แพทองธาร มั่นใจ เศรษฐา ไม่หลุดเก้าอี้-ได้ทำหน้าที่ต่อ ยังไม่พร้อมรับตำแหน่งนายกฯ เหตุคิดว่าไม่จำเป็น-ยังไม่เตรียมชื่อ รมต. สำรองแทน ‘พิชิต’

แพทองธาร มั่นใจ เศรษฐา ไม่หลุดเก้าอี้-ได้ทำหน้าที่ต่อ ยังไม่พร้อมรับตำแหน่งนายกฯ เหตุคิดว่าไม่จำเป็น-ยังไม่เตรียมชื่อ รมต. สำรองแทน ‘พิชิต’

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 ที่กระทรวงการต่างประเทศ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ 40 สว. ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ เนื่องจากแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีโดยขาดคุณสมบัติว่า

ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือปรับครม. นอกจากนายกรัฐมนตรีจะดูเรื่องความรู้ความสามารถแล้ว ยังดูเรื่องของคุณสมบัติด้วยอย่างถี่ถ้วน จึงคิดว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของแผนสำรองนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะนายกรัฐมนตรียังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ และยังคงสู้ในเรื่องของเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนต่อไป

เมื่อถามว่าคิดว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ เพราะนายพิชิตเคยใช้คำว่าเรื่องนี้เป็นวงจรอุบาทว์ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การตรวจสอบต้องเป็นไปตามกลไกอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มองว่าเป็นการวางยานายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร กล่าวย้ำว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไก ถ้าคิดว่าเป็นการวางยา ยาอะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน ทุกอย่างต้องเข้าระบบ ไม่เช่นนั้นประเทศก็จะไปต่อไม่ได้

เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายประเมินว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาจกลับมาเป็นของ น.ส.แพทองธาร ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกคนของพรรค มีความพร้อมหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยอมรับไม่ได้เตรียมความพร้อมเรื่องนี้เลย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น นายเศรษฐายังปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และตนยังเป็นหัวหน้าพรรค เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ ตนก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า พรรค พท.เตรียมรายชื่อผู้ที่จะมารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนายพิชิต เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ออกมาอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ครม. ขอให้ไปถามนายกรัฐมนตรีเอง ทั้งนี้ มั่นใจว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นคุณต่อนายเศรษฐา และมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