เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาและอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน มอบอำนาจให้ นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ เดินทางมายื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายภาษิต อภิญญาวาท, น.ส.พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ และบริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด หรือช่อง 33 HD เป็นจำเลยที่ 1-4 ในข้อหาหรือฐานความผิดละเมิด จากการดำเนินรายการ “ชูวิทย์มีเรื่องเล่า” ออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 33 HD โดยให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป

และอีกสำนวน ยื่นฟ้องนายชูวิทย์, น.ส.อรชพร ชลาดล และบริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด หรือช่องไทยรัฐทีวี 32 เป็นจำเลยที่ 1-3 ในข้อหาหรือฐานความผิดละเมิด จากการดำเนินรายการ “ชูวิทย์ตีแสกหน้า” ออกอากาศทางช่อง 32 ไทยรัฐทีวี  โดยให้จำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป

นายอุดม เปิดเผยว่า การฟ้องคดีนี้เนื่องจากการออกอากาศทั้ง 2 รายการดังกล่าว มีการกล่าวพาดพิงทำให้ประชาชนเข้าใจว่านายยงยุทธ เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด หรือสิงห์เชียงรายยูไนเต็ด มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน หรือการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความเท็จ ทำให้นายยงยุทธได้รับความเสียหาย โดยที่นายยงยุทธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรฟุตบอลสิงห์ เชียงรายยูไนเต็ดแต่อย่างใด และไม่เคยร่วมกับบุคคลใดทำการฟอกเงินหรือปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้นายยงยุทธได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก แก้ไขกลับคืนมาได้ยาก นายชูวิทย์กับพวกจึงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และขอให้สื่อยืนบนความถูกต้องยุติธรรม ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของสื่อเอง ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อนเสนอข่าว มิฉะนั้นจะเสียเวลามาขึ้นศาลเพราะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี

นายอุดม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบเรื่องของภาษีการซื้อขายที่ดินของอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครทว่ามีการชำระภาษีถูกต้องหรือไม่ และตนยังได้รับมอบหมายจากนายยงยุทธให้ไปดูเรื่องที่ดินแถวสุขุมวิท ซอย 10 ที่นายชูวิทย์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปพัฒนาเป็นที่สาธารณประโยชน์ให้กับประชาชนว่าทำไปถึงขั้นตอนไหนอย่างไร หรือนำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์อื่นหรือไม่ ขอฝากให้สื่อติดตามเรื่องนี้ด้วย ส่วนคดีที่ฟ้องวันนี้นั้น คดีแรกที่ฟ้องช่อง 3 ศาลนัดพร้อมคู่ความ ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2561 ส่วนคดีที่สองที่ฟ้องช่องไทยรัฐทีวี ศาลนัดพร้อมคู่ความในวันที่ 28 พฤษภาคม 2561