เรื่องสั้น | คืนปีเสือ (3)

หลังพบศพและยืนยันได้ว่าเป็นพระเอกลิเก (และยืนยันว่าถูกเสือกัดจริง) ทั้งหมดก็เรียกหน่วยกู้ภัยเข้าไปหามศพกลับหมู่บ้าน ผู้ใหญ่ตรวจดูรอยเท้าเสือ ตัวมันใหญ่ใช้ได้เลย มีรอยเท้าผู้ชายอีกรอย ไม่ใส่รองเท้า น่าจะมีใครอีกคนพานางเอกมโนราห์ไป ไม่พบศพเธอ แต่ทุกคนคิดว่าไม่รอด เสือคงคาบกลับไปกินที่อื่น

ผู้ใหญ่จัดกองกำลังอีกชุดออกตามหาศพนางมโนราห์ ระดมคนมาทั้งกองร้อยหวังล่าเสือ หมดหนทางแล้วผู้ใหญ่ก็บากหน้าไปหาฟาฮัด

มึงจะเอาไง เสืออาละวาดแบบนี้ มึงจะบอกไม่รู้เห็นกับเสือได้ไง

อ้าวผู้ใหญ่ ถึงชื่อผมจะแปลว่าเสือ ผมก็ไม่ใช่เสือ

เออ ชื่อกูแปลว่าเสือกูก็ไม่ได้เป็นเสือเหมือนกัน แต่พวกมึงเป็นเสือ กูรู้ดี รุ่นพ่อมึงเคยเรียกเสือออกมาขี่เดินตัดเขา ไอ้ห้าตัวนั่นก็เป็นพวกมึง กูบอกแล้วเนื้อเสือมันก็อร่อยใช้ได้ มึงระวังตัวให้ดี

เอางี้ไหม ฉันจะช่วยล่าเสือ เสร็จตัวนี้ ผู้ใหญ่ต้องหาทางช่วยคนหมู่บ้านให้ได้ย้ายกลับเข้าไป

