| เผยแพร่ |
|---|
สส.ปทุมฯ โต้ ผบ.ทอ. ลั่นทำ public space ได้มากกว่าสนามกอล์ฟ สร้างงาน-เศรษฐกิจชุมชน คนส่วนใหญ่ได้ใช้ประโยชน์มากกว่าแค่นายพลเกษียณ ยัน คนทำงานสนามกอล์ฟไม่ตกงาน ปทุมธานีสนามกอล์ฟเอกชนเยอะ ถ้าจะอยู่ที่เดิมก็ปรับสถานะมาเป็น พนง.อบจ.ดูแลพื้นที่ได้
กรณีกรรมาธิการทหาร เสนอให้นำสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกองทัพอากาศ และเป็นที่ราชพัสดุ นำกลับมาทำพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์มากกว่าแค่ทำสนามกอล์ฟสวัสดิการทหารอากาศ
ต่อมาพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) แสดงความเห็นว่า ยอมรับว่าเป็นห่วงในสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ เพราะถ้าต้องส่งคืนจะมีคนตกงาน 2,000 คน
ทำให้นายเชตวัน เตือประโคน รองประธานกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนฯ และ สส.ปทุมธานี เขียนข้อความแสดงความเห็นว่า “พื้นที่สาธารณะ (public space)” สร้างงาน-เศรษฐกิจชุมชน ได้มากกว่าสนามกอล์ฟธูปะฯ โดย ระบุว่า
ผมคาดไว้แล้วว่าจะมีเหตุผลที่ยกเอาประชาชนมาเป็นเกราะกำบังนี้ ในการตอบโต้เรื่อง “เปลี่ยนสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์เป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชน”
ดังนั้น ในการอภิปรายสรุปญัตติ ผมจึงกล่าวและเสนอไว้ตอนหนึ่งว่า “ก่อนอื่นอาจต้องถามกลับหน่อยว่า การจ้างงานในลักษณะรายวันแบบนี้ ถ้ามาทำงานก็ได้เงิน ออกรอบก็หวังว่าจะได้ทิป นั้นเป็นงานที่มีมั่นคงแล้วเหรอ ? สวัสดิการควรต้องดีกว่านี้หรือไม่ ?
”ดังนั้น ข้อเสนอของผมก็คือ ก็เอาแคดดี้นี่แหละมาเป็นพนักงานของ อบจ.มีเงินเดือน มีหน้าที่ มีวันเวลาทำงานชัดเจนสำหรับการดูแล ‘public space‘ มาที่จะเกิดขึ้น“
ผมไม่แน่ใจว่าตัวเลข 2,000 คนที่ยกมานี้ อ้างอิงจากอะไร? ใครบ้าง?
ทำไมสนามกอล์ฟที่บอกว่าเป็น “สวัสดิการภายใน” มีนายทหารและคนนอกมาใช้บริการนิดหน่อยตามที่กล่าวอ้าง ต้องใช้คนทำงานมากถึง 2,000 คน เอาคนไปทำอะไรมากหมายขนาดนั้น?
สนามกอล์ฟที่เป็นทั้ง “รีสอร์ท แอนด์ สปา” ใหญ่กว่านี้ ยังใช้คนไม่ขนาดนี้เลย!
นี่ยังไม่นับคำถามที่ว่าจ้างใคร? เป็นทหารด้วยกันเองหรือคนนอก? เพราะถ้าเป็นทหารก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตกงาน แต่ถ้าคนนอก อาชีพเกี่ยวกับสนามกอล์ฟไม่ได้หางานยาก และในละแวก จ.ปทุมธานี ก็มีหลายสนามของเอกชน
ทั้งนี้ การสร้าง Public Space ไม่ใช่การเอาที่ดินเปล่ามาตั้งไว้เฉย ๆ แต่การออกแบบ Public Space ที่ดีจะช่วยสร้างเศรษฐกิจในชุมชนและช่วยสร้างงานด้วยซ้ำ มีตัวอย่างที่ดีๆ ที่ประสบความสำเร็จเยอะแยะมากมากมาย ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ผิดที่เราจะเอาเยี่ยงอย่าง
ในกรณีของสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์หากเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ แน่นอนว่าก่อนถึงจุดนั้นก็ต้องมีการดูแลชดเชย ในส่วนของผู้ที่บอกว่า “ตกงาน”
และสำหรับเราในส่วนคนที่พร้อมปรับอาชีพ เราสามารถจ้างงานคนเหล่านี้มาดูแล Public Space ได้ มาทำสวน รดน้ำ ตัดแต่งกิ่ง เปิดร้านอาหาร ร้านน้ำ ทำงานในยิม ในร้านจักรยาน ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย
ได้ตำแหน่งงานเพิ่ม และสร้างเศรษฐกิจในชุมชนเพิ่มได้ด้วยซ้ำ!
เพราะ Public Space นั้น คนในชุมชนเข้าถึงได้มากกว่าสนามกอล์ฟ ที่ ผบ.ทอ. ก็พูดเองว่า “ส่วนใหญ่มีแต่นายพลเกษียณมาเล่น”
ทุกการเปลี่ยนแปลง ย่อมมีคนได้รับผลกระทบ (ซึ่งต้องได้รับการดูแล) แต่ทั้งหมดทั้งมวล ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์คนส่วนใหญ่ ครับ
