ไทวัสดุ ชูนโยบายธุรกิจสีเขียว จับมือ กสิกรไทย ดันสินเชื่อบ้านติดแผงโซลาร์ประหยัดไฟ พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 40,000 บาท

กรุงเทพฯ 31 ตุลาคม 2565 – บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผนึกกำลัง ธนาคารกสิกรไทย เดินหน้าผลักดันสังคมไทยก้าวสู่สังคมไร้คาร์บอน ส่งแคมเปญสินเชื่อบ้าน Green Zero มอบโปรโมชันพิเศษ ติดตั้งแผงโซลาร์กับไทวัสดุ รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% 3 เดือน ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี พร้อมรับส่วนลดพิเศษ มูลค่าสูงสุดกว่า 40,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธ.ค. 2565 ที่ ไทวัสดุ ทุกสาขา ทั่วประเทศ

นางสาวชุติพร คงเจริญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด กล่าวว่า ไทวัสดุ ผู้นำค้าปลีกธุรกิจวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน เดินหน้าตามนโยบายกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจที่มุ่งเติบโตเคียงข้างสังคมและสิ่งแวดล้อม  และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนคนไทยหันมาใช้พลังงานธรรมชาติ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก อันเป็นสาเหตุหลักของปัญหาภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นปัญหาที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ จึงได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย จัดแคมเปญ “สินเชื่อบ้าน Green Zero” ภายใต้โครงการ GO GREEN Together ของธนาคารกสิกรไทย โดยความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังระหว่าง ไทวัสดุ ผู้นำค้าปลีกธุรกิจวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน และธนาคารกสิกรไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุน เพื่อผลักดันสังคมไทยให้ก้าวสู่สังคมไร้คาร์บอน

นายชัยยศ ตันพิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แคมเปญ “สินเชื่อบ้าน Green Zero” เป็นแคมเปญที่ ไทวัสดุ และธนาคารกสิกรไทย ร่วมมอบโปรโมชันพิเศษให้กับประชาชาชน ที่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์บนที่อยู่อาศัยกับ ไทวัสดุ โดยรับโปรโมชันพิเศษ ดังนี้

•      ดอกเบี้ยพิเศษ 0% 3 เดือน ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี

•      รับส่วนลดพิเศษ มูลค่าสูงสุด 40,000 บาท ฟรี!! ค่าสำรวจพื้นที่ติดตั้ง

•      รับเพิ่ม E-Voucher Tops มูลค่า 1,000 บาท สำหรับลูกค้า 100 ท่านแรก ที่จดจำนองตามระยะของแคมเปญ

นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกชำระค่าแผงโซลาร์ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย เพื่อรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนนแลกเท่ายอดใช้จ่าย หรือเลือกแบ่งชำระผ่านบัตรเงินด่วน Xpreess Cash ได้นานสูงสุด 36 เดือน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษ์โลก

ผู้ที่สนใจติดโซลาร์เซลล์ สามารถสอบถามข้อมูล พร้อมรายละเอียดโปรโมชันได้ที่ ไทวัสดุทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธ.ค. 2565 หรือช่องทางออนไลน์ www.thaiwatsadu.com Facebook Fanpage: Thai Watsadu และ ไลน์ไอดี @Thaiwatsadu หรือ โทร 1308 และสำหรับลูกค้าที่สนใจสินเชื่อบ้าน Green Zero สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ K-Contact Center 02-8888888

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,550 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม และ (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)