เชิงบันไดทำเนียบ : ‘บิ๊กตู่’ ไม่โอเค ? ‘ศิษย์หลวงพ่อป้อม’ ปฏิวัติ ‘สามมิตร’

แค่ทำเป็นพิธีสำหรับการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ ที่ไปถึง จ.ขอนแก่น โดยเป็นพื้นที่ของ ‘เอกราช ช่างเหลา’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ที่เป็นผู้ดูแลพื้นที่อีสานเหนือ พปชร. อยู่ในสาย ‘ผู้กองมนัส’ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เคยทำให้ พปชร. ชนะเลือกตั้งซ่อม เจาะพื้นที่สีแดงมาได้เพิ่ม หลัง ‘สมศักดิ์ คุณเงิน’ เอาชนะพรรคเพื่อไทย ได้เป็น ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 โดยมี ‘วัฒนา ช่างเหลา’ เป็น ส.ส. เขต2 อยู่เดิม
.
ดังนั้นการไปจัดประชุมไกลถึง จ.ขอนแก่น ก็เป็นที่รู้กันว่า ‘ถิ่นใคร’ แล้วมา ‘เพื่ออะไร’ วาระสำคัญจึงอยู่ที่การปรับทัพ ‘กรรมการบริการพรรค’ หลังสาย กปปส. ไขก๊อกตัวเองออกไป ทำให้ตำแหน่งว่างลง รวมทั้งเป็น ‘รวบอำนาจ’ ของสาย ‘ศิษย์หลวงพ่อป้อม’ โดยลด ‘รองหัวหน้าพรรค’ จาก 10 เหลือ 4 คน ตามขุมกำลังก๊กต่างๆที่ลดกำลังอำนาจลง ได้แก่ สันติ พร้อมพัฒน์ , วิรัช รัตนเศรษฐ , ไพบูลย์ นิติตะวัน และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

ส่วนตำแหน่งที่ถูกโฟกัส คือ ‘เลขาธิการพรรค’ หรือ ‘พ่อบ้านพรรค’ โดยเปลี่ยนจาก ‘เสี่ยแฮ้งค์’อนุชา นาคาศัย แกนนำสายสามมิตร มาเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ได้ชื่อว่าเป็นคีย์แมน ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ตั้งแต่ตั้งพรรค เดินสายหา ส.ส. มาร่วมพรรค แกนนำประสานจัดตั้งรัฐบาล เรื่อยมาถึงนำทัพสู้เลือกตั้งซ่อม ซึ่งสามารถจัดการได้ ‘รวบเร็ว’ และ ‘เรียบร้อย’ ได้หมด ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส เปรียบตัวเองว่าเป็น ‘เป็นเส้นเลือดใหญ่’ ของรัฐบาล

