้าขั้นวิกฤต ทำให้สังคมขาดกำลัง “Work Force” ซึ่งเป็นแรงงานกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม ดังนั้นเราจึงต้องรักษาลูกหลานของเราที่มีให้ดีที่สุด หากเราดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กลับกันได้ทำสิ่งที่ดีที่มีประโยชน์ให้กับชีวิต สนับสนุนให้การศึกษาที่เหมาะสม ทำให้เด็กเยาวชนได้มีอาวุธติดตัว มีความรู้ในการดำรงชีวิต ได้เลือกทำในสิ่งที่ชอบ นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การมีอาชีพที่ดี เช่นเดียวกันกับการประกวดในครั้งนี้ หากน้อง ๆ มีคุณภาพและมีความสามารถก็จะได้เติบโตไปเป็นดาวคนต่อไป การจัดการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและลูกกรุง โครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” จึงนับว่าเป็นโครงการที่ดีที่ จะเป็นแบบอย่างให้กับทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้พัฒนาลูกหลานของเราให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและมีความสุขในสังคมต่อไป

นางสาวอภิรดี เงินวิจิตร รองผู้อำนวยการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ กล่าวว่า สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนผ่านทักษะด้านคีตศิลป์และดุริยางคศิลป์ สนับสนุนให้เยาวชนมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ต่อยอดไปสู่การศึกษา และการเป็นอาชีพได้ในอนาคต สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จึงได้ร่วมกับโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการประกวดร้องเพลงและการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม จัดการประกวดดังกล่าวขึ้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นแห่งแรก เนื่องจากมีความพร้อมหลายด้าน ที่จะทำให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกถึงความสามารถ อีกทั้งยังเป็น ศูนย์แห่งการเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะเวทีที่ตลาดทรัพย์สินฯ (ท่าไข่) แห่งนี้ ซึ่งจะเป็นเวทีการแสดงเพื่อให้เด็กและเยาวชน ทั่วไปที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา หรือเป็นนักเรียนที่อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีโอกาสมาแสดงความสามารถเป็นประจำทุกสุดสัปดาห์ วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มด้วยการประกวดลูกทุ่งแล้วต่อด้วยการประกวดลูกกรุง จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการประกวดร้องเพลงนี้จะเป็นเวทีให้เด็กและเยาวชนของจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แสดงความสามารถ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพิ่มพูนทักษะการขับร้องเพลงจากคณะครู และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน เพื่อนำไปพัฒนาตนเองในอนาคต”

นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ จังหวัดฉะเชิงเทราได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและลูกกรุง ตามโครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” ณ ตลาดท่าไข่แห่งนี้ ซึ่งเป็นตลาดโบราณที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาโดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรม โดยเฉพาะเรื่องวัฒนธรรมทางอาหารของชุมชน มีพ่อค้าแม่ค้าที่ดี มีอาหารอร่อย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนทางจังหวัดฉะเชิงเทรา และพื้นที่อื่น ๆ ได้มาเที่ยวชมตลาดท่าไข่ หรือ “ตลาดทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” แห่งนี้
ทั้งนี้ จังหวัดฉะเชิงเทรามีความยินดีที่จะประสานบูรณาการร่วมกันไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการทุกภาคส่วน ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ และพี่น้องประชาชน เพื่อจะสนับสนุนโอกาสในการจัดการประกวด โดยที่ผ่านมาเราได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์การจัดประกวดผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งหลังจากเปิดรับสมัครแล้วจะมีการดำเนินการอำนวยความสะดวก อาทิ การดูแลเรื่องการจราจรความปลอดภัย รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบ และมาเข้าร่วมการประกวดร้องเพลงฯ ในครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเยาวชนของจังหวัดฉะเชิงเทรา พัฒนาน้อง ๆ ให้มีความสามารถนำไปสู่การมีอนาคตที่จะเติบโตไปเป็นศิลปิน ซึ่งเป็นช่องทางโอกาสของชาวแปดริ้ว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทราอีกด้วย

ดร. นฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง กล่าวว่า การประกวดครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทลูกทุ่ง และประเภทลูกกรุง การจัดการประกวดครั้งนี้เป็นการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและลูกกรุง ซึ่งเราได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการคัดสรร มีท่านอาจารย์วิรัตน์ อยู่ถาวร ผู้แทนคณะกรรมการตัดสินการประกวด ดูแลควบคุมในเรื่องระเบียบการคัดเลือก ซึ่งเราจะนำผู้ที่มีทักษะทางด้านการแสดง การร้อง การดนตรี โดยมีผู้เชี่ยวชาญมา Workshop ให้กับน้อง ๆ ที่ได้รับการรับรองแล้วเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ทำให้น้อง ๆ ที่เข้าประกวดจะได้รับการพัฒนาทักษะทุกด้าน ดังนั้นการประกวดที่ฉะเชิงเทราครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นการประกวดที่ได้มาตรฐานและมีระดับ จึงหวังว่าการประกวดครั้งนี้จะทำให้เราได้เยาวชนของภูมิภาคแห่งนี้ เพื่อผลักดันส่งน้องเข้าสู่เวทีระดับสูง ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงนักร้องแต่จะเป็นอาชีพการทำงานของเด็กเยาวชนต่อไปในอนาคต

