ฐากูร บุนปาน | หรือตอนนี้คิดกันแค่ว่าเอาชนะเลือกตั้ง (ด้วยทุกวิธี) ให้ได้ก่อน

จะเป็นคอการเมืองระดับเข้าเส้น หรือเป็นประชาชนทั่วไป

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้เลือดสูบฉีดและหัวใจเต้นแรงได้มากกว่าปกติเหมือนกันทั้งหมด

และเชื่อว่า ถึงเหตุการณ์ใหญ่บางประการจะดูเหมือนยุติไปแล้ว

ก็ยังมีคำถามที่ติดค้างคาใจอยู่ว่า

แล้วจะเป็นอย่างไรกันต่อไปเวลามีใครมาถามประโยคนี้ ได้แต่ยิ้มซื่อๆ แล้วตอบเขาไปอย่างสุภาพเรียบร้อยที่สุดว่า

ไม่ทราบครับ

ไม่ได้เล่นลิ้นหรือเล่นตัวแต่อย่างใดทั้งสิ้น

หมายความอย่างที่ตอบจริงๆ ว่า ไม่รู้

และเชื่อว่า แม้แต่บรรดาท่านทั้งหลายที่มีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล ในราชการ ในการเมือง ระดับที่ถือว่าเป็น “วงใน”

เอาเข้าจริงแล้วก็ไม่รู้เหมือนกัน

รู้แต่เพียงว่า อย่างไรเสีย การเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม ก็จะยังเดินหน้าต่อไป

ส่วนเลือกออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร

พรรคไหนจะชนะ ใครจะจับมือใครตั้งรัฐบาล ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

ไม่มีใครรู้หรอกครับ นอกจากหมอดู (ที่เกาะแข้งเกาะขาผู้มีอำนาจ) หรือกองเชลียร์ทั้งหลาย

ที่ตอบเอาใจนายด้วยหลักจิตวิทยามากกว่าข้อมูลข้อเท็จจริง

เพราะคนที่จะตอบได้จริงนั้นคือเสียงจากคนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ ที่จะออกไปกาบัตรในวันนั้น

เลือกใครมากกว่าคนนั้นก็ชนะ

เท่านั้นเอง

และหนึ่งในปัจจัยที่จะเป็นประเด็นชี้ขาด หรือมีส่วนในการตัดสินใจเลือกกาบัตรของผู้มีสิทธิ์

ก็คือปัญหาปากท้อง สภาพ (ไม่) คล่องของคนทั่วไป

ตรงนี้เศรษฐี-มหาเศรษฐีไม่นับ หนึ่งเพราะท่านมีจำนวนน้อย ไม่ได้มีผลอะไรต่อการเลือกตั้งเท่าไหร่ และอีกหนึ่งเพราะท่านยังไม่เดือดร้อน หรือเดือดร้อนน้อยกว่าคนหาเช้ากินค่ำทั่วไป

ถ้ายังไม่เชื่อ เอาสถิติบางอย่าง (จากภาครัฐเองนั่นแหละ) ไปดูก่อน

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 ตัวเลขการนำเข้าของกรมศุลกากรระบุว่า

มีสินค้าที่คนไทยสั่งซื้อออนไลน์ผ่านจาก “ลาซาดา” (ซึ่งอาลีบาบา-ที่รัฐบาลไทยพยายามอย่างยิ่งที่จะฉุดกระชากลากถูให้เขามาลงทุนในบ้านเราให้ได้-ถือหุ้นใหญ่) ส่งเข้ามา 11,000,000 ชิ้น/เดือน

อ่านว่า สิบเอ็ดล้านชิ้นต่อเดือน

ทุกชิ้นในจำนวนนี้สำแดงราคาว่าต่ำกว่า 1,500 บาท

ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ต้องเสียทั้งภาษีศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม

เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2561 ที่ระบุว่า สินค้าลาซาดาจากประเทศจีนส่งเข้ามาเมืองไทย 7,000,000 ชิ้น/เดือน

เอสเอ็มอีไทยไม่ตายวันนี้จะไปตายวันไหน

ต้นทุนผลิตก็ผิดกันอยู่แล้ว

ยังเจอประเด็นถูกกว่าเพราะภาษีเข้าให้อีก

เอวัง

ใครก็แล้วแต่ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

ฝากพิจารณาด้วยครับ

เรื่องจะเก็บหรือไม่เก็บภาษีสินค้าที่สำแดงราคา “ถูกไว้ก่อน” หรือไม่ก็เป็นประเด็นหนึ่ง

แต่เรื่องใหญ่กว่าคือต้องคิดให้ตกคิดให้ได้ ว่าถ้าระบบการค้าของโลกเป็นอย่างนี้ ระบบการค้าของจีน-ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจหมายเลขหนึ่งของโลกในไม่ช้า-เป็นอย่างนี้

ประเทศไทย-ผู้ประกอบการไทยจะอยู่ตรงไหน

จะเป็นพันธมิตร เป็นคู่ค้า เป็นคู่แข่งกับเขาอย่างไร

ผลิตสินค้าแบบเดียวกันสู้เขาไม่ได้จริงๆ หรือมีปัจจัยอื่นเข้ามาบังตา

หรือถ้าได้คำตอบแน่ชัดว่าสู้เขาไม่ได้จริงๆ จะเลี่ยงจะหนีไปผลิตอะไรที่เราจะได้เปรียบเขาบ้าง หรือเขาต้องซื้อเราแน่ๆ

มีตัวเลขข้อมูล มีการเตรียมการทำการบ้านอะไรหรือยัง

นี่แค่ส่วนเดียวของภาพใหญ่ด้านเศรษฐกิจ ยังมีอีกสารพัดส่วน สารพัดปัญหา

ยังไม่พูดถึงว่านอกจากเศรษฐกิจแล้วยังจะต้องมีการเมือง สังคม วัฒนธรรม

ไปจนกระทั่งปัญหาใหญ่อย่างความเหลื่อมล้ำอีก

หรือตอนนี้คิดกันแค่ว่าเอาชนะเลือกตั้ง (ด้วยทุกวิธี) ให้ได้ก่อน ตั้งรัฐบาล ยึดและกุมอำนาจ-ผลประโยชน์เอาไว้ให้ได้ก่อน

เดี๋ยวเรื่องงานค่อยไปคิดกันทีหลัง

แบบนั้นก็เอวังอีกเหมือนกัน