ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 พฤศจิกายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
สลบไปร่วมวันครึ่งหลังคืนสมานมิตรบันเทิงศุกร์ 16 พฤศจิกายน
งานที่ผู้อาวุโสท่านหนึ่งถามว่า
“จัดทำไม”
และตอบท่านแบบซื่อๆ กลับไปว่า
เพราะอยากกิน อยากเจอ อยากคุยกัน
ไม่ได้เล่นลิ้น-เชื่ออย่างนั้นจริงๆ
ตอนที่ตอบ ขยายความกับท่านโดยที่ไม่รู้ด้วยว่าไปซ้ำรอยกับที่ “ลุงอาจินต์-อาจินต์ ปัญจพรรค์” เคยพูดเอาไว้นานแล้วว่า
นักเขียนเป็นอาชีพโดดเดี่ยว
ทำงานคนเดียว คิดคนเดียว
คุยก็คุยอยู่แต่กับตัวเอง
จะดีไหม ถ้าปีหนึ่งอย่างน้อยได้มาเจอกันพร้อมหน้า
ได้แลกเปลี่ยน ได้ปรับทุกข์ ได้แบ่งสุขกันบ้าง
สมานมิตรบันเทิง งานรวมญาติ รวมมิตร รวมนักเขียน-คอลัมนิสต์ในเครือมติชน-ประชาชาติธุรกิจ-ข่าวสด-มติชนสุดสัปดาห์-ศิลปวัฒนธรรม-เทคโนโลยีชาวบ้าน-เส้นทางเศรษฐี และท่านที่เขียนหนังสือเล่ม ด้วยความริเริ่มของคุณขรรค์ชัย บุนปาน จึงเกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้วด้วยเหตุนี้
จำได้ว่าเมื่อเริ่มจัดงานครั้งแรกนั้น
รุ่นผู้อาวุโสไม่ว่าจะเป็นลุงเส-เสนีย์ เสาวพงศ์ ลุงวสิษฐ เดชกุญชร ลุงอาจินต์ และอีกหลายๆ ท่านยังอยู่กันพร้อมหน้า
งานจัดมาได้ 3 ปีต่อกัน
ก็มีอันต้องเว้นวรรคไป 3 ปี
ตามภาวะเศรษฐกิจและผลประกอบการที่สูบเอาเวลาของคนจัดงานหดหายไปด้วย
กลับมาจัดงานรอบใหม่ในปีนี้ ยังปรารภกับน้องๆ ว่า
รุ่นลุง รุ่นอา รุ่นพี่เราหายหน้าไปเยอะ
แต่รุ่นน้องแยะขึ้น
ด้านหนึ่งก็ใจหาย เพราะความผูกพันที่มีต่อกันนั้นยาวนานลึกซึ้ง
ด้านหนึ่งก็แอบใจชื้นเล็กๆ
ที่ได้เห็นว่าถึงรุ่นลุงป้าน้าอาจะลับหรือโรยไป อาชีพหากินกับตัวอักษรก็ยังมีผู้สืบทอดเชื้อสาย
แต่ดีใจได้อยู่วูบเดียวเท่านั้น
หลังกลับมามีชีวิตใหม่ราวเที่ยงๆ วันอาทิตย์
อย่างแรกๆ ที่ทำคือตรวจสอบข่าวสารที่ค้างคาทั้งในหนังสือพิมพ์และโทรศัพท์
เพื่อจะรับทราบข่าวร้ายว่า “ลุงอาจินต์” ล่วงไปแล้ว
ใจโหวงๆ อยู่พักหนึ่ง
แล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าอยู่อย่างทุกข์ทรมาน
อยู่แล้วรังสรรค์อะไรแก่โลก-แก่คนอื่นไม่ได้
ลุงอาจจะยินดีที่จะขึ้นไปสมทบกับอาปุ๊-“รงค์ วงษ์สวรรค์ อานพพร บุณยฤทธิ์ และอารัตนะ ยาวะประภาษ
ครบคณะพรรค “4 มือทอง” บนโน้นแล้วก็ได้
กราบส่งลุงด้วยตัวหนังสือแทนตัวมาที่นี้
ท่านที่เป็นนักอ่านจำนวนมาก (รวมทั้งตัวเองด้วย) จดจำลุงอาจินต์ได้แม่นยำจากเรื่องสั้นชุดเหมืองแร่
กว่า 300 เรื่องนั้น ทั้งครบเครื่อง ครบรส มากและหลากหลายไปด้วยแง่คิดเกี่ยวกับความหมายของชีวิต
ติดเรื่องสั้น แล้วก็ตามมาเป็นแฟนฟ้าเมืองไทย
ที่พ่อเป็นสมาชิกเล่มแรกยันเล่มสุดท้าย
จนกระทั่งวันหนึ่ง สำนักพิมพ์มติชนพิมพ์หนังสือรวมเรื่องสั้นนอกเหมืองแร่ของลุงอาจินต์
แล้วได้อ่าน “วันดวลเหล้า”
อ่านจบแล้วก็ถึงแก่ตะลึง
กลับมาอ่านใหม่ก็ยังตะลึง
อ่านกี่ครั้งๆ ก็ยังตะลึง
อารมณ์ประมาณตีตั๋วเข้าไปในโรงเพื่อร่วมลุ้นไปกับหนังเคาบอยชั้นดี
แต่ด้วยบรรยากาศแบบนักเลงเมืองเหนือ
บวกอารมณ์ขันที่โผล่ออกมาจี้เส้นถูกจังหวะ ไม่มาก-ไม่น้อย
และพรรณนาโวหารที่บรรยายภาพจนหลับตาแล้วเห็นตาม
โอยยย…
กลายเป็นเรื่องสั้นในดวงใจตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้
ไม่ต้องคนชอบกินเหล้าก็อ่านแล้วสนุก-ซาบซึ้งได้
มิพักจะต้องกล่าวถึงนักอ่านที่เป็นปีศาจสุราทั้งหลาย
เป็นโศกนาฏกรรมหรรษาขนานแท้
เป็นเรื่องสั้นที่ละเอียดละเมียดเหมือนงานแกะพระ
ยังไม่รู้ว่าอีกกี่ปี กี่ชาติ
จะมีสุดยอดนักเขียนอย่างนี้กลับมาจุติใหม่
มารังสรรค์ผลงานที่เหมือนเสกมนต์ให้นิ่งขึงอยู่กับที่เมื่อเริ่มอ่าน
ถอนสายตาออกจากหน้าหนังสือไม่ได้
คิดได้อย่างนี้ก็เชื่อว่าลุงคงอยากขึ้นไปพบลุงเส ลุงวสิษฐ และอาๆ ที่เหลือให้ครบก๊วนเต็มที
จะได้ “ซิงเกิล ดร็อป” กันให้เป็นที่สำราญใจ
บนสวรรค์ชั้นกวีรุจีรัตน์
สาธุ