ด้าน อาจารย์วิรัช อยู่ถาวร ศิลปินแห่งชาติ ผู้ควบคุมวงดนตรีเฉลิมราชย์ ผู้แทนกรรมการตัดสินการประกวด กล่าวให้คำแนะนำกับผู้เข้าประกวดว่า สิ่งสำคัญที่สุดของผู้เข้ารอบการประกวดเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ คือผู้เข้าประกวดจะต้องเป็นผู้รู้เกี่ยวกับการร้องเพลงหรือการดนตรี ในส่วนของคณะกรรมการเราใช้ผู้มีความรู้ความสามารถในการตัดสิน ซึ่งบุคลากรเหล่านี้จะเข้าใจการดนตรี การร้องเพลงลูกทุ่งหรือลูกกรุง ในส่วนเกณฑ์การให้คะแนน การร้องเพลงสำคัญอยู่ที่คุณภาพของเสียงร้อง การรู้จักใช้เสียงให้ถูกต้อง รู้จักเทคนิคการร้อง นอกจากจะร้องเพลงดีและร้องเพลงเพราะแล้ว ต้องรวมถึงการแสดงออกบนเวทีต้องสื่อสารให้ผู้ฟังมีความสุข มีความเข้าใจสามารถตีความหมายเรื่องเพลง และมีบุคลิกภาพการแต่งกายบนเวทีที่ดี ในส่วนของเรื่องการต่อยอดจากการประกวด ซึ่งการร้องเพลงการเล่นดนตรีนั้นนอกจากจะทำให้ผู้ฟังและตนเองมีความสุขแล้ว หากมีความเป็นเลิศด้านการดนตรีก็จะมีอาชีพ แต่สิ่งสำคัญที่แฝงอยู่ในการร้องเพลงและการเล่นดนตรีนั่นก็คือเรื่องสมาธิ การร้องเพลงการเล่นดนตรีจะทำให้มีสมาธิสูงขึ้น มีผลต่อการศึกษาเรียนรู้และการใช้ชีวิตประจำวัน

พันเอก สราญ มังคละโยธา รองเจ้ากรมดุริยางค์ทหารบก กล่าวว่า “กรมดุริยางค์ทหารบก จัดเตรียมวงหัสดนตรีแบบมาตรฐานสากลและนักดนตรีระดับอาชีพ เพื่อบรรเลงให้กับผู้เข้าประกวดตั้งแต่รอบคัดเลือกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ รวมถึงสนับสนุนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในการประกวดครั้งนี้กรมดุริยางค์ทหารบกเชื่อว่าจะค้นพบเยาวชนที่มีศักยภาพด้านขับร้องและการแสดง และมีโอกาสเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนดุริยางค์ทหารบก ซึ่งได้รับทุนการศึกษาจากกองทัพบกตลอดหลักสูตร และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็จะรับราชการในกองทัพบกต่อไป”

สำหรับโครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ชิงเงินรางวัลพร้อมถ้วยรางวัล และเกียรติบัตร ถ้วยรางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท ถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท และถ้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีรางวัลชมเชย 10,000 บาท รางวัลความสามารถพิเศษ 10,000 บาท พร้อมรับเกียรติบัตรสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ คุณสมบัติของผู้สมัคร เป็นบุคคลทั่วไปอายุไม่เกิน 18 ปี มีภูมิลำเนาในจังหวัดฉะเชิงเทรา หรือ เป็นนักเรียนระดับไม่เกินมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีสถานศึกษาในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเปิดรับสมัคร เพลงลูกทุ่ง : 25 พฤษภาคม – 10 มิถุนายน 2567 เพลงลูกกรุง : 1 – 15 กันยายน 2567 และรอบชิงชนะเลิศเพลงลูกทุ่ง กำหนดวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 ทั้งนี้ สำหรับเยาวชนผู้ที่สนใจร่วมประกวดร้องเพลงลูกทุ่งและลูกกรุงในโครงการ “เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” สามารถสมัครได้ที่ QR Code https://bit.ly/3ywmFOn หรือสมัครด้วยตนเองที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Facebook : เยาวชนสืบสานรักษ์เพลงไทย หรือสอบถามเพิ่มเติม หมายเลขโทรศัพท์ 0 2787 6887 เวลา 08.30 – 16.30 น. ในวันและเวลาทำการ