เออ ก็ได้

ถ้าคนเบตงจะเรียกว่าฮาลาบาลา คนแว้งก็เรียกสลับกัน ผืนป่าดิบชื้นสมบูรณ์ที่สุดบนทิวเขาสันกาลาคีรี กว้างใหญ่ที่สุดของคาบสมุทรมลายู ใครจะเรียกอะเมซอนแห่งเอเชียหรืออะไรก็ช่าง ผืนป่าทึบติดกับเบลุ่มของฝั่งมาเลเซีย โอรังอัสลีหลายกลุ่มเดินทางข้ามไปมาระหว่างสองประเทศ อย่างว่า พวกเขาไม่น่าจะรู้เขตแดนอยู่ตรงไหน ฟังโกผ่อนนักวิชาการท้องถิ่นบนโต๊ะกาแฟในเบตงเล่าว่าฮาลาบาลาแปลว่าไปมันเรื่อยๆ คนต่างถิ่นนั่งฟังทำตาโต โกผ่อนเล่าว่า พวกโอรังอัสลีเดินลึกเข้าป่าไปเรื่อยๆ พบปะชาวบ้านนายพรานก็ตะโกนถามพวกเขาว่าไปไหน โอรังอัสลีชี้ลึกไปในผืนป่าข้างหน้า นิ้วชี้เอียงมุมองศาสูงยิงวิถีโค้งให้ไปตกในจุดที่ไกลแสนไกลแล้วบอกว่าฮาลาบาลา (อ๋อ ไปมันเรื่อยๆ) โกผ่อนเป็นนักวิชาการท้องถิ่นสายมั่ว เขาเล่าเรื่องโจรจีนเผาสถานีตำรวจเบตงให้ฟังต่อ โจรกลุ่มนี้แหละที่ทำให้คนเข้าใจผิดเรียกคอมมิวนิสต์บนเขาว่าโจรจีนไปด้วย เห็นนักท่องเที่ยวสนใจก็เสนอขายเอกสารบันทึกประวัติศาสตร์เบตงที่เขาเป็นคนรวบรวม เจ้าของร้านกาแฟขยิบตาให้นักท่องเที่ยว ข้อมูลพวกนั้นไม่น่าเชื่อแต่เอามาประกอบได้ บาละห์แปลว่าหลุด ฮาลาแปลว่าอพยพ อันนี้จริง ฟาฮัดยืนยัน ยกเอาหมู่บ้านแห่งกิโลเมตรที่ 38 ริมถนนสายเบตงไปยะลา ถ้ามาจากยะลาพอเลยสะพานที่ทอดยาวข้ามอ่างเก็บน้ำบางลางก็จะเข้าสู่ถนนคดเคี้ยวหลายโค้ง บนโค้งที่กิโลเมตรที่ 35 เคยเป็นสมรภูมิรบของตำรวจและทหารจากเบตงที่ยืนหยัดต้านกองกำลังญี่ปุ่นที่บุกตะลุยมาจากหนองจิกเพื่อจะทะลุไปสู่มาเลเซีย หลังจบสงครามโลก คนหนุ่มสาวที่จับปืนต่อสู้กับความอยุติธรรมจำนวนหนึ่งในมาเลเซียถูกผลักดันและตามล่าจนต้องหนีเข้ามาตั้งฐานที่มั่นในฝั่งไทย กองทัพไทยดำเนินนโยบายมากมายเพื่อกำจัดคนกลุ่มนั้น แต่ผ่านมาหลายปี พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าคนท้องถิ่นเสียอีก เลยมาอีกสี่ห้าโค้ง หมู่บ้านมุสลิมแออัดอยู่ริมถนนสายนั้น ในกระจุกพื้นที่ซึ่งทางการจัดสรรให้ ในยุคเดียวกับที่พรรคอมมิวนิสต์มลายาเบ่งบานอยู่ในผืนป่า ฟาฮัดเป็นคนรุ่นที่สาม เรื่องมันเกิดไม่นานมานี้เอง เมื่อก่อนหมู่บ้านของพวกเขาอยู่ลึกเข้าไปในป่า ทำสวนทำนา ก่อนจะถูกทางการย้ายออกมาจากป่าลึกด้วยเหตุผลน่ารักว่ากลัวประชาชนจะได้รับอันตรายจากการรุกรานของพรรคอมมิวนิสต์ ทิ้งกุโบร์ สุเหร่า เรือกสวนออกมาสร้างบ้านริมถนน นานวันลูกหลานมากบ้านเรือนถูกต่อเติมและสร้างใหม่ในที่ดินคับแคบนั้นจนหลังคาซ้อนเกย ฟาฮัดขบกรามขณะยืนมองหมู่บ้านของอดีตพรรคคอมมิวนิสต์มลายาซึ่งได้รับการจัดสรรจากทางการเช่นกัน ดูซิว่าทหารสมัยนั้นเอาใจใครมากกว่า ผืนดินคนละสิบห้าไร่ มีเงินเดือนให้ใช้ต่างหาก แถมยังได้อยู่ในผืนป่าสมบูรณ์ ฟาฮัดยืนยันว่าเขาเป็นชุมชนดั้งเดิมของคาบสมุทรนี้ จึงเรียกหมู่บ้านที่จากมาว่าหมู่บ้านฮาลา ผู้ใหญ่แย้งว่าชาวโอรังอัสลีโน่นชาวพื้นถิ่นเจ้าของพื้นที่ตัวจริง แล้วไง ฟาฮัดไม่เคยหลบตา อย่างไรพวกแกก็คนต่างถิ่นที่มาเลเซียไม่ยอมรับกลับประเทศ อะไรเอ่ยไม่ใช่จีน ไม่ใช่ไทย ไม่ใช่มาเลย์

อย่าเอาเรื่องเก่ามาพูดน่า ผู้ใหญ่หัวเราะเปลี่ยนเรื่อง ก่อนคุยข่มถึงรสชาติเนื้อเสือ

พวกหมู่บ้านคนจีนนี่แหละนักทำลายป่า ฟาฮัดพูดเรื่องนี้กับหัวหน้าหน่วย เขาเป็นเจ้าหน้าที่อุทยาน เดินป่าแถวนี้จนช่ำชอง เป็นพรานป่าที่ไว้ใจได้ เป็นรองก็แต่พวกโอรังอัสลีที่เขาเข้าไปคลุกคลีด้วยนั่นแหละ เขาเห็นว่าคนจีนชอบปลูกผัก ถากหญ้าไถป่าเบิกพื้นที่โล่งออกไปทุกปี อากาศบนผืนป่าแถบนี้เย็นเหมาะที่จะปลูกผักและดอกไม้ สวนผักของชาวจีนเหยียดยาวกว้างออกไปทุกปี สวนดอกไม้ก็เยอะขึ้น ทางการเห็นดีเห็นชอบส่งเสริมสนับสนุนให้ปลูกดอกไม้ถิ่นหนาว มันง่ายสำหรับการทำแผนท่องเที่ยว ทางการที่ว่าเป็นหน่วยงานท่องเที่ยวและวัฒนธรรมซึ่งนั่งวางแผนงานในเมืองยะลา ข้างๆ ตึกสำนักงานใหญ่ของศอบต.นั่นแหละ พวกนี้คิดกันว่าจะดึงนักท่องเที่ยวมาดูอะไรตรงไหน ทำงานสวนกับหน่วยอุทยาน ซึ่งทำงานสวนกับชาวบ้านอีกที ฟาฮัดรักผืนป่า เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เพราะจะได้อยู่ในป่า วันไหนที่ต้องเข้าป่าเขาจะคึกคักมากที่สุด

