ปรางค์ทิพย์ กับมุมมองด้านทุนการศึกษา โอกาสที่ได้รับพร้อมส่งต่อเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่

….ทนายสาวผู้คร่ำหวอดในแวดวงกฎหมายมากว่า 20 ปี ในฐานะทนายสาวแกร่งแถวหน้าด้านกฎหมายภาษีอากรที่มีเพียงไม่กี่คนในประเทศไทย ปรางค์ทิพย์ อนันตวิภาต ผู้อำนวยการ บริษัท ลอว์อัลลายแอนซ์ บริษัทกฎหมายอันดับต้นในด้านภาษีธุรกิจของประเทศไทย

หากย้อนไปถึงเรื่องการศึกษาต้องบอกว่า ปรางค์ทิพย์ อนันตวิภาต เป็นคนตั้งใจและมุมานะในด้านการเรียนเอามากๆโดยเธอจบปริญญาตรี นิติศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานที่บริษัทกฎหมายอยู่ 3-4 ปี ก็ได้รับทุนไปเรียน
จาก Shell Centenary Scholarship เพื่อไปศึกษาปริญญาโทด้านกฎหมายที่ประเทศอังกฤษ จนกลับมาทำงานเป็นทนายความสาวด้านกฎหมายภาษีอากร เป็นเวลาปีกว่าก็กลับมาทำงาน บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ และบริษัท ลิ้งค์เลเทอร์ส (ประเทศไทย) จนกลับมาทำงานเป็นทนายความสาวด้านกฎหมายภาษีอากร จากการเป็นผู้รับ สู่วันนี้ที่ต้องการจะเป็นผู้ให้ ความตั้งใจที่ต้องการจะตอบแทนและส่งต่อโอกาสกลับสู่สังคมจึงทำให้เธอ ก่อตั้งมูลนิธิคุณเพื่อที่จะหาเงินทุนมาใช้ประโยชน์และช่วยเหลือทั้งทางด้านสุขภาพ การพัฒนาสังคม และช่วยเหลือสุนัขจรจัด นับว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลคุณภาพที่นำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาพัฒนาต่อยอดและส่งต่อให้กับสังคม

และทางด้านการศึกษา ปรางค์ทิพย์ อนันตวิภาต ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากๆเพราะการศึกษานั้นเป็นการสร้างคนให้มีความรู้ สร้างทักษะพื้นฐานที่จำเป็น สร้างความพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อตนเองและสังคม มีความ สร้างการงานอาชีพได้ การศึกษาช่วยให้คนเจริญงอกงาม ทั้งทางปัญญา จิตใจ ร่างกาย โดยเมื่อวันที่ โดยในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา คุณปรางค์ทิพย์ อนันตวิภาต ของมูลนิธิคุณ (KHUN Foundation) ได้พบทีมผู้บริหารของ Shell UK พร้อมโพสต์ข้อความผ่าน FB: Prangtip Anantavipat และทาง FB: KHUN Foundation – มูลนิธิคุณ โดยระบุข้อความว่า…..วันที่ 12 ตุลาคม 2566 เป็น โอกาสสำคัญที่ ตัวแทนจากมูลนิธิคุณ (KHUN Foundation) ได้พบทีมผู้บริหารของ Shell UK ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้ร่วมแบ่งปันสิ่งที่มูลนิธิคุณได้ร่วม ช่วยสิ่งแวดล้อมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามูลนิธิคุณก่อตั้งได้มาจากการที่คุณปรางค์ทิพย์ ประธานและผู้ก่อ ตั้งมูลนิธิคุณ ได้รับโอกาสให้เป็นนักเรียนทุน Shell Centenary Scholarship เพื่อไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านภาษีที่ University College London หรือ UCL ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นทุนที่ให้แบบ ไม่มีเงื่อนไข โดยได้รับปริญญาโทด้านภาษี (Taxation with Merit) เป็นความภาคภูมิใจที่สามารถเรียนจบและได้รางวัลเรียนดี ทำให้ตนได้รับประสบการณ์ทางการศึกษาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานจริง รวมถึงประสบการณ์ชีวิตในต่างแดน ถือเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตให้เต็มไปด้วยคุณค่า จนเกิด เป็นแรงบันดาลใจว่าวันใดวันหนึ่งจะเป็นผู้ให้บ้างและมอบโอกาส นั้นคืนกลับสู่สังคมถ้าเราเคยได้รับ โอกาสจากคนอื่นมาแล้ว การส่งมอบโอกาสต่อๆ ไปให้คนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ยากเลย ทำแล้วมีความสุข

