รวมพฤติกรรมเสี่ยง ทำลายกระดูกแบบไม่รู้ตัว

แม้ว่ากระดูกจะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่แข็งแรงและทนทาน แต่พฤติกรรมบางอย่างที่เราทำในชีวิตประจำวันอาจส่งผลต่อกระดูกของเราได้ ซึ่งพฤติกรรมที่ไม่ดีเหล่านี้อาจเสี่ยงทำลายกระดูกให้เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น จึงควรดูแลรักษากระดูกตั้งแต่ตอนนี้เพื่อป้องกันปัญหากระดูกในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไปดูกันเลยว่าคุณทำพฤติกรรมที่เสี่ยงกับการทำร้ายกระดูกอยู่รึเปล่า

รวม 9 พฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายกระดูก 

บางครั้งการใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เป็นการทำร้ายกระดูกโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันมีคนอายุน้อยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากซึ่งพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ รวมถึงเรื่องโภชนาการ อาหารการกินต่าง ๆ  ล้วนมีผลต่อความแข็งแรงของกระดูกอย่างมาก มาดูกันเลยว่าคุณทำพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้อยู่หรือไม่

  1. การยืนหลังค่อม

การยืนหลังค่อม หรือการแอ่นตัวไปข้างหน้า ส่วนคางยื่นออกไปด้านหน้า การยืนแบบนี้จะทำให้ปวดหลังมากขึ้น และทำให้เกิดความผิดปกติของแนวกระดูกช่วงล่าง แนะนำว่าการยืนหลังตรง และเกร็งหน้าท้องเล็กน้อยจะเป็นท่ายืนดีที่สุด

  1. ยืนพักขาไปที่ข้างใดข้างหนึ่ง

การยืนแล้วทิ้งน้ำหนักไปที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง เป็นพฤติกรรมที่หลายคนชอบทำ ในช่วงเวลาที่ต้องยืนนานๆ แล้วรู้สึกเมื่อยโดยการยืนในลักษณะพักขาไปที่ข้างใดข้างหนึ่ง จะมีผลเสียต่อขาที่ได้รับการทิ้งน้ำหนัก จนทำให้เกิดอาการปวด และเป็นตะคริวได้ แนะนำว่าควรยืนให้ขากว้างเท่าสะโพกโดยลงให้ลงน้ำหนักไปที่ขาทั้งสองข้างเท่า ๆ กัน เพื่อให้เกิดความสมดุลในการยืน ลดอาการปวดขาหรือเป็นตะคริวได้

  1. การนั่งหลังค่อม

การนั่งหลังค่อมมักเป็นพฤติกรรมที่เจอได้ตั้งแต่เด็ก จนถึงวัยผู้ใหญ่ และหากต้องนั่งในท่าเดิมนาน ๆ เช่น การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ การเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ การก้มหน้าอ่านหนังสือ การก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง ทำให้เกิดมีอาการปวดเมื่อยที่หัวไหล่ และสะโพก และอาจทำให้กระดูกยื่นผิดรูปได้ แนะนำว่าควรเปลี่ยนให้หน้าจอคอมอยู่ในระดับสายตา แบบไม่ต้องก้มลงมอง และควรลุกยืดเส้นบ้างเพื่อคลายกล้ามเนื้อ

  1. การนั่งไขว่ห้าง

การนั่งไขว่ห้างแม่จะดูเป็นท่านั่งที่ทำให้สรีระดูสวยงาม แต่การกดทับน้ำหนักตัวไว้ที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง อาจส่งผลให้กระดูกคดและโค้งงอได้  อย่างบริเวณกระดูกสันหลังและบริเวณอุ้งเชิงกราน และหากนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้มีอาการปวดคอและหลังตามมาได้  และยังทำให้บริเวณหัวเข่าถูกบิดให้ผิดธรรมชาติอยู่บ่อย ๆ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อกระดูกข้อเข่า

