จดหมาย

จดหมาย

 

• น้ำท่วมใต้

จากภูเขาเขียวขจีที่เคยเห็น

บัดนี้กลับโดดเด่นเป็น “ป่าแหว่ง”

เพราะอิทธิพล “เงินตรา” นั้นมาแรง

เข้าสำแดงการ “ทำลาย” หมายครอบครอง

เพื่อสร้าง “รีสอร์ต-โรงแรม” แถม “คอนโดฯ”

“บ้านพัก” หลังใหญ่โตราคาน่าสยอง

ล้าน-สองล้านใครจะหันหน้ามามอง

สิบถึงร้อย-พันล้านจ้องปองสร้างกัน

จึง “ภูเก็ต” วันนี้ที่ “น้ำท่วม”

พากันอ่วมอรทัยให้เห็นนั่น

“ดินสไลด์” ทางขาดกันพัลวัน

ใช่ไหมนั่นเพราะ “ป่าไม้” ถูกทำลายไป

ฝนตกหนักดังฟ้ารั่วชัวร์ได้ว่า

เกิด “น้ำป่า” ไหลหลากยากต้านไหว

ท่วมนอกเมืองในเมืองพลันในทันใด

เพราะป่าซับน้ำให้นั้นไม่มี

“เกาะภูเก็ต” ทำลายป่ามามากนัก

จนประจักษ์ให้เห็นไปในทุกที่

เฉพาะ “ภูเขา” น้อยใหญ่ในวันนี้

ล้วนมากมี “นายทุน” หนุนทำลาย

“เจ้าหน้าที่” บ้านเมืองก็กระไร

ไม่ใส่ใจป่า “บรรลัย” ไปมากหลาย

ยังคงอยู่เป็นสุข-สนุก-สบาย

ผลสุดท้าย “ใครฉิบหาย” น้ำท่วมเมือง

สมโชค พลรักษ์

 

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนจังหวัดภาคใต้

เป็นระยะๆ ให้ระวังน้ำท่วม

ซึ่งนั่นเป็นภัยธรรมชาติที่ต้องเผชิญ

และหนักอยู่แล้ว

แต่ยังต้องมาเผชิญกับภัยจากฝีมือมนุษย์ เพิ่มเข้ามาอีก

ทั้งการบุกรุกทำลายป่า

การบุกรุกลำคลอง ที่สาธารณะ

ซึ่งเป็นที่ซับและระบายน้ำ

แม้จะมีการย้ำเตือน

รวมถึงมีกฎหมายเอาผิด

แต่ก็เหมือนอย่างที่ “สมโชค พลรักษ์” บอกมานั่นแหละ

คือ “เอาไม่อยู่”

• ป่าช้าแตก

สักวา “ป่าช้าแตก” แยกย้ายพรรค

โจรในสูทไม่ตระหนักซ้ำกักขฬะ

หวังเป็นฝ่ายรัฐบาลพาลไม่ละ

ยังตะกละเหมือนเดิมเพิ่มดีกรี

ส่อ “ธุรกิจการเมือง” เรื่องเห็นเห็น

ประชาชนตายทั้งเป็นเซ่นเง่างี่

ไม่เรียนรู้ผู้คนจนอัปรีย์

เลือกพวกผีครองอำนาจ “ชั่วชาติ” เอย

สมบัติ ตั้งก่อเกียรติ

ชูเกียรติ วรรณศูทร

 

เวลา “ป่าช้าแตก” มาถึงแล้ว

ซึ่งก็คงห้ามปรากฏการณ์เช่นนี้ลำบาก

จึงต้องทำใจ

แต่หากรับไม่ได้ หรือแลดูน่าเกลียดเกินจะทำใจไหว

ประชาชน ในฐานะ “เจ้าของสิทธิ”

ก็มีสิทธิส่งผีคืนป่าช้า

ด้วยการ “ไม่กา” ให้เบอร์นั้น

ช่วยกันจำ ช่วยกันให้บทเรียน

แก่สัมภเวสีเหล่านี้!

 

• ลุยต่อแก้ รธน.

ในวาระครบรอบ 90 ปีประชาธิปไตย

ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 20 ฉบับ

แต่เพราะติดกับดักอำนาจนิยม ประชาธิปไตยของไทยเลยไม่พัฒนาก้าวหน้า

เนื่องในวันรัฐธรรมนูญนี้ จึงขอเชิญชวนประชาชน ร่วมลงชื่อ 50,000 ชื่อ เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย

โดยมีเหตุผลดังนี้

ประการที่หนึ่ง ที่ผ่านมามีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งจากพรรคการเมืองและภาคประชาชนแล้วกว่า 25 ฉบับ

แต่ผ่านเพียงฉบับเดียว คือแก้ระบบเลือกตั้งและสัดส่วน ส.ส. ที่ฝ่ายรัฐบาลคิดว่าจะได้ประโยชน์

สำหรับร่างแก้ไขฉบับใหม่นี้ เป็นไปตามที่รัฐสภาเคยรับหลักการไว้

คือ ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนุญ (ส.ส.ร.) ผ่านวาระ 2 ไปแล้วและค้างอยู่วาระ 3 และไม่ขัดต่อคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญเพราะเป็นร่างแก้ไขหมวดที่ 3 เป็นต้นไป

ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้จะเปิดทางให้มี ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในอนาคต

ประการที่สอง เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 ให้อำนาจ ส.ว.จากการแต่งตั้งของคนไม่กี่คนมาแต่งตั้งนายกฯ ผิดหลักการและทำลายประชาธิปไตย

กฎหมายหลายฉบับไม่ผ่านรัฐสภาเพราะ ส.ว.แต่งตั้งเหล่านั้น คัดค้าน ดังนั้น ส.ว.คืออุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตยและการปฏิรูปการเมือง ต้องแก้ไข

ประการที่สาม รัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญนี้ ใช้อำนาจนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้แต่ พล.อ.ประยทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่การละเมิดมาตรา 161 เรื่องถวายสัตย์ มาตรา 44 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุม แต่ไปออกกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปละเมิด รวมถึงมาตรา 56 ที่รัฐไปทำสัญญาให้เอกชนรับสัมปทานผูกขาดการผลิตไฟฟ้า

ประการที่สี่ ในปีหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรถือเป็นเจตจำนงที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องทำสัญญาประชาคมกับประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไป โดยทุกพรรคจะต้องมีคำตอบและแนวทางที่ชัดเจน

ขอเชิญร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดย ส.ส.ร. ตามลิงก์นี้

https://dev.parliament.go.th/einitiative/petloginbyshr.aspx

นายเมธา มาสขาว

เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)

 

การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ

แม้จะล้มเหลวมาโดยตลอด

แต่ก็คงต้องเดินหน้าต่อไป

จะผ่าน 100 ปี ถึงจะมีประชาธิปไตยที่แท้จริง

ก็คุ้มค่าที่จะพยายาม?? •