ในสัปดาห์หน้า คสช. เตรียมดีเดย์ ‘ผ่อนคลาย’ ให้พรรคทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ในช่วงเดือนก.ย.นี้ หลังกฎหมายลูก 4 ฉบับ ลงราชกิจจานุเบกษาครบ ซึ่งการปลดล็อค คสช. จะแบ่งเป็นช่วงๆ โดย ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาคสช. ระบุการผ่อนคลายจะทำเป็นช่วงๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์ได้
.
ก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ระบุ การผ่อนคลายอาจยังไม่ให้มีการหาเสียง แต่จะผ่อนคลายในเรื่องการทำไพรมารี่โหวตและการประชุมพรรค โดยภาพรวมจะเป็นเรื่องทาง ‘ธุรการพรรค’ มากกว่า

อย่างไรก็ตาม ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้กำชับให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เตรียมพร้อม เพราะในเดือนก.ย.นี้ คสช.จะมีการผ่อนคลายให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ปูทางเลือกตั้ง ช่วงต้นปี2562 โดยจะมีการคลายล็อคคำสั่งคสช. ซึ่งจะมีหลายส่วน หลายขั้ว และหลายพรรค เคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้น
.
โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคอีสาน ฐานที่มั่นพรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง ที่มีกลุ่มสามมิตรเดินเครื่องในพื้นที่ แม้จะไม่ยอมรับว่าหนุน ‘บิ๊กตู่’ หรือไม่ ? แต่จากท่าทีคงไม่พ้นหนุน ‘บิ๊กตู่’ เพราะการเดินสายของสามมิตร ไม่มีการวิพากษ์ ‘บิ๊กตู่’ แถมใช้ช่องว่างการเป็น ‘กลุ่ม’ เคลื่อนไหวแทนนาม ‘พรรค’ ที่เพื่อไม่มีคำสั่งคสช.มาเป็นชนักติดหลัง
.
เป็นที่น่าสังเกตว่าสิ่งที่ ‘สามมิตร’ เสนอ จะมาถึงหูรัฐบาลไม่น้อย ที่หลายเรื่องที่กลุ่มสามมิตรชูธงกลับถูกไปเดินเครื่องในนโยบายรัฐเสียด้วย โดยเฉพาะปัญหาปากท้องระดับคนรากหญ้า เช่น การแก้ปัญหาหนี้สิน ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่มี ‘บิ๊กป้อม’ ลุยลงพื้นที่คืนโฉนดที่ดิน-ที่นาและทรัพย์สินคืนชาวบ้าน จากเจ้าหนี้ผิดกฎหมาย

แถมล่าสุด ‘บิ๊กป้อม’ ได้ตั้ง ‘รองโจ๊ก’พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ท่องเที่ยว เป็น ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกฯ ให้ดูแลงานด้านกฎหมายและตำรวจ คู่กับ ‘เสธ.ต้อง’พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกฯ ที่สำคัญ ‘รองโจ๊ก’ มีเพจเฟซบุ๊กที่มีแฟนคลับเกือบ 2 แสน แอคเค้าท์ แต่แฟนคลับ ‘รองโจ๊ก’ ก็ไม่ปลื้มนัก ที่มาช่วย ‘บิ๊กป้อม’ ทำให้ต้องชี้แจงเป็นการใหญ่ แต่งานนี้ได้ ‘มือดี’ อย่าง ‘รองโจ๊กหวานเจี๊ยบ’ มากู้ภาพลักษณ์ให้ ‘พี่ใหญ่คสช.’ ที่เจอมรสุมการเมืองพัดผ่าน โดยเฉพาะปมนาฬิกาหรู ที่คอยสะกิดใจ ‘บิ๊กป้อม’ อยู่ตลอด
.
ซึ่งในพื้นที่ภาคอีสาน ทั้งทหาร-นักการเมือง ก็รู้จักกันมาอยู่แล้ว อีกทั้งทหารอีสานส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานชาวอีสาน พูดภาษาอีสานและเข้าใจวัฒนธรรมในพื้นที่ดี แน่นอนว่าจุดนี้เองก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ทหารจะเข้าพูดคุยกับนักการเมืองและเข้าใจชาวบ้าน แม้ว่าพื้นที่ภาคอีสานจะเป็นฐานที่มั่น ‘เพื่อไทย-คนเสื้อแดง’ ที่มีแนวคิด ต่อต้านคสช. ก็ตาม
.
จึงไม่แปลกที่ คสช. จะโดนโจมตีว่า ‘หวังผล’ ทางการเมืองในการลงนโยบายต่างในพื้นที่ต่างๆ ซึ่ง นายกฯ ก็ปฏิเสธชัดว่า ไม่ได้เป็นเรื่องการเมือง ตนก็ดูแลทุกพื้นที่และทุกจังหวัด และเมื่อขอมาก็ใช่ว่าจะให้หมด
.
ในห้วงที่ผ่านมา คสช. เองก็มีการ ‘เช็คเรตติ้ง’ ทุกพื้นที่ ล่าสุดผลดูจะแย้งกับ ‘เพื่อไทย’ ไปคนละทิศละทาง ซึ่ง คสช. เชื่อว่าจะชนะพรรคเพื่อไทย เพราะคำนวณแล้วคะแนน ‘เพื่อไทยลงลง’ ไปเกือบครึ่ง แต่ด้าน ‘เพื่อไทย’ ยังคงเชื่อว่าจะได้เก้าอี้ 230 – 250 เก้าอี้ ซึ่งแต่ละฝ่ายก็คำนวณจากการโดน ‘พลังดูด’ มาแล้ว และอิงกับ รธน.2560 ที่การเลือกตั้งจะต้องนำคะแนนเลือกส.ส.ในแต่ละพื้นที่มาคำนวณเก้าอี้ปาร์ตี้ลิสต์ด้วย

