จดหมาย

 

0 ไทยกับเทศ

 

ป้ายปลุกใจป้ายนี้ ถ่ายเมื่อ 35 ปีที่แล้ว

ที่อำเภอสอง จังหวัดแพร่

สมัยนายอนันต์ มีชำนะ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด

ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมถนนหลวง เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2527

ข้อความชวนให้ฮึกเหิม

(สะกดและเขียนตามข้อความป้าย)

พัฒนาเมืองสองต้อง

๑. เพิ่มผลผลิตอย่างใต้หวัน

๒. ขยันอย่างเกาหลี

๓. สู้ไม่ถอยแบบอิสราเอล

๔. เน้นวินัยอย่างญี่ปุ่น

๕. ยึดประเพณีแบบไทย

ผ่านมาเจียนครบ 35 ปีแล้ว

ไทยแลนด์ แดนสยาม

ยังคงยึดประเพณีแบบไทยๆ อย่างเคร่งครัด (อยู่ข้อเดียว)

คือ

ปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ

ปฏิวัติรัฐประหารกันไม่หยุดหย่อน

ลางร้ายมันเริ่มปักป้ายแต่แรกๆ แล้ว ชาวบ้านหอบหิ้วสัมภาระเดินผ่านป้ายอย่างหมดอาลัยตายอยาก

มาถึงปี 2562 ไทยแลนด์โอนลี่

คว้าตำแหน่งประธานอาเซียนมาครองอย่างภาคภูมิใจ

อิ อิ หากปฏิวัติซ้ำกันอีกสักเจ็ดแปดรอบ

คราวนี้ ลองส่งใครไปชิงตำแหน่งยูเอ็น แบบบิ๊กแม้วเคยทุ่มเททั้งกายทั้งใจส่งสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ไปชิงแล้วแบ๊ก

ว่าไม่ได้นา คราวนี้อาจสมหวังก็ได้

ธ่อ อูถั่น เพื่อนบ้านข้างเคียงแท้ๆ ยังโซ้ตำแหน่งนี้มาครองได้นิ

พม่าต่างจากไทยตรงไหน

พี่บังพี่ตู่ก๊อบมาตรงๆ เลยละ (ฮ่า)

ตากล้อง อีตา “ปิยพงศ์” (เมืองหละปูน) เจ้าเก่า

ดาวโหนดวงใหม่

“ปิยพงศ์” (เมืองหละปูน)

 

ป.ล.โทษที ฝันไปวุ้ย (กลางแดดซะด้วย) ฮ่า

 

ไต้หวัน เกาหลี (ใต้) อิสราเอล ญี่ปุ่น

35 ปีผ่านไป เขาเจริญอย่างไร ก็เจริญอย่างนั้น

ทิ้งไทย ไกลสุดกู่

ก็มานั่ง อนุรักษนิยม “ปฏิวัติ” อยู่อย่างนี้

ประเทศก็เลยไม่ไปไหน

แต่แทนที่จะรู้ตัว

ดันมีคนมาขู่อีกนะว่า

หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทำขัดรัฐธรรมนูญ กรณีถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน

และขาดคุณสมบัติ กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่

นั่นหมายความว่า คณะรัฐประหาร ในนาม คสช.จะกลับมา

ดูสิ ยังคิดกันได้

ว่าแต่ก็ดีเหมือนกัน กลับมาก็กลับมา

เรา (สังคมไทย) ชอบอนุรักษ์สิ่งดึกดำบรรพ์อยู่แล้วนี่

จะได้เจริญถอยหลังลงไปอีก (ฮ่า)

 

0 เหล็กกับน้ำ

 

ผมอยากจะเขียนเรื่องการไม่พูดความจริง (โกหก)

เพราะพูดโกหก 1 ครั้ง มีขั้นตอน 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1 ตั้งเรื่องที่จะพูดโกหก

ขั้นตอนที่ 2 ทำการพูดเรื่องโกหก

ขั้นตอนที่ 3 อันนี้สำคัญ คือการจำเรื่องที่จะพูด ที่ใช้มากที่สุดคือ พวกเป็นพยานในศาล โดยมากกลุ่มนี้เป็นพวกรับจ้างมีมาก

มักจะพูดไม่เหมือนเดิม และเป็นพวกปลาตายน้ำตื้น พวกนี้มีบาปทันตาเห็น

อนึ่ง การประชุมแถลงนโยบายที่ผ่านมา

มองเห็นชัดเจนว่า เป็นการต่อสู้ของฝ่ายเหล็กกับน้ำ

ฝ่ายที่เป็นเหล็ก คือฝ่ายรัฐบาลแข็งกร้าว มีอารมณ์เสียบ่อยๆ เปรียบเสมือนเหล็ก

ฝ่ายค้านเป็นฝ่ายน้ำ อ่อนโยน มีเหตุมีผล ถูกยั่วยุยังไงก็ไม่โมโห

เหล็กเป็นโลหะที่แข็ง แต่ตัดขาด

เหมือนคนที่มีอารมณ์โมโห วาจาแข็งกร้าว มีแต่เรื่องแสดงออกทางอารมณ์

ถึงจะแข็งแต่ตัดขาด

น้ำเป็นธาตุที่อ่อนโยน มีเหตุมีผลเหมือนน้ำ ไม่มีทางตัดขาดได้

ประชาชนมองออก จึงมีผลต่อการเลือกตั้ง

ตะวันรอน อ.ลอง จ.แพร่

 

โบราณเขาถึงว่า

เมื่อเริ่มโกหกแล้ว

ก็ต้องโกหกไปเรื่อยๆ

ทรมาทรกรรม เพราะจะลืมเรื่องที่โกหกไว้ไม่ได้

คนจะจับได้

แต่กระนั้น การโกหกก็เกิดขึ้นตลอดเวลา

แถมยังมาเล่นบทแข็งเสียอีก

ทำนอง “ผมจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะรับผิดชอบท่าไหน

และจะเข้าไปตอบเรื่องถวายสัตย์ในสภาอย่างไร

จะเล่นบทแข็งโป๊กอย่างเดิม

ก็คงต้องฟังคำเตือน “ตะวันรอน” ให้ดี

ส่วนจะแข็งแบบหนา

ปากบอกไม่กลัว แต่หนีสภาอุตลุด อันนี้บ่ฮู้นำ