พ่อเมืองสิงห์บุรี นำคณะเครือข่าย โคก หนอง นา เมืองสิงห์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มเกษตรกรเมืองมะขามหวาน พร้อม Change for Good นำสิ่งดี ๆ มาเป็นต้นแบบ เพื่อขับเคลื่อนขยายผลต่อไป

พ่อเมืองสิงห์บุรี นำคณะเครือข่าย โคก หนอง นา เมืองสิงห์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มเกษตรกรเมืองมะขามหวาน พร้อม Change for Good นำสิ่งดี ๆ มาเป็นต้นแบบ เพื่อขับเคลื่อนขยายผลต่อไป

วันนี้ (18 มี.ค.67) นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า จังหวัดสิงห์บุรี มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยจังหวัดสิงห์บุรีมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ประชากรมีอาชีพหลักก็คือเกษตรกร ซึ่งยังประสบปัญหาภาวะหนี้สินในการทำเกษตรกรรมเชิงเดี่ยวมาโดยตลอด โดยที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย และภาคีเครือข่ายได้ขับเคลื่อนขยายผล การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดสิงห์บุรี มีภาคีเครือข่ายโคกหนองนา รวมทั้งหมด 73 แปลง เพื่อเป็นการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ฯ และสร้างความร่วมมือร่วมใจ เกื้อกูลเอื้ออาทรของเครือข่ายฯ “โคก หนอง นา” จังหวัดสิงห์บุรี

นายสุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเพิ่มพูนองค์ความรู้ รวมทั้งมุมมองและแนวคิดใหม่ ๆ ให้กับกลุ่มพี่น้องเครือข่าย โคก หนอง นา ในระหว่างวันที่ 16 – 17 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ตนจึงได้นำผู้แทนคณะเครือข่ายโคก หนอง นา จากทุกอำเภอเดินทางมาศึกษาดูงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ เป็น Best Practice ของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ 1. กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรอินทรีย์บ้านวังร่อง ต.ห้วยไร่ อ.หล่มสัก ปลูกผักสวนครัว/ผักสลัดส่ง Lemon Farm และร้านจำหน่ายผักอินทรีย์จังหวัดพิษณุโลก 2. สวนต้นไทร สวนไม้ผลอินทรีย์หลากชนิด แบบกางมุ้ง ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ 3. สวนบีบอยฟาร์ม สวนเกษตรผสมผสาน ปลูกทุเรียน กระท้อน มะม่วง มังคุด เงาะ ไม้ตัดใบ และมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวขับรถ ATV ชมแปลงเกษตรเพื่อสร้างรายได้ ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งตลอดระยะเวลาทั้ง 2 วัน ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับคณะเครือข่าย โคก หนอง นา จังหวัดสิงห์บุรีเป็นอย่างมาก

“จากการที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มเกษตรกร ของจังหวัดเพชรบูรณ์ในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นตัวอย่างดี ๆ มากมาย อาทิเช่น แนวทางเกษตรอินทรีย์ การรวมกลุ่มที่เข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกร รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วยวิถีชุมชน ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ และพัฒนาต่อยอดได้ โดยหลังจากนี้จังหวัดสิงห์บุรี โดยกลุ่มสมาชิกเครือข่าย รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จะร่วมหารือถอดบทเรียน และนำสิ่งดี ๆ ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์มาขับเคลื่อนขยายผลในจังหวัดสิงห์บุรีต่อไป” นายสุเมธฯ กล่าวทิ้งท้าย

#WorldSoilDay #วันดินโลก
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
#SDGsforAll #ChangeforGood