“ศรีสุวรรณ” ร้องเมียยันลูก ล่าสุดยื่นป.ป.ช.ปม “ลูกบิ๊กติ๊ก” ได้รับเหมาโครงการกองทัพภาค 3 ถึง 7 โครงการ ขู่ยื่นศาลปกครอง หาก ป.ป.ช. เพิกเฉยกรณี “ผ่องพรรณ” ใช้เครื่องบินหลวงลงพื้นที่

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 22 กันยายน ที่สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. กรณีบุตรชายของพลเอกปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้จัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดรับเหมาก่อสร้าง ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ถึง 7 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 155 ล้านบาท โดยห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวจัดตั้งในปี 2555 ในระหว่างที่พล.อ.ปรีชาเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งเชื่อจะต้องเกี่ยวข้องกับพล.อ.ปรีชาแน่นอน เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนเพียง 1.5 ล้านบาทเท่านั้นและยังไม่มีประสบการณ์พอ แต่กลับผ่านการประมูลโครงการ จึงเห็นว่า เรื่องดังกล่าวอาจเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องนี้สังคมมีความครางแครงใจ จึงขอ ป.ป.ช. สอบสวนตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้ความจริงปรากฎ เพราะการที่บุคคลใกล้ชิดนักการเมือง หรือผู้มีอำนาจรัฐ ไปดำเนินโครงการที่ใช้ภาษีประชาชน เป็นเรื่องไม่ควร สังคมจะไม่ยอมรับและหากปล่อยให้มีเรื่องเหล่านี้อยู่ คสช.จะยึดอำนาจทำไม โดยเฉพาะในช่วงที่มีการปฏิรูป แม้จะมีการออกมาปฏิเสธ แต่ก็ไม่ควรปล่อยเรื่องนี้ไว้ รวมถึงการรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชันของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่พยายามโฆษณาชวนเชื่อ แต่กลับเกิดเรื่องกับคนที่ใช้นามสกุลเดียวกัน

เมื่อถามว่า มองอย่างไรต่อกรณีนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยาพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การใช้ทรัพย์สินของราชการแม้แต่บาทเดียวก็ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ โดยการนำเครื่องบินออก 1 ครั้ง มีมูลค่ามากกว่า 7,800 บาทแน่นอน ทั้งการเดินทางลงพื้นที่แต่ละครั้งต้องมีบุคลากรทางทหารออกมาต้อนรับดูแล แม้จะออกมาปฏิเสธอย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าเข้าข่ายความผิดของ ป.ป.ช.แล้ว ดังนั้นหาก ป.ป.ช.ไม่รับเรื่องนี้ไว้พิจารณา ก็ยังมีช่องทางการนำเรื่องดังกล่าวฟ้องร้องต่อศาลปกครอง