  1. การนั่งยองๆ

การนั่งยอง ๆ เป็นพฤติกรรมที่หลายคนมักคุ้นชิน และมักใช้ในชีวิตประจำวันอยู่บ่อย ๆ เช่น การนั่งซักผ้า การนั่งยองทำกับการ หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ การนั่งลักษณะนี้จะส่งผลเสียอย่างมากต่อข้อเข่า เนื่องจากเป็นท่าที่ผิวข้อเข่าถูกอัดบีบอย่างรุนแรงที่สุด แนะนำว่าควรหาเก้าอี้เตี้ยๆ มารองนั่ง หรือเปลี่ยนไปทำกิจกรรมแบบอื่นแทน เช่น ยืน หรือนั่งเก้าอี้ เพื่อลดการบีบอัดบริเวณผิวข้อเข่า หรือหากมีอาการปวดอื่น ๆ บริเวณเข่าก็ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กอีกครั้ง เช่นเป็น ข้อเข่าเสื่อมรักษาได้ เพื่อไม่ให้มีอาการรุนแรงขึ้น

  1. การนอนขดตัว

การนอนหดแขน และขา โดยคุดคู้ตัวเป็นวงกลม จะทำให้กระดูกสันหลังบิดงอผิดรูปได้ และยังส่งผลให้เกิดอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อได้เช่นกัน ซึ่งเป็นท่านอนที่ไม่เหมาะสม แนะนำว่าให้นอนหงาย และควรใช้หมอนหนุนศีรษะที่ไม่สูงและไม่เตี้ยเกินไป และไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป เพื่อช่วยให้นอนได้ถูกต้องมากขึ้น ลดอาการปวดต่าง ๆ ได้

  1. การกึ่งนั่งกึ่งนอน 

หลาย ๆ คนมักจะชอบมีพฤติกรรมนอนดูโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์ อ่านหนังสือ แบบนอนเอนหลังกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาหรือเตียงนอนกันอย่างมาก ทำให้ต้องงอลำคออยู่บ่อย ๆ ซึ่งการอยู่ในท่านี้นาน ๆ จะส่งผลให้กระดูกคอสึก และยังทำให้เกิดอาการปวดหลัง เพราะกระดูกหลังแอ่นได้ด้วย แนะนำว่าควรนั่งพิงพนักพิงแบบเต็มตัวเลยดีกว่า และควรหาหมอนมารองที่หลังด้วย

  1. การสะพายกระเป๋าที่ไหล่ข้างเดียว 

การกระเป๋าสะพายกระเป๋าด้วยไหล่ข้างเดียว มักจะเจอได้บ่อยในผู้หญิง และการที่กระเป๋าหนักมากเกินไป และต้องสะพายไว้บนไหล่ข้างเดียวนาน ๆ  อาจทำให้เกิดการเจ็บปวดบริเวณหัวไหล่ได้ เพราะกล้ามเนื้อ และกระดูกส่วนนั้นต้องรับน้ำหนักมากจนอาจทำให้กระดูกคดงอได้ หากต้องการสะพายข้างเดียว ควรสะพายกระเป๋าน้ำหนักเบา หรือสลับฝั่งสะพายบ้าง อีกวิธีคือการเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าเป้แบบสะพายไหล่สองข้าง เพื่อลดอาการปวดเมื่อยที่ไหล่เพียงข้างเดียว

  1. การใส่รองเท้าส้นสูงเกิน 1 นิ้ว 

รองเท้าส้นสูงถือเป็นเครื่องแต่งกายที่ช่วยเสริมบุคลิกให้คนที่สวมใส่ได้ ทำให้สรีระดูสูงเพรียว แต่รู้หรือไม่ว่าการต้องยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ทำให้น้ำหนักตัวเทไปด้านหน้าที่ปลายเท้ามากเกินไป ส่งผลให้มีอาการเกร็งบริเวณกระดูกสันหลังตลอดเวลา และยังทำให้ข้อเข่าถูกกดลงแบบผิดตำแหน่งปกติด้วย แนะนำว่าหากต้องใส่รองเท้าส้นสูงควรถอดออกมาพักเท้าทุก ๆ 1 ชั่วโมง เพื่อลดอาการปวดเกร็ง

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำร้ายกระดูกก่อนสายไป 

การดูแลรักษาสุขภาพร่างกายนั้นเป็นสิ่งสำคัญ กระดูกก็ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างมาก เพราะต้องอยู่กับร่างกายของเราไประยะยาวตลอดชีวิต จะสังเกตได้ว่าส่วนใหญ่แล้วพฤติกรรมทำร้ายกระดูกนั้น มีทั้งส่งผลกระทบที่ส่วนหลัง ไหล่ และเข่า อาจทำให้เป็นโรคอื่น ๆ ตามมาได้ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น จึงควรระวังเอาไว้ก่อนสายไป