แต่ละฝ่ายต่างมี ‘โพลลับ’ ของตัวเอง ‘เช็คเรตติ้ง-ฐานเสียง’ อยู่ตลอด เพื่อจับทิศทางลม ซึ่งฝั่งพรรคเพื่อไทยก็เชื่อว่ายิ่ง คสช. ทอดระยะออกไป แต้มก็ตกมาที่พรรคเพื่อไทยมากขึ้น เพราะคนเบื่อหน่าย คสช. แต่ฝ่าย คสช. กลับมองว่าช่วงนี้เรตติ้งกำลังดี ถ้าเป็นเช่นนี้ คสช. ก็จะต้องรีบให้จัดเลือกตั้ง ซึ่งมีสัญญาณบวกจากการที่ คสช. จะคลายล็อค ก.ย.นี้
.
โดยในพื้นที่ภาคอีสานมีกระแสข่าวว่ามี ‘บิ๊กทหาร’ ทภ.2 เดินสาย ‘ดูดอดีตส.ส.’ ให้มาร่วมพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกจับตามองว่าเป็นฐานที่มั่นคสช.ในศึกเลือกตั้งในอนาคต เพื่อหนุน ‘บิ๊กตู่’ เป็น นายกฯอีกสมัย ซึ่ง ‘บิ๊กแบล็ค’พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ออกมาปฏิเสธชัดเจน ไม่มีทหารไปดูดอดีตส.ส.แน่นอน ซึ่งทหารกับนักการเมืองก็รู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว
.
แต่การออกมาของกลุ่มสามมิตร ใช่ว่าฝ่ายคสช. จะไว้วางใจ 100 % เพราะนักการเมืองก็เคยสร้างตำนาน ‘งูเห่า’ กันให้เห็นมาแล้ว ที่ผ่านมา ‘สามมิตร’ ถูกมองว่าทำทีมาหนุน ‘บิ๊กตู่’ เพื่อหาเรียกเรตติ้ง เรียกราคาเท่านั้น แต่จะจริงหรือไม่ ? ต้องจับตาว่า ‘สามมิตร’ จะร่วมลงเรือกับใครหรือไม่ ? โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกตีตราว่าเป็นพรรคนอมินีคสช. มาพร้อมข่าว ‘บิ๊กแบล็ค’ มทภ.2 ไฟเขียวให้ ‘สามมิตร’ เคลื่อนไหวเดินสายได้ในภาคอีสาน
.
“ไม่มีไฟเขียว เขาก็ดำเนินการในส่วนของเขา ถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลในการไปมาหาสู่การพบตามปกติ ทำกันอยู่แล้ว โอกาสพบปะพูดคุยมีหลายช่องทาง เพียงแต่ว่ามีการติดตามหรือใช้การประชาสัมพันธ์ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชน” แม่ทัพภาคที่ 2 แจง
.
ส่วนปรากฏการณ์ที่ ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ช่วงที่ผ่านมา ฝ่าย คสช. มองว่า เป็นเพียงการออกมาตามวงรอบเท่านั้น แม้แต่การที่ ‘ยิ่งลักษณ์’ ออกมา มีวาทะกับ ‘บิ๊กตู่’ เรื่อง ‘ปูแท้ – พ่อปู – แม่ปู’ และการถาม ‘บิ๊กตู่’ ว่า ยังจำคนชื่อนี้ (ยิ่งลักษณ์) ได้อยู่หรือ ? หลัง นายกฯ ทักคนชื่อ ‘ยิ่งลักษณ์’ ขณะลงพื้นที่ จ.ระนอง ชมว่าชื่อเพราะ ชื่อนายกฯ ไม่ได้ว่าใคร ทำให้ถูกแล้วกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเป็นเพียงการตอบโต้ตามปกติเท่านั้น

แต่น่าสนใจว่า เป็นการออกมาตอบโต้เพียงไม่กี่ครั้ง นับตั้งแต่ ‘ยิ่งลักษณ์’ หายตัวไปตั้งแต่ค่ำ 23ส.ค.2560 ครบ 1 ปีพอดี และการออกมาปรากฏกายของ ‘ยิ่งลักษณ์’ ก็เป็นเพียงการ ‘ปลุกฐานเสียง’ เท่านั้น ไม่ได้จะ ‘สู้’ หรือ ‘ท้าชน’ คสช.
.
อีกทั้งในเดือนก.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ สัญญาแล้วว่า จะประกาศอนาคตทางการเมืองจะ ‘อยู่ต่อ’ หรือไม่ ? ผ่านการลงเลือกตั้ง ปี2562 หากยึดตาม ‘ผลโพล’ ที่แต่ละฝ่ายจัดทำกัน เพื่อเช็คกระแสในพื้นที่ ก็เชื่อได้ว่าการที่ ‘บิ๊กตู่’ ระบุว่าประกาศอนาคตของตนเองออกมานั้น ก็ต้องมั่นใจแล้วว่าโอกาสชนะมากกว่าแพ้
.
งานนี้ จะมี ‘เสียของ’ ไม่ได้อีก !!
.
0000