ทั้งนี้ คุณปรางค์ทิพย์ ให้สัมภาษณ์จากทางไกลว่า “ตนไม่คาดฝันมาก่อนว่าในที่สุดจะได้กลับมาเยือน Shell UK และได้รับโอกาสพิเศษเข้าพบผู้บริหารของ Shell UK แบบนี้ (ต้องขอขอบคุณพี่อ้อ สุดารัตน์ เชลล์ประเทศไทยที่ช่วยติดต่อให้จนเกิดการเข้าพบในครั้งนี้) เพราะตั้งแต่ได้รับทุนจาก Shell ให้เรียนต่อปริญญาโทด้านกฎหมายที่ UCL ในลอนดอนในปี 1999 ตัวเราเองมีความคิดมาตลอดว่าถ้าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อยากจะนำโอกาสที่ตนเองได้รับจาก Shell ในตอนนั้น มาเป็นโอกาสช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ ที่ตัวเราเองอยากจะตอบแทน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น และในการเข้าพบครั้งนี้ เราได้เล่าให้ทุกท่านฟังว่าที่ผ่านมาได้ทำประโยชน์อะไรไปบ้าง และสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย ถ้าเราไม่ได้รับโอกาสสำคัญจาก Shell UK และ Shell Thailand ให้ไปศึกษาต่อที่อังกฤษ”

ก่อนหน้านี้เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนที่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิคุณ คุณปรางค์ทิพย์ในฐานะศิษย์เก่านิติศาสตร์จุฬา เคยให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสที่เคยได้รับจากองค์กรของเชลล์ว่า “จากการได้รับโอกาสได้เป็นนักเรียนทุน Shell Centenary Scholarship ในปีแรกที่เชลล์เริ่มเปิดรับสมัครชิงทุน โดยในวันนั้น ยังเก็บภาพความประทับใจที่ตนไปรับทุนจากผู้บริหารของบริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด ที่ใจดี ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ต่างๆ เพื่อไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านภาษีที่ University College London หรือ UCL ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นทุนที่ให้แบบไม่มีเงื่อนไข โดยได้รับปริญญาโทด้านภาษี (Taxation with Merit) เป็นความภาคภูมิใจที่สามารถเรียนจบและได้รางวัลเรียนดี ทำให้ตนได้รับประสบการณ์ทางการศึกษาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานจริง รวมถึงประสบการณ์ชีวิตในต่างแดน ถือเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตให้เต็มไปด้วยคุณค่า จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจว่าวันใดวันหนึ่งจะเป็นผู้ให้บ้างและมอบโอกาสนั้นคืนกลับสู่สังคม”

ในที่สุด คุณปรางค์ทิพย์ หรือพี่จิ๋ว ได้เก็บหอมรอบริบเงินที่ได้รับจากการทำงานและเริ่มเห็นโอกาสที่จะทำงานเพื่อสังคม จึงตั้งใจที่จะใช้ความรู้ความสามารถทำโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคม โดยใช้เงินทุนของตัวเองที่มีเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อที่จะต่อยอดเงินทุนที่มีเพื่อทำกิจกรรมหรือหารายได้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านสุขภาพ การพัฒนาสังคม และช่วยเหลือหมาแมวจรจัด โดยได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มเพื่อน พี่น้องที่สนิทและลูกความ ช่วยเสนอระดมความคิดและศึกษาอย่างรอบคอบเพื่อเกิดการให้ความช่วยเหลืออย่างยั่งยืน แทนที่จะให้ความช่วยเหลือในรูปแบบของการบริจาคทุนทรัพย์หรือสิ่งของเป็นครั้ง ๆ ไป

