เร่งยกระดับเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรชั้นนำ ผ่านโครงการ Agri BIZ Idol Development Project

กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศความสำเร็จ “โครงการพัฒนา Smart Farmer ผู้ประกอบการต้นแบบ เพื่อยกระดับเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการเกษตรชั้นนำ (Agri BIZ Idol Development Project) ” พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรและโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ประกอบการเกษตร ผู้ผ่านการอบรม ทั้ง 78 คน

นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นโครงการของกรมส่งเสริมการเกษตรที่อยากจะพัฒนาน้องๆ ไม่ว่าจะเป็น Young Smart Farmer และ Smart Farmer โดยรับสมัครจากกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งผู้ประกอบการเกษตรที่สนใจ เข้ามาฝึกอบรมและพัฒนาต่อยอดในการที่จะสร้างให้เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้ด้วย เนื่องจากปัจจุบันต้องการเกษตรกรที่นอกจากจะเป็นผู้ผลิตแล้ว ยังต้องการเกษตรกรที่สามารถทำในเรื่องของการแปรรูป การขายและการตลาดได้ด้วย ในอนาคตอาจจะส่งเสริมในเรื่องการส่งออก เพราะฉะนั้นตรงนี้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร พยายามที่จะนำผู้เชี่ยวชาญ วิทยากร มาอบรมให้ความรู้ พัฒนาต่อยอดให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อที่จะให้เป็นเกษตรกรในเรื่องของการเป็นผู้นำทางด้านการค้า

“อยากให้กลุ่มเกษตรกรที่มาฝึกอบรมเหล่านี้เป็น Idol สำหรับคนที่สนใจโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่
ที่พ่อแม่ทำการเกษตรไม่ว่าจะเป็น พืชไร่ พืชสวน จะได้เห็นศักยภาพของ Idol กลุ่มเหล่านี้ ใครที่สนใจจะได้เข้ามาสู่กระบวนการการเป็นเกษตรกรสมัยใหม่ ซึ่งนอกจากกลุ่มคนทำงาน หรือไม่ได้ทำงาน เป็นหนุ่มสาวออฟฟิศ เสาร์อาทิตย์ก็สามารถที่จะมาลงแปลงและทำการเกษตรในรูปแบบใหม่ได้ ซึ่งใช้เวลาน้อย ใช้เทคโนโลยี
ใช้เครื่องมือ เครื่องจักร แทนลงแรงด้วยตัวเอง ถือว่าเป็น Idol อันนึงที่อยากจะส่งเสริมให้บุคคลทั่วไปโดยเฉพาะหนุ่มสาว หันกลับเข้ามาส่งเสริมในเรื่องของการเกษตรเพื่อที่จะตอบโจทย์ในเรื่องของผู้สูงอายุที่ประเทศเราเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การทำการเกษตรก็คงจะใช้แรงงานเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว อยากให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาสนใจตรงนี้”

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ข้อมูลว่า “สำหรับโครงการพัฒนา Smart Farmer ผู้ประกอบการต้นแบบเพื่อยกระดับเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการเกษตรชั้นนำ หรือ Agri BIZ Idol Development Project รับสมัครจากเกษตรกรรุ่นใหม่ เกษตรกรต้นแบบ วิสาหกิจชุมชน ผู้จัดการแปลงใหญ่ ผู้ประกอบการเกษตรที่มีศักยภาพ ที่มีความต้องการจะพัฒนาสินค้าเกษตรของตนเองและของกลุ่ม จากทั่วประเทศ โดยคัดเลือกจากผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 137 คน เหลือ จำนวน 80 คน และผ่านการอบรม 78 คน แบ่ง ออกเป็น 5 กลุ่มผู้ประกอบการเกษตร ได้แก่ กลุ่มเกษตรแปรรูป เพิ่มมูลค่า, เกษตรท่องเที่ยว, วิสาหกิจชุมชน และบริการการเกษตร, เกษตรวิถีอินทรีย์ และกลุ่มเกษตรไฮเทคและอุตสาหกรรม