ปกติผู้ใหญ่มักยอมๆ ให้ฟาฮัด แต่นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้เสืออาละวาดอีกแล้ว เมียก็โกรธอยู่ แกไม่มีเวลาสุภาพ และแม้พื้นที่นั้นเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานฟาฮัดอยู่แล้ว แต่เพื่อความชัดเจนและได้ผล ผู้ใหญ่คิดว่าฟาฮัดน่าจะรู้เรื่องนี้ อย่างน้อยๆ แกก็คิดว่าเขาแปลงร่างเป็นเสือได้

ด้วยข้อตกลงที่ฟาฮัดยื่น แม้ยังมองไม่เห็นทางช่วย แต่ผู้ใหญ่ก็ตกลง

ในผืนป่าสงัดและรกเรื้อด้วยใบไม้นั้น นางมโนราห์ตื่นขึ้นมาด้วยความงงงวย แสงจันทร์ส่องลอดใบไม้ลงมาเห็นผืนป่ารางๆ สำรวจตัวเองพบว่ายังปกติดี มีแค่หนามเกี่ยวเล็กน้อยและขาที่พลิกตอนวิ่งหนีเสือ

เสือ ทันทีที่นึกถึงเสือ เธอก็ขนลุก กลิ่นสาบสางเข้าจมูก เธอจำได้ว่าเธอนัดแนะกับพระเอกลิเกให้ไปเจอกันหลังห้องน้ำ เธอเสิร์จหาชื่อของเขาในเฟซบุ๊ก ในช่วงกลางวันที่พักการแสดง พระเอกลิเกล้างเครื่องสำอางแล้วเผยใบหน้าเยาว์และผิวหน้าสุขภาพดี เขายังหนุ่มและดูดีกว่าตอนแต่งหน้าเสียอีก เธอพบชื่อแฟนเพจของคณะลิเกของเขา แล้วก็ไล่ดูสมาชิกและผู้คนที่อยู่ในแท็กจนเจอชื่อของเขา แล้วก็ติดต่อกันทางกล่องข้อความ

หลังจบการแสดงเธอและเขาเดินหลบผู้คนไปเรื่อยๆ ไม่นึกว่าจะไปไกลขนาดนั้น เดินไปเรื่อยๆ จนถึงศาลาริมทาง นั่งคุยและวางแผนกันว่าจะหนีไปคืนนั้นเลย ไปเที่ยวในเบตงก่อน หาที่หลับนอนให้อิ่มเอม ลิเกใจร้อนอยากจะเปลื้องชุดของเธอเสียตรงนั้น แต่มีคนผูกเปลนอนใต้ร่มไม้ ทั้งสองก็เลยออกเดินกันต่อ คราวนี้ลิเกลากมือเธอเดินเข้าป่ารกลัดเลาะลงไหล่ทางไปหาเสียงน้ำไหล แสงจันทร์ยังเหลือเส้นทางให้เดินและพวกเขาก็ซุกซนและกำหนัดจนไม่คิดเกรงกลัวอันตราย ลิเกคิดว่ามีลำธารอยู่ข้างล่าง แล้วมันก็มีจริงๆ เสียด้วย พวกเขาหยุดอยู่ริมธาร ตอนนั้นใกล้สว่างแล้ว เธอและเขาอยู่ในอ้อมกอดและจูบกันหวานฉ่ำ กระทั่งรู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งยืนดูพวกเขาอยู่

ทั้งสองเห็นหนุ่มคนหนึ่งยืนมองดูพวกเขา แสงจันทร์นวลฉายให้เห็นเงาร่างนั้น ดูเหมือนจะสูงพอๆ กับนางมโนราห์ เขายืนนิ่งโดยที่หางแกว่งไกวเล่นเหมือนแมวที่ใจเย็นให้เหยื่อตายใจ

