ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 เมษายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
เป็นประโยคคุ้นๆ ท้ายคำโฆษณาของสถาบันการเงิน เวลาที่จะมาชักชวนคนไปลงทุน
หมายเหตุด้วยว่า
ถ้าฟังทัน
เพราะท่านเล่นพูดลิ้นรัวอย่างรวดเร็วเสียจนปืนกลเรียกพี่
แต่เอาว่าเขามีข้อกำหนดให้ประกาศคำเตือนเหล่านี้เอาไว้ให้รู้ทั่วกัน
ซึ่งผู้รับปฏิบัติก็ทำไปงั้นๆ (ฮา)
ส่วนผู้ที่เป็นเป้าหมายของการสื่อสารก็มักไม่ค่อยสนใจฟัง (จนกว่าจะขาดทุนไปแล้ว-ฮา อีกที)
สรุปคือ คำเตือนนี้ติดหู แต่ไม่ค่อยได้ผล
อันนี้ไม่ค่อยฮา
ซึ่งก็น่าจะเป็นจริง
เพราะถ้าหลักการข้างต้นได้รับความเอาใจใส่
ทุกคนที่เป็นผู้เล่นในตลาด ศึกษาหาข้อมูล-ความรู้มาเท่าหรือใกล้เคียงกัน
คดีฉ้อโกง คดีปั่นหุ้นทั้งหลายก็คงไม่เกิด ไม่เป็นข่าวอึกทึกครึกโครมซ้ำแล้วซ้ำอีก
แต่เผอิญวันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาพูดเรื่องการลงทุนทางการเงิน
เพียงแต่จะขอยืมประโยคติดหูคนข้างต้นมาใช้กับสถานการณ์การเมือง ที่วันนี้ก็ยังชักคะเย่อ ยักแย่ยักยัน
ถึงแม้จะมี “การลงทุน” มหาศาล
แต่การลงทุนนั้นก็ไม่ได้ผลิดอกออกผลจนกระทั่งเป็นที่น่าพอใจ
ต้องอาศัยการลงทุนซ้ำแล้วซ้ำอีกถมลงไป
ผลก็ยังไม่ออกมาดังใจ
การลงทุนในที่นี้ไม่ได้หมายความเรื่องเงินเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ไม่ควรจะมีใครต้องเดือดเนื้อร้อนใจไป
จะใช้ 8,000 จะใช้ 300 แล้วผลออกมาไม่แตกต่างกันเท่าไหร่
อันนั้นเป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องกลับไปประเมินประสิทธิภาพของตัวเอง
แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าก็คือการลงทุนด้วยทุนชนิดอื่นๆ
ไม่ว่าจะทุนอำนาจ ทุนความชอบธรรม ทุนของมาตรฐานกฎหมาย
ฯลฯ
ที่ผ่านมาสิบกว่าปีในเมืองไทย ที่สังคมยุ่งเหยิงวุ่นวาย ก็เพราะใช้ทุนเหล่านี้กันผิดประเภท
แต่เหมือนท่านที่ถือทุนเหล่านี้อยู่จะไม่ได้ตระหนักอะไร
กลับสวมววิญญาณนักพนันหน้ามืด ทุ่มแทงและทุ่มเททุนเหล่านี้หนักมือขึ้นในการเลือกตั้งหนที่ผ่านมา
แบบที่ศัพท์ในบ่อนเขาเรียกว่า “ตามควาย”
ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า ต่อให้ตามกลับมาได้
จำนวนควายที่ตามกลับมา กับควายที่ทุ่มแทงลงไป
อย่างไหนจะมากกว่ากัน
และที่สำคัญก็คือ หลายๆ ท่านเหล่านั้นเข้าใจผิดว่า “ทุน” ที่ท่านเอาไปเล่นอยู่ เป็นทุนเฉพาะตัว-เฉพาะกลุ่ม
ทั้งที่ทุนเหล่านั้น คือต้นทุนของพี่น้องคนไทยทั้งสังคม
ถ้าลงทุนหรือทุ่มแทงไปแล้ว งอกเงยงอกงามขึ้นมาก็ดีไป
แต่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ยังพิสูจน์ไม่พออีกหรือว่า ยิ่งทุ่มทุนลงไป
ทุนก็ยิ่งหาย กำไรก็ยิ่งหด
ไม่ใช่แค่สตางค์ในกระเป๋าที่วัดได้ง่ายที่สุด
แต่ยังรวมไปถึงทุนอื่นๆ ที่เมื่อพร่องไปแล้วชวนใจหายชวนให้กังวล
เช่น ความรัก ความปรารถนาดี ความเชื่อถือที่มีต่อกัน ความเกรงใจซึ่งกันและกัน
ฯลฯ
ไม่ต้องให้นักวิจัยระดับ 5 ปริญญาที่ไหนมาบอก
เด็กเล็กที่ยังไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งก็บอกได้ว่า
คุณสมบัติเหล่านี้ร่อยหรอลงไปจากสังคมไทยทุกที
เพราะฉะนั้น อย่าเผลอไปถามกลุ่มที่มีสิทธิ์มีเสียงและมาออกเสียงเลือกตั้งเข้าให้เชียว
เดี๋ยวเวลาน้องๆ นุ่งๆ เขาตอบแบบตอก
จะหน้าฉีกหน้าแหกกันเปล่าๆ
เทศกาลสงกรานต์นี้จึงอาจจะพอมีคุณอยู่บ้าง
ถ้าท่านนักลงทุนทั้งหลายใช้เวลาในช่วงวันหยุด หยุดทบทวนตัวเอง
ใช้น้ำที่มาราดรดให้เย็นตัว ชโลมให้ใจเยือกเย็น เห็นความจริงอย่างที่เป็นจริง เห็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างที่ควร
ร้อนของราศีเมษก็อาจจะทุเลาลงไปได้
ทุนที่คิดว่าจะลดหดหาย ก็อาจจะเพิ่มขึ้นด้วยกุศลจิต
แต่ถ้ายังขยันลงทุนทางผิดกันอยู่ ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดอย่างสงกรานต์
กลับมาเจอหน้ากันใหม่ เผลอๆ ไฟประลัยกัลป์ก็เรียกพี่
สงกรานต์ทั้งที
หยุดให้เป็น
อยู่ให้มีความสุข
ทุกท่านนะครับ