ทนายทักษิณ ถาม “ชวน” ใครกันแน่ทำให้คดี “ล่าช้า” เกือบจะ 10 ปี

ทนายนรวิชญ์ ถาม “ชวน” ใครกันแน่ทำให้คดี “ล่าช้า” เกือบจะ 10 ปี

จากกรณี นายชวน หลีกภัย ได้แถลงข่าว ต่อหน้าสื่อมวลชนที่รัฐสภา ภายหลังตกเป็นจำเลย ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายชวนหลีกภัย ในความผิด หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ดร.ทักษิณ ชินวัตร นั้นโดยนายชวน หลีกภัย ได้แถลงว่า “ รู้ว่าคดีจะขาดอายุความ จึงมอบหมายให้ นายราเมศฯ ทนายความ ช่วยประสานตำรวจ และอัยการเพื่อให้ฟ้องคดี เพื่อมิให้คดีขาดอายุความ หากคดีขาดอายุความ องค์กรตำรวจ และอัยการจะเสียหายได้ ตนยึดหลักในความเคารพกฎหมาย และทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมสู้คดี” นั้น

ทนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง กล่าวว่า ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในการแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อเอาผิดกับ นายชวน หลีกภัย ในข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ดร.ทักษิณ ชินวัตร ” ซึ่งคดีนี้ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลวัดพญาไกรมาตั้งแต่ปี 2555 นับถึงเวลานี้ เป็นเวลาจะเกือบ 10 ปี

ทนายนรวิชญ์ กล่าวว่า ต้องย้อนถามนายชวน หลีกภัย ว่า “ใครกันแน่ที่ทำให้คดีล่าช้า มาเป็นเวลา 10 ปี ” และถามอีกว่า “ได้ยึดหลักในความเคารพกฎหมาย และได้อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมสู้คดี จริงหรือไม่


ความจริง ต้องให้ความเป็นธรรมกับองค์กรตำรวจและอัยการ เพราะนับแต่ผมในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในการแจ้งความร้องทุกข์คดีนี้แล้ว ผมได้ติดตามคดีนี้มาโดยตลอด จึงได้ทราบว่า ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน ได้มีหมายเรียกให้นายชวน หลีกภัย มารับทราบข้อกล่าวหามาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่นายชวน หลีกภัย ไม่ได้มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก จนเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ
การที่นายชวน หลีกภัย ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกดังกล่าว จึงทำให้พนักงานสอบสวน ไม่สามารถนำตัวนายชวน หลีกภัย ในฐานะผู้ต้องหาส่งให้กับพนักงานอัยการ เป็นผลให้พนักงานอัยการไม่สามารถนำตัวนายชวน หลีกภัย ในฐานะจำเลยส่งฟ้องต่อศาลได้ จึงเป็นเหตุให้คดีล่าช้ามาถึงเกือบจะ 10 ปี ผมเป็นทนายความและทำคดีมา จะ 30 ปี ยังไม่เคยเห็นคดีใหนล่าช้าเท่าคดีนี้ ถ้าเป็นคดีชาวบ้านธรรมดาๆ คดีคงจบไปนานแล้ว

ทนายนรวิชญ์ กล่าวว่า ต้องถามนายชวน หลีกภัย ว่า นายชวนอ้างว่า ตนยึดหลักในความเคารพกฎหมาย และอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน และพร้อมสู้คดี แต่เหตุใด นายชวน หลีกภัย จึงไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกทั้ง 4 ครั้งดังกล่าว” “คงไม่ตอบผมนะครับว่า ไม่ได้รับหมายเรียก” อย่างนี้จะถือว่า “ นายชวน ได้ยึดหลักในความเคารพกฎหมาย และอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน และพร้อมสู้คดี ตามที่พูด หรือไม่
และการที่คดีล่าช้าเกือบจะถึง 10 ปี สาเหตุมาจากการที่นายชวน หลีกภัย ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ใช่องค์กรตำรวจ หรืออัยการทำคดีล่าช้า ใช่หรือไม่

ส่วนที่นายชวน หลีกภัย อ้างว่า “เห็นว่าคดีอีก 3 วันคดีจะขาดอายุความจึงได้ขอให้ตำรวจ และอัยการ ยื่นฟ้องตนต่อศาล” นั้น
ทนายนรวิชญ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ผมก็มีคำถามว่า “ นายชวน หลีกภัย ในฐานะผู้ต้องหา หรือจำเลย เอาอำนาจอะไรไปสั่งให้ องค์กรตำรวจ และอัยการ ฟ้องคดีนี้ ทั้งที่การพิจารณาของพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ ในการจะสั่งฟ้อง หรือไม่ฟ้องคดีในคดีใดๆนั้น ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน และข้อกฎหมายเป็นสำคัญ ไม่ใช่ทำตามคำสั่งของใคร และที่สำคัญต้องไม่ตามคำสั่งของผู้ต้องหา หรือจำเลย

การที่นายชวน หลีกภัย พูดเช่นนี้ ถือว่า องค์กร ตำรวจ และอัยการเสียหาย และทำให้ประชาชนสับสน องค์กรตำรวจ และอัยการ ต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้ให้กระจ่าง

ท้ายนี้ฝากเป็นข้อคิดทุกท่าน “ อย่าพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่น “