เผยแพร่ |
---|
‘สุทิน’ อัด รบ. ทำสับสนปม ‘กม.อุ้มหาย’ ชี้เป็นผู้เริ่มเองแล้วจบเอง ทำฝ่ายค้านงง แนะ อย่าเอาสภาเป็นของเล่น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ว่า ล่าสุดขณะที่มีการอภิปรายมี ส.ส.รัฐบาลเข้าชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งหากประธานสภารับ การอภิปรายต้องหยุดลง รอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ฉะนั้น กฎหมายฉบับนี้ก็จะค้างสภา และทำให้ พ.ร.ก.ที่ออกมามีผลบังคับใช้ต่อไป จนกว่าศาลจะวินิจฉัยชี้ขาด หมายความว่าสิทธิ เสรีภาพของประชาชนที่เคยถูกคุ้มครองก็จะหายไป ทั้งนี้ สิ่งที่แปลกประหลาดและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น คือ เรื่องนี้เริ่มต้นจากรัฐบาล สับสนโดยรัฐบาล และจบโดยรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดและไม่น่าเกิด แสดงว่าเอากระบวนการนิติบัญญัติหรือนิติวิธีของสภามาเป็นของเล่น เราในฐานะฝ่ายค้านก็สับสนด้วย
“เราคิดว่าคุณเสนอกฎหมายมา คุณก็ต้องผลักดันกฎหมายคุณ แต่ที่ไหนได้คุณกลับยับยั้งกฎหมายของคุณเอง แสดงว่ารัฐบาลสับสนในตนเองอย่างหนัก ในรอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ฉะนั้นจึงขอตำหนิท่านนายกฯ และฝ่ายกฎหมายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และ ส.ส.รัฐบาลทุกคน ไม่น่าทำให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหมายความว่ากฎหมายนี้ไม่ทันพิจารณาในสมัยประชุมนี้ เพราะเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาพิจารณาไปสักระยะ ฉะนั้น จึงต้องข้ามไปสมัยหน้า อย่างไรก็ตาม เรื่อง พ.ร.ก.เป็นกฎหมายที่หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรออก การออกกฎหมายควรออกโดยกระบวนการของประเทศที่สมบูรณ์ คือผ่านการพิจารณาของทั้ง 2 สภา 6 วาระ แต่ พ.ร.ก.ที่รัฐบาลออกเอง ต้องออกในวาระที่จำเป็นที่สุด และรอบคอบที่สุด และคุณต้องรับผิดชอบสูงสุดหากเกิดอะไรผิดพลาด ฉะนั้น วันนี้ผมคิดว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณคิดมาและคิดผิด คือลาออกแล้วยุบสภา และผมคิดว่ารัฐบาลก็คิดเป็นของเล่นอีกว่า ลาออกแล้วยุบสภาวันนี้ไม่มีประโยชน์ อย่างไรก็จะไปอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ฉันจะทำอะไรก็ทำได้ ทั้งนี้ นายกฯและรัฐบาลชุดนี้ ทำให้สภาเสียหายมาจนถึงนาทีสุดท้าย” นายสุทินกล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมีวิธีการแก้เกมอะไรแล้วหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า เราคงทำอะไรไม่ได้ เมื่อไปถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว มีวิธีเดียวคือต้องรอ ซึ่งเราก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเขาจะล้มกฎหมายของเขาเองด้วยวิธีใด เช่น การไม่เป็นองค์ประชุม หรืออาจจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับเขา ทั้งนี้ เรื่องนี้เราทำอะไรไม่ได้ ลำบากอยู่