ทลายแก๊งคอลฯเครือข่าย’เฉินหยวนไข่’กลางพนมเปญ พบคนไทย 25 คนร่วมแก๊ง สูญ 100 ล.

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท., พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท., พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย จว.พังงา ภ.8, พ.ต.อ.อนุชา สุทธยดิลก ผู้ช่วยทูตตำรวจ ประจำประเทศกัมพูชา

พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เข้าพบรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการหน่วยรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนของกัมพูชา เพื่อร่วมหารือแนวทางการทำงาน หลังพบเบาะแสว่ามีการตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกลวงคนไทย มูลค่าความเสียหายนับ 100 ล้านบาทในกัมพูชา ต่อมา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์บูรณาการกำลังร่วมกับทางการกัมพูชาเข้าทลายเครือข่ายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ 3 จุด

โดยจุดแรก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ พ.ต.อ.อาชยน พ.ต.อ.พนัญชัย พ.ต.อ.นิธิธร นำกำลังตำรวจไทยและตำรวจกัมพูชาเข้าตรวจสอบโรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่งกลางกรุงพนมเปญ จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์และคนเฝ้าดูแลชาวกัมพูชาจำนวน 2 คน โดยพบอุปกรณ์ซึ่งประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอกสารบัญชีรายชื่อ ซึ่งถูกบันทึกไว้ว่ามีการโทรเข้า-ออกจำนวนมาก

ต่อมาขยายผล เข้าจุดที่ 2 ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 3 กม. เป็นบ้านเช่าหรูขนาดใหญ่ พบผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 4 คน คนไทย 25 คน และกัมพูชา 3 คน พร้อมอุปกรณ์ ประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอกสารบัญชีรายชื่อ ซึ่งถูกบันทึกไว้ว่ามีการโทรเข้า-ออก คล้ายกับจุดแรกอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน

และจุดที่สาม พ.ต.อ.สถิตย์ พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รอง ผกก.สส.บก.น.1 สนธิกำลังเข้าตรวจสอบ บ้านหลังหนึ่ง ณ เมืองกัมปงโสม หรือเมืองพระสีหนุ พบผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 2 คน ชาวไทย 1 คน โดย 2 ใน 3 คนมีหมายจับอยู่ในประเทศไทยด้วย จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์ในลักษณะเดียวกัน พร้อมเหยื่อซึ่งเป็นคนไทยอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ พบว่าคนไทยที่ถูกจับกุม ซึ่งกำลังทำหน้าที่โทรศัพท์หลอกเหยื่อ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย เบื้องต้นพบว่าคนไทยทั้งหมดมีทั้งส่วนที่เป็นผู้ร่วมขบวนการโดยสมัครใจ และบางส่วนก็ถูกบังคับให้ทำหน้าที่ โดยกักขังไว้ ทั้งให้เสพสารเสพติด บ้างก็ทำร้ายร่างกายเมื่อมีการขัดขืน

รายงานข่าวกล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนพบว่าขบวนการคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวเป็นเครือข่ายของนายเฉิน หยวน ไข่ ชาวไต้หวัน และกลุ่มชาวมาเลเชีย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยตั้งถิ่นฐานที่ประเทศไทย ก่อนที่จะถูกทางการไทยจับกุมตัวได้ ต่อมาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ซึ่งหลังจากการได้ประกันตัวได้หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลบหนีการจับกุม จนมาตั้งฐานที่มั่นในกรุงพนมเปญและกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อทำคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงชาวไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า กัมพูชาเป็นประเทศต้นทางที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ตั้งฐานปฏิบัติการ โดยร่วมมือกับชาวไต้หวัน จีน และมาเลเซีย บังคับคนไทยมาเป็นพนักงานเพื่อหลอกลวงคนไทยด้วยกัน หากใครปฏิเสธก็จะกักขังและทำร้ายร่างกาย ซึ่งพฤติการณ์ก็ไม่ต่างจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศมาเลเซีย