เยอรมันวุ่น! “แมร์เคิล” เหลวตั้งรบ.ผสม ฉุดยูโรร่วง-ส่อเลือกตั้งใหม่?

German Chancellor and leader of the Christian Democratic Union (CDU) party, Angela Merkel, speaks after exploratory talks on forming a new government broke down on November 19, 2017 in Berlin. Tough talks to form Germany's next government stretched into overtime, putting Chancellor Angela Merkel's political future in the balance since failure to produce a deal could force snap elections. / AFP PHOTO / Tobias SCHWARZ

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า สถานการณ์การเมืองในเยอรมนี ชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่สุดของยุโรป ตกอยู่ในห้วงวิกฤต หลังการเจรจาตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่ายของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงเยอรมนี ประสบความล้มเหลว ที่ยังส่อเค้าให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการจัดเลือกตั้งทั่วไปขึ้นใหม่เกิดขึ้น ขณะที่ส่งผลฉุดค่าเงินยูโรให้ร่วงลงไปแล้ว

ความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลผสมของนางแมร์เคิลเกิดขึ้นหลังจากพรรคฟรีเดโมแครต(เอฟดีพี) ถอนตัวออกจากการเจรจามาราธอน ร่วมกับพรรคพันธมิตรซีดียู-ซีเอสยู นำโดยนางแมร์เคิล และพรรคกรีนส์ ที่ดำเนินมานานกว่า 4 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากมีความเห็นไม่ลงรอยกันในหลายประเด็นสำคัญ อาทิ นโยบายการอพยพเข้าเมืองและประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม

เอเอฟพี

รายงานค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเงินเยนในรอบ 2 เดือน เป็นปฏิกิริยาของตลาดเงินที่มีขึ้นในทันทีหลังจากนายคริสเตียน ลินด์เนอร์ หัวหน้าพรรคเอฟดีพี ประกาศถอนตัวออกจากการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยให้เหตุผลว่าไม่มีสามารถหาจุดยืนร่วมกันได้ในหลายเรื่อง

รอยเตอร์

ขณะที่นางแมร์เคิลที่สภาพดูอิดโรยกล่าวยืนยันว่าเธอจะนั่งรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป และจะปรึกษาหารือกับนายฟรังค์-วัลเทอร์ สไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมนี เพื่อหาทางเดินหน้าในเรื่องนี้ต่อไป

“ในฐานะนายกรัฐมนตรีฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าประเทศชาติจะได้รับการบริหารจัดการที่ดีในช่วงเวลาอันยากลำบากที่จะเกิดขึ้น

ข่าวแจ้งว่า การล้มเหลวในการเจรจาตั้งรัฐบาลของนางแมร์เคิล ส่งผลให้เยอรมนีมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง คือ การจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือ ให้ประธานาธิบดีประกาศจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่หากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

นายคริสเตียน ลินด์เนอร์ หัวหน้าพรรคเอฟดีพี (รอยเตอร์)

การสั่นคลอนอำนาจที่แข็งแกร่งในช่วง 12 ปีที่ผ่านมาของนางแมร์เคิล เกิดขึ้นหลังจากนางแมร์เคิลนำพรรคซีดียู-ซีเอสยูชนะเลือกตั้งทั่วไปที่มีขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาไม่ได้อย่างเด็ดขาด เหตุจากความไม่พอใจของชาวเยอรมนีส่วนใหญ่ที่มีต่อนโยบายเปิดรับผู้อพยพของรัฐบาลแมร์เคิลในปี 2558 ที่ทำให้มีผู้อพยพไหลบ่าเข้ามาในประเทศเยอรมนีแล้วกว่า 1 ล้านคน โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงโทษนางแมร์เคิลด้วยการโหวตให้กับพรรคเอเอฟพี ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ขณะที่พรรคเอสดีพี ที่เคยร่วมในรัฐบาลผสมที่นางแมร์เคิลพยายามที่จะโน้มน้าวให้จับมือเป็นพันธมิตรกันอีก แต่แกนนำระดับสูงของพรรคเอสดีพีย้ำว่าด้วยเสียงสนับสนุนที่ได้จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเพียงน้อยนิด พรรคควรจะเป็นฝ่ายค้าน