ทดสอบ ‘A 200 AMG Dynamic’ เบนซ์น้องเล็กสุดจี๊ด-พลังเทอร์โบ

สันติ จิรพรพนิต

ทดสอบ ‘A 200 AMG Dynamic’ เบนซ์น้องเล็กสุดจี๊ด-พลังเทอร์โบ

 

หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการไม่นาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ส่งหมายเชิญมาให้ผมเข้าร่วมทริปทดสอบ “A 200 AMG Dynamic”

เริ่มต้นกันที่โรงแรมสุโขทัย ถ.สาทร กรุงเทพฯ ส่วนจุดหมายปลายทางอยู่ที่ชะอำ จ.เพชรบุรี

การขับขี่ทดสอบแบบฟรีไดรฟ์ คือต่างคนต่างไปแล้วกำหนดจุดหมายไว้ที่โรงแรมในชะอำ

ออกจากโรงแรมเลี้ยวขึ้นทางด่วนกันเป็นขบวน ไปลงถนนพระรามที่ 2 มุ่งหน้าลงใต้

ถึงตอนนี้เริ่มกระจัดกระจายแล้วครับ ใครขับช้า ขับเร็ว หรือจะแวะที่ไหนก็ว่ากันไป

ส่วนผมเลือกยิงยาวรวดเดียวไปหาดชะอำเพื่อเก็บภาพรถยนต์

ภาพรวมภายนอกเน้นความสปอร์ต ขนาดตัวถังกำลังเหมาะ (กว้าง x ยาว x สูง) 1,796 x 4,558 x 1,429 มิลลิเมตร

ไม่เล็กจนอึดอัด แต่ก็ไม่ใหญ่จนเทอะทะ

สมกับคอนเซ็ปต์การออกแบบ”CLASS FOR EVERY DAY” รถยนต์ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน

กระจังหน้าดีไซน์ Star pattern radiator grille กระโปรงหน้าแบบ Power dome ออกแบบให้มีมิติมากยิ่งขึ้น

ตกแต่งด้วยชุด AMG bodystyling บริเวณกันชนหน้า-หลัง

ระบบไฟหน้าใหม่แบบ LED High-Performance ดีไซน์รูปแบบการแสดงแสงไฟหน้าใหม่แบบ reflection technology

พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist รุ่นล่าสุด

กระจกมองข้างปรับระดับ และพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า

ล้ออัลลอยด์ใหม่ดีไซน์สปอร์ต AMG 5-twin-spoke สีดำ ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 225/45 หน้ากว่างแต่แก้มต่ำเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น

ระบบเบรกแบบสปอร์ตพร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz

ระบบเปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS)

ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO

ภาพรวมถือว่าออกแบบได้สปอร์ตจ๋าแต่ไม่หวือหวาเกินไป เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่

ตลอดการเดินทางเพลิดเพลินกับการสั่งการภายในรถผ่านหน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อผ่านสมาร์ตโฟนทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto

ติดตั้งระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด “MBUX7” ที่เพิ่มระบบ AI (Artificial intelligence) ซึ่งสามารถเรียนรู้และประเมินพฤติกรรมและการใช้งานของแต่ละผู้ใช้งาน

รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง 27 ภาษา

นอกจากนี้ ระบบ MBUX ยังสามารถอัพเดตและปรับปรุงระบบได้ด้วยตัวเองผ่านสัญญาณไร้สาย LTE อัตโนมัติ

หน้าจออันนี้ยังรวมถึงฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก อาทิ ระบบปรับโหมดการขับขี่แบบ DYNAMIC SELECT

ต่ำลงมาเป็นระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แยกปรับอุณหภูมิ 2 โซน พร้อมช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง

เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สไตล์สปอร์ต ตัดสลับ MICROCUT microfibre สีดำ ตกแต่งเดินด้ายสีแดง

คู่หน้าติดตั้งระบบปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำแบบ memory seat และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง นั่งสบายมากๆ

ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย พร้อมช่อง USB Type-C 4 ช่อง

มีไฟ Ambient Light รอบห้องโดยสารแบบปรับได้ 64 เฉดสี

ด้านบนเป็นหลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายของห้องโดยสาร

ห้องโดยสารขนาดกำลังเหมาะ ดูไม่อึดอัดแม้เน้นโทนสีดำตัดกับสีเงิน

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต ตกแต่งด้วยหนัง Nappa จับกระชับมือ มี Paddle shift หรือระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

มาตรวัดความเร็ว และวัดรอบเครื่องยนต์แบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว ดูทันสมัยดี

โดยต่อเป็นจอขนาดยาวเชื่อมกับจอกลางด้วย

ด้วยเพราะเดินทางในวันธรรมดา ทำให้ถนนพระราม 2 การจราจรไม่หนาแน่นนัก เมื่อพ้นออกมาได้เจอถนนดล่งจึงจัดหนักๆ ไปหลายรอบ

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 1.3 ลิตร เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT)

เห็นเครื่องบล็อกแต่นี้แต่รีดพลังได้ถึง 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร

อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 8.3 วินาที

ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โหมดการขับขี่มี 4 แบบ คือ Eco, Comfort, Sport และ Individual

การทดสอบครั้งนี่ผมเน้น Comfort กับ Sport สลับกันไปมา

อัตราเร่งในทุกย่านความเร็วหายห่วง ตั้งแต่ออกตัว การเร่งแแซง หรือทำความเร็วสูงๆ มาแบบไม่ต้องรอ

ระบบช่วงล่างแบบ Lowered comport suspension นุ่มนวลประมาณหนึ่วงเรียกว่าพอให้ขับสนุก

แต่เมื่อต้องเข้าโค้งหนักๆ หรือกระชากเปลี่ยนเลนเร็วๆ ไม่มีวืดวาดให้หวาดเสียว

แม้ผู้ซื้อรถดาวสามแฉกมาใช้น่าจะไม่ได้สนใจเรื่องอัตราความประหยัดมากนัก แต่รถรุ่นนี้ถือว่าจัดมาให้เพราะรองรับการใช้น้ำมันได้ถึง E85

แถมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เคลมไวเฉลี่ยสูงสุด 16.7 กิโลเมตรต่อลิตร

แน่นอนว่าขับทดสอบของผมไม่เน้นความประหยัดอยู่แล้ว จึงขอละไว้ไม่เอ่ยถึงแล้วกัน

ตามมาตรฐานรถมาจากยุโรปความปลดภัย และตัวช่วยต่างๆ มากันครบครับ

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS

ระบบเบรก ADAPTIVE Brake ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินแบบแอ็กทีฟ (Active Break Assist system)

ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control)

ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)

ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตู (Exit Warning Function)

ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist)

ควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP

ถุงลมนิรภัยรอบคัน ตำแหน่งผู้ขับขี่ยังมีถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าอีกด้วย

จากการทดสอบบอกเลยว่าเป็นรถที่ขับสนุกและคล่องตัว

เหมาะทั้งใช้ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น ซิกแซ็กได้สบาย หรือขับเข้าห้าง ที่จอดรถแคบๆ คล่องตัว

หรือต้องการความเร็ว ความมั่นคง เมื่อออกต่างจังหวัด ก็ทำได้ดี

เมอร์เซเดส-เบนซ์ A 200 AMG Dynamic ราคา 2,320,000 บาท •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]