4 สูตรยาบำรุงสายพันธุ์ไทย ในเทศกาลตรุษจีน ตัวยาได้ง่าย ปรุงง่าย ได้ผลดี!

โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง
มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org

 

“ชาวจีน” อาจเน้นให้ทำมาค้าขาย มีเงินทองหรือร่ำรวยกันถ้วนหน้า แต่ถ้าเข้าใจรากวัฒนธรรมของจีน รวมถึงชาวเอเชียไล่เรียงมาจากอินเดียมาไทยจรดจีนและญี่ปุ่น ก็จะพบว่าชาวเอเชียให้ความสำคัญกับ “สุขภาพองค์รวม” ซึ่งเห็นความสำคัญว่า หากจะมีความสุขในชีวิตจำเป็นต้องดูแลหรือพัฒนาให้รอบด้าน ทั้งกาย ใจ สังคม และปัญญา

หากเข้าใจปัยจัยที่เชื่อมโยงเหล่านี้การมีสุขภาพดีก็ไม่ไกลเกินตัว และเมื่อร่างกายจิตใจแข็งแรงดีแล้ว ทำมาหากินอะไรก็ราบรื่น เงินทองไหลมาแน่นอน

ในโอกาสเทศกาลตรุษจีน แต่สายสัมพันธ์ไทยจีนแน่นแฟ้น คนไทยเชื้อสายจีนต่างผสมผสานวัฒนธรรมกันไปมา จึงอยากเสนอตำรับยาอายุวัฒนะหรือยาบำรุงกำลัง ที่มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย ซึ่งทางมูลนิธิสุขภาพไทยได้เก็บรวบรวมไว้ ตำรับยาเหล่านี้เป็นของจริงที่เครือข่ายหมอพื้นบ้าน 4 ภาค ได้ทำงานและส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาในชุมชน

ตำรับยาเหล่านี้เป็นตำรับยาที่หาตัวยาได้ง่าย ปรุงง่าย ได้ผลดี

 

ตํารับยาที่ 1 ยาอายุวัฒนะ ของเครือข่ายหมอพื้นบ้าน จ.สุรินทร์ ใช้สมุนไพรดังนี้ บอระเพ็ด หัวแห้วหมู สมอไทย สามอย่างแรกใช้อย่างละ 30 กรัม อีกห้าชนิด คือ มะขามป้อม กระเทียม กระชาย พริกไทย เหงือกปลาหมอ ใช้อย่างละ 60 กรัม

วิธีทำ ให้นำสมุนไพรทั้งหมดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปตากแห้ง แล้วบดเป็นผงละเอียด ผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอน (แล้วควรผึ่งให้แห้งก่อนบรรจุขวด เพื่อป้องกันราขึ้น)

หากจะนำมาใส่แคปซูลก็ได้ ให้กินก่อนอาหาร ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 2 เวลา เช้า และเย็น

 

ตํารับที่ 2 บำรุงกำลัง ตำรับยานี้เป็นยาดอง แต่จะแสดงให้เห็นว่าสูตรยาดั้งเดิมเกี่ยวกับยาดองนั้นมีหลายสูตร บางสูตรไม่จำเป็นต้องใช้เหล้าดอง จนกลายเป็นข้ออ้างของคนบางกลุ่มที่มัวแต่กินยาดองจนเมา แล้วยังทำลายภาพลักษณ์และสรรพคุณดีๆ ของยาดองในอดีตด้วย

ตำรับยาบำรุงกำลังขนานนี้ ได้ความรู้จากเครือข่ายหมอพื้นบ้านภาคใต้ พืชสมุนไพรชนิดแรกที่นำมาใช้คือ ม้ากระทืบโรง ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้กันเฉพาะภาคเหนือหรืออีสาน แต่ในความเป็นจริงสมุนไพรชนิดนี้รู้จักกันทั่วไปว่าใช้ในการบำรุงกำลัง

ตัวยาต่อมา ใช้ รากสามสิบ หัวร้อยรู และโด่ไม่รู้ล้ม ให้นำสมุนไพรทุกอย่างละเท่าๆ กัน นำมาบดให้ละเอียด แล้วผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำมาใส่โหลแก้ว เทน้ำผึ้งใส่โหลให้ท่วมตัวยา ปิดฝาให้แน่น