โดยมีทีมวิทยากรชั้นนำ Coach Agri – biz เช่น คุณกุลพล คุปรัตน์, ดร.ก่อศักดิ์ โตวรรธกวณิชย์ เป็นต้น และ มีเมนเทอร์พี่เลี้ยงมากประสบการณ์แต่ละด้านธุรกิจเกษตรกร ที่ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ประกอบการเกษตร คอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกษตรกรได้พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ เน้นการจัดทำแผนธุรกิจเกษตรที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม สามารถสร้างมูลค่าสินค้าเกษตรของตัวเองที่มีอยู่ หรือเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการกิจการ และการตลาดสินค้าเกษตรได้อย่างเหมาะสม

นายเข้มแข็งระบุว่า “การขับเคลื่อนความสำเร็จของโครงการนี้มองว่าต้องการพัฒนากลุ่มต้นแบบ และนักพัฒนา เพื่อต่อยอดเกษตรกรไทยให้ก้าวทันยุคสมัย มีการต่อยอดขององค์ความรู้จากวิถีเดิม ทั้งนี้ได้จับมือร่วมกับทุกภาคส่วน และนักวิชาการหลายๆ องค์กร ร่วมผลักดันให้เกษตรกรไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น และก้าวทันวิถีเกษตรยุคใหม่ สำหรับตัวคนต้นแบบทั้ง 78 ท่านนี้ อยากจะเห็นผลิตภัณฑ์ของเขาก้าวไป สู่ระดับโลก ไม่เฉพาะเพียงแค่ในประเทศเท่านั้น โดยจะส่งเสริมผลิตภัณฑ์และการตลาด อยากให้ผลิตภัณฑ์ของประเทศไทย โดยกลุ่มคนที่ผ่านการอบรม และผ่านการขับเคี่ยวจาก Agri – Biz The Idol 2020 อยากเห็นความสำเร็จของคนกลุ่มนี้ที่จะเป็นต้นแบบเกษตรชั้นนำรุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต

นายสุพช ศรีคำหู้ ประธานกลุ่ม G5 วิสาหกิจชุมชน และบริการการเกษตร และวิสาหกิจชุมชนและบริการการเกษตร จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ช่วงแรกการบริหารใช้ในหลักพื้นฐาน ของการค้าขายปกติโดยทั่วไป แต่พอได้รับกระบวนการพัฒนาองค์ความรู้ เรื่องของการวิเคราะห์เข้ามา จากหน่วยงานต่างๆ จากกรมส่งเสริมการเกษตร หรือหลายๆ องค์การที่จัดขึ้น ให้เกิดการวิเคราะห์มีการสอน หรือแนะนำปรับปรุงสิ่งที่ตัวเองขาดและเพิ่มเติมสิ่งที่เป็นความรู้ให้ เพื่อเอามาใช้กับภาคการเกษตรในธุรกิจ ของตัวเองมันก็ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างชัดเจนเกิดการเปลี่ยนแปลง มีผลสะท้อนกลับมา ในด้านบวกมากขึ้น

สำหรับผู้ประกอบการหรือเกษตรกรที่สนใจอยากมาร่วมโครงการสมาร์ทฟาร์ม นายสุพช ให้คำแนะนำว่า โครงการที่เกิดขึ้นในภาครัฐเพื่อการเกษตรปรับกระบวนการแนวคิดให้กับเกษตรกรปรับการพัฒนาสู่ ยุคใหม่เพื่อให้รองรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นเกษตรกรทั่วไปอยากให้เปิดตัวเองออกมา แล้วรับองค์ความรู้ สิ่งที่ใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งออกมาหาภาคีเครือข่ายร่วมกลุ่มเพื่อนพี่น้อง เข้ามาในการพัฒนาอาชีพตนเอง เพื่อมาพัฒนาการเกษตรเพราะมันเป็นพื้นฐานของชีวิตของทุกคน เพราะว่าการพัฒนาด้วยตัวเราเองคนเดียวมันไม่สามารถไปได้ตลอด เพียงแค่การเปิดตัวเองออกมา เพื่อหาเครือข่ายแนวร่วมแนวคิดภาคการเกษตรของประเทศของตัวเองไปจนถึงภาคใหญ่ในระดับประเทศ เป็นช่องทางที่สามารถสร้างรายได้นำออกสู่ผู้บริโภคได้มากขึ้น