เธอจำได้ต่อมาว่ากลัวกันมากเพียงใดเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ แล้วใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนนั้นก็แยกเขี้ยวยิ้ม จากนั้นพวกเขาก็วิ่งโดยที่หนุ่มคนนั้นวิ่งบ้างกระโดดบ้างตามมา ทีท่าไม่เอาจริงแต่ก็ตามทันทุกครั้งที่ทั้งสองคิดว่าหนีพ้นแล้ว กระทั่งว่าตอนนั้นพวกเขาไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของป่า แล้วเธอก็กรีดร้อง หน้ามืดตัวอ่อนเหมือนจะเป็นลม แต่เปล่า เธอยังรู้สึกตัว แต่ไม่มีแรงขยับ ยอมให้เขาอุ้มออกไป หรือแบก หรือคาบ หรืออะไรก็ตามแต่ในท่าที่เธอห้อยหัวมองเห็นร่างของลิเกหนุ่มนอนฟุบหน้าข้างก้อนหิน

ผ่านมานานแค่ไหนแล้ว กี่ชั่วโมงไปแล้ว รอบกายมืดมิดและแสงจันทร์ส่องเป็นสีส้ม ตอนนั้นเองเธอจึงรู้ชัดว่าไม่ใช่แสงจันทร์หรอก มันคือกองไฟ และเธอน่าจะอยู่ในถ้ำหรือไม่ก็หลืบหิน เธอเห็นเขานั่งอยู่ตรงนั้น หลบออกนอกวงกองไฟ ไกลไปจนแสงสีส้มส่องไม่ถึง แต่ร่างนั้นเป็นสีเข้มตัดกับผืนป่าที่ค่อยๆ สว่างขึ้น

เขากระโจนทีเดียวถึงเธอ ท่าทางเหมือนสัตว์ป่า ขณะที่มีแขนขาเป็นคน เธอเป็นตัวอะไรกัน เมาคลีหรือทาร์ซาน มโนราห์นึก แปลกที่เธอไม่กลัวเขามาก

เขายื่นหน้ามาใกล้ เธอเห็นชัดว่าใบหน้าของเขาเป็นคนนี่แหละ แต่เหมือนคนที่แต่งหน้าเป็นเสือ เหมือนเขากำลังเล่นละครเวที มีหนวดเหมือนแมว มือที่เขายกมาจับมือเธอก็เป็นมือคน เพียงแต่มีกรงเล็บ เขามีหางด้วย เหมือนหางแมว ลายเหลืองสลับดำ

“ไม่ต้องกลัว” เขาพูดภาษาไทยกลางติดสำเนียงแบบคนสามจังหวัด เขาน่าจะพูดภาษามลายูเป็นหลัก

“เธอเป็นใคร” มโนราห์ถามซ้ำสิ่งที่เธอถามอยู่ในใจก่อนนี้ แต่ความหมายจริงๆ คือเธอเป็นตัวอะไร

“ตัวประหลาด” เขาตอบแล้วยิ้ม เขาเหมือนเด็ก ทัศนคติที่เป็นบวกเผยออกมาจากรอยยิ้มและดวงตา

“หางนั่นของจริงใช่ไหม”

เขาแกว่งหางให้ดู

สิ่งนี้ทำให้คนคิดว่าฉันเป็นบาเตาะ สิ่งนี้ทำให้คนคิดว่าฉันเป็นฮาลอ และทั้งหมดนี้ในบางครั้งพวกเขาคิดว่าฉันเป็นคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ฉันชอบ

บาเตาะคืออะไร

ถ้านางมโนราห์มีเวลาค้นกูเกิลก็จะรู้ว่าบาเตาะเป็นพวกกินคน หมายถึงคนทั่วไปคิดว่าพวกเขาเป็นแบบนั้น บาเตาะเป็นโอรังเผ่าหนึ่งเช่นกัน อาจจะชอบกินเนื้อดิบมากกว่า คนชอบเอาไปลือกันว่าบาเตาะมีหาง กินเนื้อคน และชอบอยู่รู ส่วนฮาลอคือเสือสมิง ดูท่าทางของฉันสิ เขาว่า แต่เธอบอกว่าเขาเหมือนแมวมากกว่า

“เธอเป็นคนพิการ เป็นสัตว์ผ่าเหล่า” มโนราห์บอก

“เธอก็ผ่าเหล่า บนเวทีฉันเห็นเธอมีปีก”