แน่นอนว่า ‘กลุ่มสามมิตร’ อยู่ในสภาวะ ‘ถูกยึดอำนาจ’ แม้กลุ่มสามมิตรก็มี ส.ส. ในมือจำนวนหนึ่ง และ ‘แกนนำสามมิตร’ เป็นรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’รมว.ยุติธรรม ‘สุริยะ’รมว.อุตสาหกรรม ‘อนุชา’รมว.สำนักนายกฯ และมีแนวร่วมอีก 1 คน คือ ‘เสี่ยเฮ้ง’สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน จึงได้ชื่อว่าเป็นกลุ่ม ‘4ว.ว่าการ’ นั่นเอง
.
ส่วนอีกฝั่ง คือ ‘4ช.ช่วยว่าการ’ ที่ล้วนเป็น ‘ศิษย์หลวงพ่อป้อม’ คือ ร.อ.ธรรมนัส รมช.เกษตรฯ-เลขาธิการ พปชร. ‘อ.แหม่ม’นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน-เหรัญญิก พปชร. ‘สันติ พร้อมพัฒน์’รมช.คลัง และ ‘อธิรัฐ รัตนเศรษฐ’รมช.คมนาคม ที่เป็นตัวแทนคุณพ่อ ‘วิรัช รัตนเศรษฐ’ ประธานวิป รบ.
.
แค่เพียงเริ่มต้นก็ ‘คุกกรุ่น’ แล้ว ในการประชุมพรรค 18มิ.ย.ที่ผ่านมา ‘อนุชา’ ได้ถอนตัวเข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการพรรค แม้จะมีผู้เสนอชื่อขึ้นมา อีกทั้ง ‘กลุ่มสามมิตร’ ได้เดินทางกลับ ตั้งแต่การนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้น จึงไม่ได้ขึ้นเวทีร่วมแถลงข่าวกับ ร.อ.ธรรมนัส และ กก.บห.ชุดใหม่
.
ในส่วน ‘บิ๊กป้อม’ ก็มาแบบ ‘เหนือเมฆ’ ตาม ‘ยุทธวิธีคุมเชิง’ โดย ‘บิ๊กป้อม’ ได้ลาออกจาก หน.พลังประชารัฐ เพื่อเปิดทางให้มีการเลือก กก.บห.ชุดใหม่ โดยตัวเองไม่ได้ไปร่วมประชุมพรรค แต่ก่อนเริ่มประชุมได้ขึ้นเครื่องไป จ.ขอนแก่น เพื่อพบปะแกนนำพรรค ที่ ร.ร.พูลแมน ก่อนจะมีการประชุมที่ศูนย์แสดงสินค้าฯ จากนั้น ‘บิ๊กป้อม’ ได้ขึ้นเครื่องกลับ กทม. ทันที โดยมอนิเตอร์ข่าวที่ กทม. แทน
.
จึงมีการมองว่างานนี้ ‘บิ๊กป้อม’ มาเพื่อทั้ง ‘คุมเชิง’ และเพื่อวางตัว ‘อยู่เหนือ’ สิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่ก็เป็นสิ่งที่ยากจะเข้าใจ เพราะครั้งนี้สาย ‘4ช.’ ที่อยู่ข้างกาย ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นมาคุมพรรคทั้งหมด โดยเฉพาะชื่อ ‘ผู้กองมนัส-อ.แหม่ม’ ที่อยู่ในตำแหน่งสำคัญ เปรียบเป็น ‘คีย์แมน’ ข้างกาย พล.อ.ประวิตร ที่ทำหน้าที่ทั้ง ‘บู้-บุ๋น’ ในการซุ่มเตรียมขุมกำลัง ปูทางเลือกตั้งใหญ่ ที่คาดว่าจะเกิดในปี2565
.
ทั้งนี้ว่ากันว่า ‘บิ๊กตู่’ ก็ไม่ได้หนุน ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรค แต่ก็ถือว่าให้ ‘อำนาจพี่ป้อม’ ในการจัดการ เพราะเป็นเรื่องภายใน พปชร. โดยมีการมองว่า นายกฯห่วงเรื่องภาพลักษณ์พรรค เพราะ ร.อ.ธรรมนัส ถูกจับจ้องเรื่องราวในอดีตและถูกนำมาใช้โจมตีอยู่ตลอด และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคระหว่าง 2 กลุ่มใหญ่ในขณะนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่มี ส.ส. ในพรรคมากที่สุด

แต่ในทางการเมืองแล้วนั้น เมื่อมี ‘จังหวะ’ ก็ต้องเรียบ ‘เข้าเสียบ’ ไม่ปล่อยโอกาสนั้นไป และด้วยแรงขย่มภายใน พปชร. ที่เกิดอยู่เนืองๆ หากไม่ทำวันนี้ ก็ต้องทำวันหน้าอยู่ดี ปัจจัยทุกอย่างจึงเอื้อให้ ‘ศิษย์หลวงพ่อป้อม’ ทำการปฏิวัติ ‘กลุ่มสามมิตร’ เช่นที่เคยจับมือกัน ‘ปฏิบัติการยึดพรรคคืน’ จาก ‘กลุ่มสี่กุมาร’ มานั่นเอง
.
กลายเป็นศึก 2 ก๊ก ระหว่าง ‘สามมิตร-ศิษย์หลวงพ่อป้อม’ หรือ ‘4ว.-4ช.’ หลังกำจัด ‘ก๊ก กปปส.’ กับ ‘ก๊กสี่กุมาร’ ไปเรียบร้อยแล้ว
.
เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล !!