ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ กำชับฝ่ายปกครองลุย Re X-Ray พื้นที่ สร้างความสงบสุขในสังคม บุกจับกุม 2 ผู้ต้องหากลางเกาะพะงัน พร้อมของกลางยาเสพติด และบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 400 ชิ้น

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ กำชับฝ่ายปกครองลุย Re X-Ray พื้นที่ สร้างความสงบสุขในสังคม บุกจับกุม 2 ผู้ต้องหากลางเกาะพะงัน พร้อมของกลางยาเสพติด และบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 400 ชิ้น พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสการกระทำผิดที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับคนทำผิดกฎหมายโดยทันที

วันนี้ (26 มี.ค. 67) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีให้ความสำคัญกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะการรักษาความมั่นคงภายในและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งการจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพล การอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมถึงภารกิจการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เพื่อนำความสมบูรณ์พูนสุขมาให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติการจัดระเบียบสังคม Re X-Ray พื้นที่

“ล่าสุดในพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเกาะพะงัน ฝ่ายความมั่นคง นำโดย นายหมวดตรี อัครพล พูลผล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง/ผู้ช่วยผู้บังคับการกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเกาะพะงัน เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเกาะพะงัน (ฉก.ธารเสด็จ) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สฎ. นำโดย พ.ต.ต.เจริญชัย บุญเกลี้ยง สว.กก.สส.ภ.จว.สฎ ร่วมบูรณาการ Re X-Ray พื้นที่ ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติดได้ จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางกว่า 50 รายการ โดยผู้ต้องหายาเสพติดรายที่ 1 คือ น.ส.กนกนุช หรือมิกกี้ อายุ 37 ปี ซึ่งจับกุมได้ที่บริเวณซุ้มขายของบริเวณทางเข้า One Love Bar ม.6 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน ในข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือแพร่กระจายแก่ประชาชน มีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยเป็นของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือของต้องจำกัดหรือของต้องห้ามหรือของที่นำเข้ามาในโดยยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากร หรือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเสี่ยงอากร อันเกี่ยวกับของนั้น และขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 40 รายการ ได้แก่ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) น้ำหนักรวมถุง 14.2 กรัม วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) น้ำหนักรวมถุง 27.5 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) 393.9 กรัม บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 449 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่พบของกลางที่ตัวของผู้ถูกจับกุม และซุกซ่อนอยู่ในบริเวณซุ้มขายของด้านหลังเคาน์เตอร์ภายในร้าน ซึ่งมีทั้งวางอยู่บนโต๊ะเคาน์เตอร์ รวมถึงโชว์ไว้บริเวณหน้าร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายเจษฎาฯ กล่าว

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเกาะพะงัน ภายใต้การอำนวยสั่งการของนายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอเกาะพะงัน และนายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ได้สั่งการให้นายหมวดตรี อัครพล พูลผล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง/ผช.ผบ.ร้อย อส.อ.เกาะพะงัน เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเกาะพะงัน (ฉก.ธารเสด็จ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สฎ. นำโดย พ.ต.ต.เจริญชัย บุญเกลี้ยง สว.กก.สส.ภ.จว.สฎ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวีหรรษยศ หรือปื๊ด อายุ 44 ปี ในข้อกล่าวหา มีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยเป็นของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือของต้องจำกัดหรือของต้องห้ามหรือของที่นำเข้ามาในโดยยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากร หรือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเสี่ยงอากร อันเกี่ยวกับของนั้น และขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (โคเคน) น้ำหนักรวมถุง 0.6 กรัม บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 8 อัน และยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) น้ำหนักรวมถุง 547.8 กรัม ซึ่งชุดปฏิบัติการพบของกลางภายในร้านเอ็มแคนนาบิส ม.6 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน บริเวณเคาน์เตอร์ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการสนับสนุนภารกิจของภาครัฐตลอดมา ซึ่งปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมักจะมีรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้นตามสถานการณ์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทั้งนี้ หากพบเบาะแสการกระทำความผิดทุกรูปแบบ หรือต้องการขอความช่วยเหลือ หรือขอคำปรึกษาในการรับบริการต่าง ๆ จากหน่วยงานภาครัฐ สามารถโทรศัพท์แจ้งเบาะแส ร้องเรียน ร้องทุกข์ ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม ผ่านสายด่วนหมายเลข 1567 หรือแจ้งปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา ขยายผลการปฏิบัติการ และให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที” นายเจษฎา กล่าวในช่วงท้าย

#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข