GBDi จับมือ “สุนารี ราชสีมา” ชวนคนไทยสมัคร Health Link ในแอปฯ เป๋าตัง

“เจ็บป่วยจังหวัดไหน เข้าโรงพยาบาลจังหวัดนั้น ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิมที่เคยรักษา จะถูกส่งผ่านระบบออนไลน์ถึงมือคุณหมอที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ได้ทันที ดีสำหรับคุณหมอดีสำหรับผู้ป่วย”

ข้อความข้างต้นนี้ชี้ให้เห็นประโยชน์โดยตรงของการพัฒนาระบบเชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลทั่วประเทศ หรือเรียกสั้นๆ ว่า เฮลท์ลิงก์ (Health Link) ภายใต้การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลของสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (GBDi) ในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นับเป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งของนโยบายดิจิทัลไทยแลนด์ที่ขับเคลื่อนและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลได้เต็มศักยภาพ ตอนนี้คนไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจึงมีสิทธิ์ใช้บริการจากเฮลท์ลิงก์ทุกคน และกำลังขยายระบบเพื่อรองรับทุกกลุ่มอายุ

ดังนั้น เมื่อมีสิทธิ์แล้ว อย่าเสียสิทธิ์! เพราะวันนี้ เฮลท์ลิงก์ พร้อมรองรับการจัดเก็บฐานข้อมูลสุขภาพขนาดใหญ่ของคนไทยกว่า 70 ล้านคนด้วยความแข็งแกร่งของงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความปลอดภัยในการจัดเก็บและรักษาข้อมูลสูงสุดตามมาตรฐานสากล วิธีสมัครบริการง่ายและฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัคร เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เลือก “กระเป๋าสุขภาพ” กดสมัครบริการ Health Link ผ่านแอปฯ ได้ทันที

เหตุผลที่คนไทยทุกคนควรสมัครเฮลท์ลิงก์
รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (GBDi) กล่าวว่า การพัฒนาระบบเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลมาไว้ในระบบกลางมีมาตรฐานเดียวกันจะช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกเมื่อรับการรักษาในสถานพยาบาลทั่วประเทศ เฮลท์ลิงก์เป็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศโดยตรงเพราะ “ข้อมูล” ซึ่งเป็นประวัติการรักษาของผู้ป่วยจะถูกส่งต่อและนำไปใช้ตามความยินยอมได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ประชาชนคนไทยทุกคนควรเข้ามาสมัครบริการเฮลท์ลิงก์ เพื่อเป็นการยินยอมให้โรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษาของท่านสามารถส่งข้อมูลประวัติการรักษามาไว้ในระบบเฮลท์ลิงก์

“ต่อไปไม่ว่าท่านจะเจ็บป่วยอยู่ที่ไหน เพียงแสดงบัตรประชาชนใบเดียว ก็สามารถรับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้โดยไม่ต้องเสียเวลารอดำเนินการขอประวัติจากโรงพยาบาลเดิม ระยะเวลาการให้บริการที่รวดเร็วขึ้นหมายถึงโอกาสในการรอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นหรือสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น” นายแพทย์ธนกฤต จินตวร รองผู้อำนวยการ GBDi กล่าวเสริมและย้ำว่า การสร้างระบบเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยจากทุกโรงพยาบาลไว้ในเฮลท์ลิงก์ นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยแล้ว ยังอำนวยความสะดวกในระบบการทำงานของแพทย์ด้วยเพราะแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและจำเป็นต่อการวินิจฉัยผู้ป่วยได้จากเฮลท์ลิงก์ทันที

ปัจจุบันเฮลท์ลิงก์อยู่ในช่วงการดำเนินงานในระยะที่สอง (ปี 2565 – ปี 2566) โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้สมัครเข้าสู่ระบบในสามส่วนคือ จำนวนประชาชน จำนวนโรงพยาบาลและจำนวนแพทย์

“ในระยะแรกช่วงปีก่อนหน้านี้ เรามุ่งเน้นที่การพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศจำนวน 100 แห่ง และสร้างความรับรู้ให้ประชาชนรู้จักว่าเฮลท์ลิงก์คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร” รศ.ดร.ธีรณี กล่าวพร้อมระบุว่า สิ่งสำคัญคือ ทำให้ประชาชนรู้จักและเข้าใจว่าเฮลท์ลิงก์เป็นบริการจากภาครัฐ ที่พัฒนาระบบดิจิทัลขึ้นมาเพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุขของไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล

ฐานข้อมูลสุขภาพคนไทยมีประโยชน์ในหลายด้าน กล่าวคือ 1. รัฐดูแลสุขภาพประชาชนได้ทั่วถึง รวดเร็ว เพราะประชาชนสามารถเข้ารักษาได้ในโรงพยาบาลทุกแห่งที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศโดยเสมือนมีข้อมูลของตนเองติดตามไปด้วย 2. เมื่อรับการรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่มีประวัติมาก่อน แพทย์ของโรงพยาบาลนั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยทันที เพราะมีข้อมูลจากระบบเฮลท์ลิงก์ประกอบการวินิจฉัยได้ดียิ่งขึ้น 3. ลดความจำเป็น ลดค่าใช้จ่ายในการตรวจซ้ำในรายการที่เคยตรวจกับโรงพยาบาลเดิม 4. สะดวก รวดเร็ว สำหรับผู้ป่วยเพราะไม่ต้องเสียเวลาขอประวัติการรักษาจากสถานพยาบาลเดิมโดยเฉพาะกรณีส่งต่อผู้ป่วยและกรณีฉุกเฉิน

“ระบบเฮลท์ลิงก์ในวันนี้มีความพร้อมรองรับปริมาณข้อมูลจำนวนมากภายใต้ระบบการเก็บรักษาข้อมูลให้มีความปลอดภัยสูงสุดทั้งการเก็บ การส่งต่อและการนำข้อมูลไปใช้งาน การดำเนินงานในระยะที่สองคือหนึ่งปีจากนี้ไป เราตั้งเป้าหมายให้มีจำนวนประชาชนสมัครเฮลท์ลิงก์เพิ่มจากระยะแรก 200% จำนวนโรงพยาบาลทั่วประเทศที่เข้าร่วมจะเพิ่มขึ้น 100% รวมทั้งจำนวนแพทย์ด้วย”

“สุนารี ราชสีมา” ชวนคนไทยสมัครเฮลท์ลิงก์
การดำเนินงานเฮลท์ลิงก์ในระยะที่สองยังคงไม่ทิ้งวัตถุประสงค์ในการสร้างความรู้ความเข้าใจว่าเฮลท์ลิงก์คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรต่อคนไทย โดยเฮลท์ลิงก์เลือกใช้เครื่องมือที่เข้าถึงคนได้ทั่วประเทศมากขึ้น นั่นคือ การทำงานร่วมกับศิลปินชื่อดัง คุณสุนารี ราชสีมา นักร้องขวัญใจชาวไทยทั่วประเทศ

มีการผลิตคลิปวิดีโอสุนารีชวนมูพาไปสมัครเฮลท์ลิงก์ https://www.youtube.com/watch?v=ZUXw5EMzPC0 เธอเล่าว่า เธอเป็นคนโคราช ประวัติการรักษาของเธอจึงอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดนครราชสีมา สมัยก่อนยังไม่มีระบบเฮลท์ลิงก์ เธอต้องเดินทางไปร้องเพลงรับงานต่างจังหวัดอยู่เสมอ เวลาเจ็บป่วยในจังหวัดอื่น เธอมักประสบปัญหาไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วเพราะต้องรอขอประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลเดิมก่อน วันนี้คุณสุนารี ได้รู้จักเฮลท์ลิงก์แล้วและเชื่อมั่นว่าว่าเฮลท์ลิงก์มีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพคนไทยจึงอยากเชิญชวนคนไทยมาสมัครใช้บริการเฮลท์ลิงก์กันทุกคน

ในคลิปวิดีโอ คุณสุนารียังสอนวิธีการสมัครบริการเฮลท์ลิงก์ง่ายๆ สมัครได้ใน 2 ช่องทางคือ 1.สมัครผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง และ 2.สมัครผ่านเว็บไซต์ www.healthlink.go.th/portal โดยต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน D.DOPA ของกรมการปกครองเพื่อยืนยันตัวตนด้วยดิจิทัลไอดีก่อนจึงจะสมัครได้ ทั้งนี้ประชาชนสามารถเลือกสมัครในช่องทางใดช่องทางหนึ่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการสมัคร

สาธารณสุขและอสม.ตะลุยโครงการเฮลท์ลิงก์
เพื่อเป็นการขยายการจัดเก็บฐานข้อมูลสุขภาพคนไทย กลไกสำคัญของงานด้านสาธารณสุขจึงกระจายลงไปสู่ชุมชนและชาวบ้านทุกพื้นที่ ทีมงานเฮลท์ลิงก์ได้ประสานความร่วมมือไปทางหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ และกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รวมถึงกลุ่มจิตอาสา เจ้าหน้ากู้ภัย โดยมีการจัดอบรมผู้เกี่ยวข้องในหน่วยงานต่างๆ ดังกล่าวตามแผนงานการอบรมเริ่มต้นที่แรกในจังหวัดกำแพงเพชร ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตามมาด้วยจังหวัดตาก และสุโขทัย ก่อนจะกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคภายในเดือนตุลาคม 2565

นายมานัส ต๊ะชมภู สาธารณสุขอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก กล่าวด้วยความเชื่อมั่นว่า ความรู้ความเข้าใจที่ได้จากการอบรมจะทำให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำไปขยายความรู้ต่อในการช่วยกันสร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจในบริการเฮลท์ลิงก์ที่ภาครัฐจัดให้กับประชาชน และกระตุ้นให้ประชาชนมาสมัครเฮลท์ลิงก์ให้มากขึ้น

นายมานัส บอกว่า แม้เฮลท์ลิงก์เป็นประโยชน์โดยตรงต่อประชาชน แต่เนื่องจากเป็นบริการที่อยู่ในระบบออนไลน์ จึงมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่อาจไม่คุ้นเคยกับการใช้งานบริการด้านออนไลน์ ตนเองและกลุ่มอาสาสมัครทุกกลุ่มจึงขอเป็นกำลังสนับสนุนประสานงานไปยังสาธารณสุขอำเภอต่างๆ ที่มีเครือข่ายอยู่เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ในการสมัครเฮลท์ลิงก์ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง

เฮลท์ลิงก์ ระบบเชื่อมโยงส่งต่อข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศได้โดยไม่ต้องขอข้อมูลจากโรงพยาบาลเดิม ทำให้แพทย์เข้าถึงข้อมูลได้ทันทีเพื่อวางแผนการรักษาได้แม่นยำและรวดเร็ว คนไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์สมัครเฮลท์ลิงก์ได้ทุกคน สมัครฟรี! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/healthlink.go.th หรือเพิ่มเพื่อนในไลน์ : @healthlink หรือโทร 02-026-2333 ต่อ 3456 สำหรับการสมัครเฮลท์ลิงก์ผ่านแอปฯ เป๋าตังดูรายละเอียดและวิธีใช้งานได้ที่ : https://bit.ly/3I6StdC