ช่วงที่ผ่านมามีรถใหม่หลายรุ่นเหลือเกินที่ออกมาวาดลวดลาย

“ยานยนต์ สุปสัปดาห์” ฉบับนี้ขอเก็บตกทั้งหมดมารวมไว้ ณ จุดเดียวกัน

โดยรถที่เลือกมาแนะนำเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาจากทั้งยุโรป จีน และเกาหลีใต้ แบบครบๆ

ขุมพลังมีทั้งไฟฟ้า 100% หรือ EV และเครื่องยนต์สันดาปภายใน เชื้อเพลิงเบนซิน

เริ่มจากรุ่นแรกที่เปิดตัวเขย่าตลาดของค่ายอาวดี้ แนะนำ “Q8 e-tron” รถไฟฟ้า 100%

จากก่อนหน้านี้แนะนำ “อาร์เอส คิว8” เครื่องเบนซินเทอร์โบไปแล้ว

มาในรูปลักษณ์ Sport Premium SUV ภายนอกเน้นความทันสมัย ดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Concept car ในตระกูล Sphere

ไฟ Projector lighting พร้อมเอฟเฟ็กต์ไฟแบบ Light staging

กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ช่วยในเรื่อง Aerodynamics ของตัวรถ พร้อมชุดแต่งภายนอก Black edition และ S line ทั้งภายในและภายนอก

ห้องโดยสารที่ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ผสานดีไซน์ความสปอร์ตและความพรีเมียมเข้าด้วยกัน

จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว

ระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว สั่งการง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

เครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ

เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports plus ตกแต่งสัญลักษณ์ S line

โปร่งสบายด้วย Panoramic glass sunroof

มีให้เลือก 2 ขุมพลัง Q8 e-tron 50 มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 540 นิวตัน-เมตร

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 95 kWh อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 6 วินาที

และ Q8 e-tron 55 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 664 นิวตัน-เมตร

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 114 kWh อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 5.6 วินาที

ระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 636 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง

แบตเตอรี่พัฒนาใหม่ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ไม่ใช่แค่วิ่งได้ไกลขึ้น แต่ชาร์จเร็วกว่าเดิมเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น (31 นาที กับการชาร์จด้วยกระแสไฟ DC 170 kWh)

มี 2 รูปแบบทั้งเอสยูวี และ Sportback มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย

Q8 e-tron 50 quattro – ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 530 กิโลเมตร ราคา 4,699,000 บาท

Q8 e-tron 55 quattro Black Edition – ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 621 กิโลเมตร ราคา 5,499,000 บาท

Q8 Sportback e-tron 50 quattro S line – ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 542 กิโลเมตร ราคา 4,999,000 บาท

Q8 Sportback e-tron 55 quattro S line Black edition – ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 636 กิโลเมตร ราคา 5,799,000 บาท

ส่วนค่ายน้องใหม่จากจีน “Wuling” (วู่หลิง) สร้างกระแสไม่น้อยกับรุ่นอีวีน่ารักน่าชัง “AIR EV”

มาในแนวคิด “Easy Drive : Easy Life หรือ ขับง่าย ชีวิตก็ง่าย” ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานจริงของคนเมือง หลังศึกษาพบว่าส่วนใหญ่รถที่วิ่งในเมืองมีผู้โดยสารเฉลี่ย 1-2 คน ส่วนใหญ่ใช้รถอีโคคาร์สันดาป มีระยะการใช้งานประจำวันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 65 กิโลเมตรต่อวัน

เวลาส่วนใหญ่เสียไปกับรถติด ซึ่งส่งผลให้มีอัตรากินน้ำมันที่สูงขึ้นและมีปัญหาด้านการหาพื้นที่จอดรถ

WULING AIR EV จึงออกมาตอบสนองการสำรวจนี้ ด้วยระยะวิ่งไกลสุด 300 กิโลเมตร สามารถใช้รถได้ 2-3 วันต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง

มีอัตราสิ้นเปลืองที่กิโลเมตรละ 35 สตางค์ และขนาดกะทัดรัดทำให้หาที่จอดรถได้ง่ายขึ้น

มี 2 รุ่นให้เลือกคือ Standard Range และ Long Range

เป็นรถซิตี้ อีวี 4 ที่นั่ง 3 ประตู ความยาว 2,974 ม.ม. ความกว้าง 1,505 ม.ม. และความสูง 1,631 ม.ม.

