สิ่งที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน เกี่ยวกับรสพระธรรม ประคำ และจิตวิญญาณของชาวมอเตอร์ไซค์

Valentino Rossi กล่าวไว้ว่า “Riding a Bike is like an art, something you do because feel something inside” แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง…เราเห็นด้วย

เมื่อคุยกับผู้รักการขี่มอเตอร์ไซค์ทั้งหลาย ที่พาตัวเองออกมาสู่ท้องถนนด้วยความเสี่ยงที่มากกว่ารถยนต์ถึง 41 เท่า (ข้อมูลจาก youtube : TheMissendenFlyer) และด้วยค่าใช้จ่ายตั้งแต่ค่าตัวของรถ ไปจนถึงค่าบำรุงรักษา ที่หลายๆ รุ่น รถยนต์ยังอาย ก็เป็นสิ่งที่พิจารณาได้ว่ามันเป็นเรื่องเหนือเหตุผล

เป็นเรื่องของภายใน เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ

หลายท่านซื้อมาขี่ก็เพราะชื่นชอบการขี่มอเตอร์ไซค์ในสมัยวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นการขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรียน หรือแม้กระทั่งการยืมเพื่อนขี่ที่โรงเรียน

แน่นอน มันคือเครื่องมือในการนำพาให้จิตวิญญาณดื่มด่ำกับอดีต

หลายท่านมีพันธนาการในชีวิตสูง ทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว และทรัพย์สินที่มีภาระผูกพันกับธนาคาร รู้สึกอึดอัดกับชีวิต ก็จะใช้มอเตอร์ไซค์นำพาให้จิตวิญญาณได้พบกับอิสรภาพ

บางคนทุ่มเทฝีมือให้มอเตอร์ไซค์คลาสสิคที่สิ้นชีพไปแล้ว ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ดื่มด่ำไปกับการเจียระไนมอเตอร์ไซค์ให้กลับมามีชีวิต ให้จิตวิญญาณได้พบกับความดื่มด่ำของความสำเร็จจากการทำสิ่งที่ทรงคุณค่า

บางท่านขี่ไม่ไหว แต่ชื่นชมความงามของมัน รูปทรงที่รุนแรง และงดงามของรูปทรงมอเตอร์ไซค์สปอร์ต ถึงกับกล้าจ่ายเงินหลักล้านซื้อไปวางโชว์ไว้ในบ้าน

ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นเครื่องมือในการสร้างความรื่นรมย์ เฉกเช่นการชื่นชมและครอบครองงานศิลปะชั้นยอด

หลายท่านเลือกที่จะทำงานเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ เป็นโชว์รูม เป็นร้านขายอะไหล่ ขายชุดแต่ง สร้างรายได้ให้ชีวิต ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นเครื่องมือให้จิตวิญญาณพบกับความพึงพอใจในการประกอบอาชีพที่ตนรัก ในการประกอบสัมมาชีพ เฉกเช่นคำสอนของพระพุทธเจ้า

บางท่านที่ผมได้พบ กล่าวว่า มันคือเครื่องมือที่จะทำให้เขาออกจาก comfort zone ถึงแม้ว่าจะกลัว ก็รวบรวมความกล้าให้ออกไป ออกไปที่ใหม่ๆ ออกไกลขึ้น ไปยังที่ที่ไม่เคยไป ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นเครื่องมือให้จิตวิญญาณได้เผชิญความกลัว พบกับความกล้าหาญ

และการขยายขอบเขตความกล้าของตัวเอง เฉกเช่นพระที่ออกธุดงค์

หลายท่านขี่มอเตอร์ไซค์ไปก็ไม่รู้เลยว่ามอเตอร์ไซค์เป็นเครื่องมือให้จิตวิญญาณได้พบกับแรงดึงดูด ดึงดูดชีวิตคู่ สู่จิตวิญญาณที่รักการขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน เติมเต็มหัวใจให้กันและกัน เฉกเช่นคู่ของ CEO ของบริษัท Touratech ที่ชื่อ Herbert Schwarz กับภรรยาชื่อ Ramona ซึ่งหลังจากหลายปีที่แต่งงานกัน เขายังคงครองรักกันอย่างมีความสุข และแน่นอน มีความสุขไปกับการขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนตอนที่พบกัน

หน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของคนในพื้นที่ห่างไกล เช่น Rider For Health ใช้มอเตอร์ไซค์ในการส่งตัวอย่างเลือดคนไข้สู่ห้อง Lab จากที่ทุรกันดาร ทำให้สร้างความแตกต่างระหว่างสุขภาพดีและสุขภาพแย่ คุณภาพชีวิตดีและคุณภาพชีวิตแย่ และเหนือไปกว่านั้น ความเป็นกับความตาย ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นเครื่องมือให้จิตวิญญาณ

พบกับความรู้สึกของการเป็นตัวแทนพระเจ้าที่ไปมอบชีวิตให้คนที่กำลังเผชิญหน้ากับความตาย

บางหน่วยงานใช้มอเตอร์ไซค์ในการกุศล งานระดมทุนเพื่อจะเอาชนะโรคร้ายที่มนุษย์ยังเอาชนะไม่ได้ เช่น ก็ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นเครื่องมือให้จิตวิญญานได้พบกับโลกที่ดีขึ้น

เช่น หน่วยงานการกุศล DGR ที่กำลังต่อสู้กับมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างถึงพริกถึงขิง และมีเป้าหมายที่จะเอาชนะโรคร้ายนี้ได้ เช่นเดียวกับที่มนุษย์เอาชนะโปลิโอ มาลาเรีย และวัณโรคมาแล้ว

เริ่มต้นในปี 2012 มีผู้เข้าร่วมขี่มอเตอร์ไซค์การกุศลนี้ 2,500 คนจาก 64 เมือง จนมาถึงปี 2017 มีผู้เข้าร่วม 93,000 คน จาก 582 เมือง 92 ประเทศ ระดมทุนในปี 2017 ปีเดียวได้ถึง 4.85 ล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูลจาก Wikipedia.org)

และยังทำให้จิตวิญญาณของสุภาพบุรุษที่กำลังต่อสู้กับโรคระเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งมีความเศร้าซึมและเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ได้รับกำลังใจจากเหล่าผู้รักการขี่มอเตอร์ไซค์

Burt Munro ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นเครื่องมือในการตอบสนองความทะเยอทะยานด้านความเร็วของจิตวิญญาณ เพื่อทำสถิติความเร็วสูงสุดในทะเลเกลือ Bonneville ผู้ซึ่งดื่มด่ำกับความเร็วสูงอย่างผิดมนุษย์มนาทั่วไป เป็นเจ้าของความเร็วระดับ 288 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตั้งแต่ปี 1962, เป็นเจ้าของความเร็วเกิน 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตั้งแต่ปี 1967 และยังเป็นเจ้าของสถิติมอเตอร์ไซค์ Indian ที่เร็วที่สุดในโลกมาจนถึงทุกวันนี้ (ข้อมูลจาก Wikipedia.org) เป็นชายสุภาพชนที่มีบุคลิกน่าคบหาสมาคม และเป็นเจ้าของคำพูดอมตะของจิตวิญญาณแห่งผู้รักความเร็ว

“you live more in five minutes on a bike like this going flat out than some people live in a life time”

บางคนขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปสำรวจโลกในดินแดนใหม่ๆ ไปสำรวจโลกด้วยความตื่นตาตื่นใจ และทำให้เข้าใจโลกมากขึ้น และพบว่าโลกที่เขาอยู่ห้อมล้อมไปด้วยความยากจนข้นแค้น การล่าอาณานิคมที่เอารัดเอาเปรียบ สัญญาสัมปทานที่ประชาชนในประเทศเป็นเพียงผู้ใช้แรงงานที่ถูกเอาเปรียบ

จนนำพามาซึ่งจุดหักเหในชีวิต ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นเครื่องมือให้จิตวิญญาณได้พบกับภารกิจที่ยิ่งใหญ่

หักเหจากนายแพทย์ มาเป็นนักปฏิวัติ ต่อสู้กับทุนนิยม และเสรีนิยมของอเมริกันจนกลายเป็นอมตะ เป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวขบถทั่วโลก เจ้าของวรรณกรรมคลาสสิค The Motorcycle Diary, เครื่องมือทางจิตวิญญาณอันมีชื่อเรียกว่ามอเตอร์ไซค์ ทำให้โลกรู้จักกับเช กูวารา

แต่บางทีมันก็เป็นจิตวิญญาณของมอเตอร์ไซค์เอง ที่เรียกให้ผู้คนที่ได้ยินมัน ใส่วิญญาณให้กับมอเตอร์ไซค์ที่ได้ตายไปแล้ว เช่น triumph motorcycle, Indian motorcycle หรือแม้กระทั่ง Royale Enfiled

มอเตอร์ไซค์ที่ตายไปในบ้านเกิดตัวเองที่อังกฤษ กลับเติบโตขึ้นในดินแดนที่รุ่มรวยด้วยอารยธรรมทางจิตวิญญาณ

และล่าสุด ที่กำลังจะฟื้นคืนชีพมาเติมเต็มชาวมอเตอร์ไซค์ที่ยังคิดถึงมันทั่วโลก ยี่ห้อมอเตอร์ไซค์จากอังกฤษที่ครั้งหนึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอันมีนามว่า BSA และเราน่าจะได้ยลโฉมในปี 2019 ภายใต้บริษัทจากประเทศแห่งจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์…อินเดีย

หากพระหรือนักบวชในทิเบต อินเดียหรือที่อื่นๆ มีบทสวดเป็นเครื่องมือในการยกระดับจิตวิญญาณ มีเสียงเคาะจังหวะ หรือดนตรีเป็นเครื่องเรียกสติให้ดื่มด่ำกับรสพระธรรม และมีประคำในมือ เป็นเครื่องช่วยนับบทสวด เราผู้รักการขี่มอเตอร์ไซค์ ก็มีไมล์ระยะทางบนหน้าปัด เป็นเช่นประคำ มีเสียงจากปลายท่อไอเสียเป็นเครื่องเรียกสติ

และแน่นอน…มีมอเตอร์ไซค์ของเราเป็นเครื่องมือทางจิตวิญญาณ มันมีความศักดิ์สิทธิ์ถึงเพียงนั้น