ในป่าแถบนี้นะ ตลอดทั้งคาบสมุทรนี่เลยหรืออาจจะตลอดทั้งโลก ต้องมีอะไรผสมกับอะไรสักอย่างแหละ เขาว่า คนผสมกับลิง มันต้องมีสัตว์ประหลาดสักตัว ต้องมีคนสักคนเกิดผสมกันระหว่างเผ่า ฉันว่าไม่มีอะไรเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมหรอก คนที่นี่ก็ผสมปนเปจนยากจะบอกแล้วว่าใครเป็นมลายู เธอว่าไหม

สมัยนานมาแล้วมีอาณาจักรหนึ่งที่แบ่งหัวเมืองออกเป็นสิบสองแล้วให้แต่ละเมืองถือตราประจำเมืองรูปสัตว์ อาณาจักรที่ประกอบด้วยสัตว์สิบสองชนิด คิดดูว่าจะมีรูปร่างแบบไหน คงเหมือนมังกรของจีน มีตีนเป็นไก่ตัวเป็นงูเกล็ดเหมือนปลามีเขาเป็นแพะหน้าตาเป็นสิงห์ ตอนนี้เป็นไง คนจีนไปอยู่ทั่วโลก แบกธงสัตว์ผ่าเหล่าไปด้วย

“เธอเคยเรียนมหาวิทยาลัยเหรอ”

“เธอว่าฉันอายุกี่ปี” เขายิ้ม

“เธอยังหนุ่ม”

เขาหัวเราะ นั่นเพราะเขาอยากให้เธอเห็นว่าเขาเป็นหนุ่ม ความจริงเขาอายุเยอะ เขาหยุดคิดแล้วบอกว่าเยอะจนบอกไม่ถูก เขาอยู่มานาน ตั้งแต่สมัยที่ช้างและสัตว์หลากหลาย กระทิงกระซู่เป็นฝูงๆ เขาอยู่ตั้งแต่นกเงือกบินเป็นหมื่นๆ คู่ จากนั้นก็เห็นคนมากมายเข้ามา คนทุกประเภทแม้แต่อาจารย์มหาวิทยาลัย คนที่พูดคุยกับสัตว์ได้ คนผู้เรียกเสือออกมาขี่ได้ และกระทั่งคนที่กลายร่างเป็นเสือ เขาพูดได้หลายภาษา เขาท่องไปตั้งแต่แถบฮาลาบาลาไปจนถึงมาเลเซีย วิ่งจากสันกาลาคีรีต่อไปจนสุดแนวเขาติติวังซา เขานั่งรถไปในเมืองไปดูสิงโตในวันตรุษจีน บางวันเขาไปละหมาดในสุเหร่า บางทีก็ไปเดินตลาดตอนเช้า บ่อยครั้งไปเจอเหตุระเบิด บางทีก็ไปดูที่เขาฝึกนักรบในหุบเขาโน่น วนเวียนทั้งในป่าและในเมือง แต่หลักๆ เขาอยู่ในป่า

มโนราห์คิดหนัก เด็กสาวจากมหาวิทยาลัยนาฏศิลป์พัทลุงคิดหัวแทบแตกว่าเขาเป็นอะไร แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า โทรลล์ เอลป์ ภูตผีปีศาจ คนพิการ

“เธอเป็นฮาลาบาลา” เธอบอกได้ในที่สุด เป็นคำตอบที่แปลกดี ไม่ใช่อะไรสักอย่าง

เขายิ้ม เธอก็เป็น

อะไรนะ เธอถาม

ฉันพาเธอมาเพื่อมาอยู่ที่นี่ เธอจะเป็นเหมือนฉัน

มโนราห์กรีดร้องจนเสียงก้องไปทั้งป่า

เสียงกรีดร้องของเธอดังจนถึงหูเจ้าหน้าที่พิทักษ์เหนืออ่างเก็บน้ำ เจ้าหน้าที่สองคนซึ่งเปิดทีวีช่องโมโนทั้งวันทั้งคืนลุกขึ้นมองหาต้นทางของเสียง โอรังอัสลีที่ตั้งทัพไม่ไกลก็คงได้ยิน เสียงกรีดร้องเป็นคลื่นแหลมเล็กเดินทางได้ไกล คนประหลาดไม่เคยตกใจกับสิ่งไหนก็พลันตกใจกับเสียงแหลมเล็กของเธอ เขาวาดนิ้วผ่านลำคอขาวผ่องของมโนราห์ เล็บคมกริบกรีดผ่านชั้นผิวหนังจนเลือดสาด


พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่