ฐากูร บุนปาน : บทสนทนากับ “อ.วิชิต สุรพงษ์ชัย”

ก่อนเดินทางไปจีนเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม

ไปนั่งเสวนาธรรมกับ ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ที่คนอื่นเรียกท่านว่า “ด๊อกเตอร์” ส่วนตัวเองเรียกติดปากตั้งแต่เริ่มทำข่าวว่า “อาจารย์”

ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้านายของ “พี่บุญส่ง” บุญส่ง บุณยะสารนันต์ ครูบาอาจารย์คนแรกๆ สมัยเมื่อเริ่มทำข่าวเศรษฐกิจ-การเงิน

ครูของครูก็ต้องเป็นอาจารย์ไงครับ

บทสนทนาวันนั้นไม่เกี่ยวกับการเมืองไทย เพราะไม่มีอะไรต้องให้พูดถึง (ฮา)

แต่ปรารภถึงเรื่องใหญ่กว่านั้น อย่างสถานการณ์โลก

ท่านก็เลยถามขึ้นว่า อ่านหนังสือเล่มนี้หรือยัง

เล่มนี้ที่ว่านี่คือ Destine for War ของ Graham Allison อาจารย์สอนวิชาการเมืองระหว่างประเทศของฮาร์วาร์ด

พอบอกว่ายัง

อีกสองสามวันหนังสือเล่มที่ว่าก็มากองอยู่บนโต๊ะ

ขออนุญาตสรุปย่อๆ ว่าแกนหลักของหนังสือเรื่องนี้คือประเด็น “กับดักของธิวสิดีดีส” หรือ Thucydides”s Trap

คุณธิวสิดีดีสนี่เป็นทหาร นักประวัติศาสตร์ และนักเขียนครับ

อาศัยอยู่ในกรุงเอเธนส์ ช่วงราวเกือบๆ 500 ปีก่อนคริสตกาล

เป็นหนึ่งในคนที่เข้าร่วมสงครามเพลอปปอนเนซีส ระหว่างกรุงเอเธนส์กับกรุงสปาร์ตา

ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายหลัง

คุณธิวสิดีดีสบันทึกเหตุการณ์นี้เอาไว้ พร้อมกับข้อสรุปว่า

เมื่อใดก็ตามที่มีมหาอำนาจหมายเลขสองก้าวขึ้นมาท้าทายมหาอำนาจหมายเลขหนึ่ง

ซึ่งตอนนั้นคือเอเธนส์ขึ้นมาท้าทายสปาร์ตา

(อันนี้ตัวมันเองก็เป็นเรื่องสนุกครับ เอาไว้ผ่านเรื่องนี้แล้วเมื่อไหร่จะมาทำหน้าที่แทนต่วย”ตูนฉบับพิเศษ ย้อนอดีตเล่าสู่กันฟัง)

ผลสุดท้ายคือสงคราม

คุณ Allison เขาเอาข้อสรุปของคุณธิวสิดีดีสมาจับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์การเมือง (ของชาติตะวันตก) ในรอบ 500 ปีที่ผ่านมา

แล้วก็ได้ผลออกมาว่า ในวิกฤตการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ 16 ครั้งในรอบ 500 ปี

มี 4 ครั้งเท่านั้นที่รอดพ้นการใช้กำลังได้

ส่วนอีก 12 ครั้งจบลงที่สงคราม

นี่ก็น่าสนุกอีกเหมือนกัน แต่ยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่เราจะพูดกันหนนี้

มีโอกาสจะย่อยทั้ง 16 เหตุการณ์มาแลกเปลี่ยนกันดูครับ

ตกลงว่าติดค้างการบ้านไว้ 2 เรื่องแล้ว

คุณ Allison ตั้งคำถามซึ่งเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้เอาไว้ว่า

ในสถานการณ์การเมืองของโลกปัจจุบัน ซึ่งจีนก้าวขึ้นมาท้าทาย “อำนาจนำ” ของสหรัฐอเมริกา ผู้จัดได้ว่าเป็นมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลกมาตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

อะไรจะเกิดขึ้น

ในยุคที่จีนมีผู้นำที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่เคยมีมา (หลังจากเหมาเจ๋อตง) อย่างสีจิ้นผิง

และสหรัฐมีผู้นำที่คาดเดาไม่ได้อย่างโดนัลด์ ทรัมป์

แต่ทั้งสองคนมีเป้าหมายประการหนึ่งที่เหมือนกัน

คือประกาศจะสร้างประเทศของตัวให้กลับมายิ่งใหญ่ (เหนือคนอื่น)

อันเป็นสถานการณ์ที่นำไปสู่การประจันหน้ากันโดยตรง

และสุ่มเสี่ยงจะเดินไกลไปสู่สงคราม-ระดับสงครามโลก-ได้เลย

โลกนี้ หรือผู้เกี่ยวข้องจะต้องเรียนรู้อะไรบ้าง

ถ้าต้องการให้วิกฤตการณ์หนนี้ไม่เดินไปถึงสงคราม

ขออนุญาตไม่เอาเนื้อหาทั้งหมดมาทำมาหากิน

แต่จะสรุปเฉพาะส่วนแรก ที่เป็นข้อมูลเนื้อๆ ล้วนๆ มาให้เห็นว่า

บัดนี้จีนได้ก้าวขึ้นมาท้าทายสหรัฐอย่างไร

หรือจะพูดให้ตรงก็คือ จีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลกในหลายๆ ด้านแล้ว

อย่างไรและตรงไหนบ้าง

จากนั้น แต่ละท่านจะใช้ข้อมูลนี้ไปในการวิเคราะห์วิจารณ์อย่างไรก็ตามแต่อัธยาศัย

ขอกราบเรียนไว้ก่อนว่า เนื่องจากเน้นไปที่ข้อมูล-โดยเฉพาะข้อมูลทางเศรษฐกิจ

ตัวเลขก็จะเยอะหน่อย แต่จะพยายามเรียบเรียงออกมามิให้ดูน่าเบื่อ

มาถึงตรงนี้ เนื้อที่หมดพอดี

ขอจบแบบ “ดาวลูกไก่” ดื้อๆ ครับว่า

อยากรู้เรื่องต่อนะท่าน ให้ซื้ออ่านฉบับหน้าเอา

เตร๊งเตร็งเตร่งเตร๊ง…