ความจุของแบตเตอรี่รุ่น Standard Range 17.3 kWh สามารถวิ่งได้ 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 8 ชั่วโมง

ส่วนรุ่น Long Range ความจุของแบตเตอรี่ 26.7 kWh สามารถวิ่งได้ 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบบ AC 6.6 kw 1 ครั้ง 4 ชั่วโมง

รุ่น Long Range มีแอพพลิเคชั่นควบคุมการทำงานของรถได้จากระยะไกล อาทิ ล็อก-ปลดล็อกรถ ปรับกระจกขึ้น-ลง เปิด-ปิดแอร์ เช็กสถานะแบตเตอรี่ ระยะทางที่วิ่งได้ และตำแหน่งรถ

สนนราคาช่วงแนะนำ

Standard Range 395,000 บาท

Long Range 465,000 บาท

ปิดท้ายกันด้วยค่ายจากเกาหลีใต้ “ฮุนได” ที่ออกรุ่นพิเศษกระตุ้นตลาดกลุ่มเอสยูวีด้วย “เครต้า แบล็ก อิดิชั่น” ซึ่งเป็นตัวแต่งพิเศษ

“เครต้า แบล็ก อิดิชั่น” ตกแต่งพิเศษด้วยกระจังหน้าสีดำ พร้อมไฟดีอาร์แอลแบบ hidden-type

โลโก้กระจังหน้าสีโมโนโครม ช่องลมกันชนหน้าและซี่กระจังหน้าสีดำ และราวหลังคาสีดำ

ด้านข้างเสริมความเข้มด้วยคิ้วหลังคา C-pillar พร้อมล้อขนาด 17 นิ้ว สีดำ

และที่พิเศษสุดคือ สีดำ มิดไนต์ แบล็ก เพิร์ล ซึ่งมีให้เลือกในรุ่นฮุนได เครต้า “แบล็ก อิดิชั่น” เท่านั้น

มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบพาราเมทริก เจเวล กริล ผสานกระจังหน้าและโคมไฟเข้าเป็นชิ้นส่วนเดียวกัน

ไฟท้ายทรงบูมเมอแรง และไฟเบรกแบบ HMSL

กระจกบานหน้าที่ดีไซน์มาให้โอบล้อมห้องโดยสาร ล้อขนาด 17 นิ้ว สีไดมอนด์คัต

ห้องโดยสารจัดวางแดชบอร์ดทอดตัวยาวถึงแผงประตูในลักษณะเดียวกับรูปทรงของปีกนก

มาตรวัดดิจิทัล ขนาด 10.25 นิ้ว เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และแท่นชาร์จไร้สาย

ตรงกลางเป็นหน้าจอสัมผัสมีขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอนดรอยด์ ออโต้ และแอปเปิล คาร์เพลย์

ช่องลำโพงแบบสามมิติ หัวเกียร์ตกแต่งสีเงิน ไฟส่องสว่าง แอมเบียนไลต์

หลังคาพาโนรามิกซันรูฟควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า

มีระบบสตาร์ตเครื่องยนต์จากรีโมต

ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที

ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบไอวีที

ปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 4 แบบ ประกอบด้วย นอร์มอล, อีโค, สปอร์ต และสมาร์ต

มีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control

ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม

ความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยขับขี่ มีทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS

ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCW

กล้องมองภาพด้านหลัง

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA

ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยหลัง RCCA

ฮุนได เครต้า “แบล็ก อิดิชั่น” ราคา 959,000 บาท จำนวนจำดแค่ 50 คัน

ส่วนสีทูโทนมี 4 รุ่นย่อย ราคา 789,000-899,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022