ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
เวลาที่กบได้ออกนอกกะลาหนไหน
ก็ให้รู้สึกว่าฟ้ากว้างไกล อะไรก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด
สรุปง่ายๆ ก็คือ เพิ่งกลับจากต่างประเทศมาน่ะครับ
หนนี้ไปเยือนจอร์แดนอย่างเป็นทางการ (ฮา)
ล้อเล่นน่ะ
ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาดูธรรมชาติและย้อนร้อยอารยธรรมของเขาน่ะครับ
สมใจอยากของกบ
จอร์แดนเป็นหนึ่งในประเทศที่สงบสุขดีที่สุดในตะวันออกกลาง
คือไม่มีสงครามกลางเมือง ไม่มีฐานที่ตั้งของกลุ่มก่อการร้าย
และยังมีร่องรอยประวัติศาสตร์ของภูมิภาคนั้น ทั้งร่วมสมัย และที่ย้อนหลังไปได้นับพันปีให้ชมอยู่ทั่วประเทศ
ยังไม่นับความงามตามธรรมชาติ เช่น ทะเลทรายทางใต้ หุบเขาเขียวชอุ่มทางเหนือ ไปกระทั่งถึง “เดด ซี”
รายได้หลักของประเทศนี้ ส่วนหนึ่งจึงมาจากการท่องเที่ยว
ใครได้ไปขี่อูฐ-นอนดูดาวในทะเลทรายวาดิรัม
ไปชมความงามและความอลังการของ “นครสีกุหลาบ” เพตรา
ไปดูป้อมประวัติศาสตร์ยุคครูเสดอย่างเครัค-อัชลุน
หรือไปนอนลอยในน้ำที่เดด ซี
ก็ถือเป็นประสบการณ์ “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ได้ทั้งนั้น
ขณะที่อีกส่วนหนึ่งซึ่งไม่น้อยกว่ากัน คือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ในฐานะที่จอร์แดนเป็นดินแดนพำนักของผู้อพยพ โดยเฉพาะจากปาเลสไตน์และซีเรีย จำนวนนับล้าน
แต่ยิ่งนานวัน ความขัดแย้งระหว่างยิว-อาหรับ อาหรับด้วยกัน ศาสนาเดียวกันแต่ต่างนิกาย
ไปจนถึงความจุ้นจ้านของมหาอำนาจอย่างสหรัฐ-รัสเซีย
ทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคซับซ้อนขึ้น
เงินช่วยเหลือจึงมาพร้อมกับเงื่อนไขที่ยุ่งยากขึ้น
หรือเผลอๆ ก็ตัดกันดื้อๆ
ความที่เป็นประเทศที่อัตคัดทรัพยากรธรรมชาติ
คือไม่มีน้ำมันเหมือนประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง
มีแต่โพแทสเซียม ฟอสเฟต และยิปซัมเป็นหลัก
เศรษฐกิจจอร์แดนจึงพึ่งสองขาข้างบน อันได้แก่ การท่องเที่ยวและเงินช่วยเหลือ
เศรษฐกิจพึ่งพาคนอื่นอย่างนี้ ถ้าระบบจัดการดีก็ดีไป
จัดการยังไม่ถึงขั้นก็มีปัญหา
เอาปัญหาว่าด้วยการท่องเที่ยวก่อน
ขยะครับ ปัญหาหมายเลขหนึ่ง
ไม่ว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งไหน ลงว่าขยะเกลื่อนก็หมดท่า
อย่างในเพตรา ตั้งแต่ทางเข้าถึงเดอะ เทรเชอรี่ (ตึกสลักไปในหน้าผาอย่างอลังการที่คนทั่วโลกถือเป็นสัญลักษณ์ของเพตรา) นั้นพออาศัย
แต่พอเลยเดอะ เทรเชอรี่ไป ก็เกลื่อนเหมือนที่อื่นๆ
ชวนให้หมดอารมณ์เพราะบ่อนทำลายความสวยงาม
พอกลับมาถึงบ้านเรา เจอรัฐมนตรีวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ นำคณะไปร่วมกับชุมชนนั่นนี่ เก็บขยะในบ้าน ในที่ท่องเที่ยว บนทางผ่าน
ก็ชื่นใจ
การท่องเที่ยวไม่ว่าจะขายอะไร ธรรมชาติ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ หรืออื่นๆ (เว้นไว้ในฐานที่เข้าใจ)
สะอาด สะดวก ปลอดภัย
ยังเป็นหัวใจร่วม
ถึงจะเป็นประเทศสุขสงบ แต่ความที่ประชากรน้อย และทรัพยากรน้อย
น้ำมันก็ไม่มี
การลงทุนของจอร์แดนเมื่อเทียบกับประเทศในย่านนี้จึงถือว่าน้อยกว่าน้อย
แต่ถ้าคิดว่าปัญหาคือโอกาส
ความน้อยของจอร์แดนก็เป็นช่องทางได้
เอาแค่เห็นฟาร์มเลี้ยงไก่ในประเทศเขาแล้ว นึกถึงซีพี เบทาโกร สหฟาร์ม โกลเด้นฟู้ดส์ ฯลฯ ขึ้นมาทันที
ความสงบและการเป็นศูนย์กระจายสินค้าไปถึงตลาดอิรัก ซีเรีย หรือปาเลสไตน์ ยังเปิดกว้างอยู่
ข้อมูลกว้างลึกกว่านี้ ลองสอบถามท่านพรพงศ์ กนิษฐานนท์ เอกอัครราชทูตไทยที่กรุงอัมมานดูได้ครับ
เป๊ะกว่าข้อมูลงูๆ ปลาๆ ตรงนี้เยอะ