การระดมความคิดจากหลาย ๆ คนรู้จักและรู้ใจ ทำให้รูปแบบกิจกรรมของมูลนิธิคุณ (KHUN Foundation) มีความหลากหลาย ไม่ได้โฟกัสเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยมีแนวคิดที่น่าสนใจว่ากิจกรรม จิตอาสาเป็นการสร้างคนหรือจัดระเบียบคน ดังนั้นกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงแฝงกุศโลบายอันแยบยลในการสร้างคนและสร้างจิตสำนึกของคน เพื่อลดปัญหาต่างๆ ที่มีต้นเหตุมาจากคน

คุณจิ๋ว ปรางค์ทิพย์ ให้สัมภาษณ์ต่อว่า ตอนนี้ยังทำงานกฎหมายเป็นที่ปรึกษากฎหมายภาษีอากรเป็นหลักค่ะ และคดีความที่เคยเล่าให้ฟังเรื่องที่เป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นก็ยังไม่จบ และน่าจะเป็นคดีมหากาพย์สำคัญคดีหนึ่ง เพราะคนที่เสียหายจากข้อพิพาทนี้มีหลายคน ในส่วนของงานมูลนิธิคุณ การให้ความช่วยเหลือสัตว์ คือ หมา แมว มีการบริจาคอาหารให้ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งใช้เงินส่วนตัวและได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตอาหารสัตว์ คือ Perfect Companion Group และงานจะหนักไปทางด้านสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนมีความกังวลมากขึ้นจากปัญหาขยะพลาสติกที่จะกลายเป็นไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกายผ่านการทานอาหารทะเล โดยการรณรงค์ให้คนแยกขยะก่อนทิ้งค่ะ ถ้าทำได้จะช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกไปได้เยอะเลย โชคดีที่มีพันธมิตรช่วย เช่นทีมคณะสังคมศาสตร์ของมศว ที่ร่วมกันทำโครงการ puppet รณรงค์ให้คนแยกขยะก่อนทิ้ง นอกจากพี่ก้อง สหรัถ ที่มาช่วยแล้ว โชคดีมากที่มีป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิดใจ และน้องภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน มาช่วยตอนเปิดโครงการ ป๋อกับทีมงานรู้จักกันตอนไปเรียนที่อังกฤษค่ะ ป๋อน่ารักมาก พอเราติดต่อขอความช่วยเหลือ ป๋อยินดีมาช่วยเลยค่ะ ส่วนน้องภูวินทร์ เรารู้จักกับคุณพ่อน้อง และน้องมีความคิดที่จะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยอยู่แล้วค่ะ ต้องเรียนให้ทราบว่างานทั้งหมดที่ผ่านมา พี่ก้อง ป๋อ น้องภูวินทร์และดาราศิลปินทุกท่านมาช่วยด้วยใจจริง ๆ เลยค่ะ เป็นการช่วยด้วยน้ำใจที่อยากช่วยสังคมของเราให้ดีขึ้นค่ะ

ปิดท้ายการสัมภาษณ์ทางไกลด้วยความดีใจที่ได้มาที่ Shell UK ว่า “ทริปนี้เพิ่มพลังให้พี่มากๆ มีเอาเค้กหน้าสัญลักษณ์ของเชลล์มาให้ Shell UK team ทาน tea time และเล่าชีวิตของพี่ไปด้วย และเล่าว่าที่ผ่านมาไม่รู้จะตอบแทนยังไง ก็ได้แต่เข้าปั๊มเชลล์ เติมแต่น้ำมันเชลล์ เขาหัวเราะกันใหญ่ กลับไปมีกิจกรรมดีๆ รออยู่อีกเยอะเลย อีกอย่างคือพี่โชคดีมีครอบครัวให้กำลังใจในสิ่งที่พี่ทำมาตลอด ส่วนทีมงานที่เป็นเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มาช่วยด้วยใจ ทำงานด้วยความสนุก ประชุมก็ไปนั่งประชุมทานข้าว ตามร้านอาหารตลอด พอทุกคนทำงานด้วยความสุข งานก็ออกมาดี”