ถ้ายึดวิธีแบบโบราณท่านให้นำไปฝังไว้ในกองข้าวเปลือกทิ้งไว้ 1 เดือน กินครั้งละ 1 ช้อนชา วันละ 2 เวลา เช้า เย็น ช่วยบำรุงกำลังดีนัก

 

ตํารับที่ 3 ยาดองน้ำผึ้ง บำรุงกำลัง อีกขนานหนึ่งของเครือข่ายหมอพื้นบ้านภาคใต้

ตำรับนี้น่าจะมีการใช้อยู่ทั่วประเทศ เพราะเป็นสูตรยาที่รู้จักกันแพร่หลาย และเป็นสรรพคุณเด่นของสมุนไพรชนิดนี้ด้วย นั่นคือ บอระเพ็ด ที่นำมาใช้ในการบำรุงและเป็นยาอายุวัฒนะ วิธีทำของคนรุ่นก่อนทำง่ายๆ ใช้ บอระเพ็ด และน้ำผึ้ง เท่านั้นเอง

วิธีทำ ใช้เถาบอระเพ็ดสด ล้างน้ำให้สะอาด นำมาหั่นเป็นท่อนเล็กๆ ยาวประมาณ 1 ซ.ม. ใช้จำนวนเท่าใดแล้วแต่ตามความต้องการ แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งโดยใช้ผ้าขาวบางคลุม (ตากแดดให้แห้งพอมาดๆ)

จากนั้นนำมาใส่โหลแก้ว เทน้ำผึ่งใส่โหลแก้วให้ท่วมบอระเพ็ด ปิดฝาดองทิ้งไว้ 1 เดือน นำมากินครั้งละ 1 ท่อน (อาจจิบกินน้ำผึ้งได้ด้วย) กินวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น

สิ่งที่น่าสนใจของตำรับยานี้อีกประการ คือ หมอยาพื้นบ้านแนะนำให้กินเพื่อช่วยบำรุงเลือด บำรุงน้ำดีด้วย

 

ตํารับที่ 4 ส่งท้ายด้วยเป็นยาพื้นบ้านภาคใต้ที่มี สรรพคุณ บำรุงกำลัง และบำรุงกระดูก ที่ภูมิปัญญาท้องถิ่นสืบทอดมานาน ตำรับยานี้อาจไม่ใช่ยาต้มยาดองอะไร อาจเรียกว่ายาขนมหรือขนมหวานที่เป็นยาก็ได้ เนื่องจากยาชนิดนี้ถ้าจัดตามหลักวิชาเข้าข่าย “ยากวน” วิธีการก็คล้ายๆ กวนกะละแมนั่นเอง

ตำรับยานี้ใช้สมุนไพร หรืออาหารสมุนไพรที่อยู่ในชุมชน หาได้ง่าย และหากวิเคราะห์ด้วยความรู้สมัยใหม่ก็จะพบว่า ตัวยาสำคัญเพียงแค่ 2 ชนิดนั้น เป็นยอดอาหารที่ใช้บำรุงกำลังด้วย นั่นคือ ใบยอ และรำข้าว

วิธีทำ นำใบยอสดมาหั่นเป็นชิ้นๆ นำไปตากแห้งแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำมาคลุกผสมกับรำข้าว โดยใช้อย่างละเท่าๆ กัน คราวนี้เข้าสู่กระบวนการกวน ให้นำน้ำตาลโตนดตั้งไฟเคี่ยวให้ข้นอย่าให้ไหม้ พอได้ที่แล้ว ใส่ใบยอและรำข้าวที่เตรียมไว้ลงกระทะ ใช้ไฟอ่อนๆ ค่อยๆ กวนจนรวมตัวกันจนจับกันเป็นก้อน ทิ้งไว้ให้เย็น

แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนขนาดเท่าหัวแม่โป้ง กินครั้งละ 1 ก้อน วันละ 2 เวลา เช้า เย็น ใครอ่อนเพลีย ให้กินต่อเนื่องสัก 2 สัปดาห์จะรู้สึกดีขึ้น ตำรับยากวนด้วยน้ำตาลนี้ อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกาย

ไทย จีน แขก ฝรั่ง ก็คงต้องการมีพละกำลังดีด้วยกันทุกคน ลองตำรับยาอายุวัฒนะจากชุมชนที่หาง่าย ใช้ง่าย พึ่งตนเองได้ไม่ต้องจ่ายตังค์แพง