ผบ.ทบ. ยันปมหักหัวคิวเงินกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ ไม่เกี่ยวองค์กร เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไปตกลงกันเอง

“ผบ.ทบ.” ไม่กังวลปัญหากู้ซื้อบ้านสวัสดิการ ย้ำเรื่องส่วนบุคคลที่ไปตกลงกันเอง ไม่เกี่ยวองค์กร เหตุ ทบ.ไม่ได้สร้าง ลงโทษคนเกี่ยวไปหมดแล้ว

 

วันที่ 20 ต.ค. 2565 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการกู้เงินซื้อบ้านกับสวัสดิการกองทัพบก ภายหลังผู้ประกอบการยื่นหนังสือที่กระทรวงกลาโหมว่า เรื่องเงินกู้ใน โครงการกู้ยืมออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก (อทบ.) เพื่อการเคหะสงเคราะห์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ ในส่วนของกองทัพบกได้สอบสวนเรียบร้อยแล้ว เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นหลายปีก่อน ขณะนี้กองทัพบกกำลังรวบรวมรายละเอียด เพื่อรายงานไปยังกระทรวงกลาโหม

จากที่กองทัพบก สอบสวนพบว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่องค์กรหรือหน่วยงานเป็นผู้กระทำ ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ร้องเรียน ทั้งในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมีการดำเนินคดีในขั้นตอนของศาลแล้ว ถือเป็นเรื่องการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งกองทัพบกพร้อมสนับสนุนข้อมูลเพิ่มเติม

พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวถึงนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำผู้ประกอบการที่มีปัญหาการกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ ร้องเรียนกระทรวงกลาโหมถูกคุกคามว่า หากเป็นเรื่องจริง เขาต้องไปแจ้งความดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ หากระบุได้ว่ากำลังพลคนไหนคุกคามและมีหลักฐาน ก็ให้มายื่นที่กองทัพบก ตนจะให้ความเป็นธรรม และดำเนินการกับกำลังพลคนนั้น

เมื่อถามว่าทนายและผู้ประกอบการมีรายชื่อของผู้เสียหายและรายชื่อผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการหักหัวคิว พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ให้นำรายชื่อเหล่านี้ไปให้ดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งตนก็ไม่เห็นว่ามีใครบ้าง เพราะในส่วนของตน ก็สอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้อง และถ้าเรื่องดังกล่าวถึงขั้นฟ้องศาลก็เป็นเรื่องของเขา กองทัพบกก็จะใช้โอกาสนั้นชี้แจง

ส่วนที่อ้างว่ามีทหารประมาณ 40 กว่าคนเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น คำว่าทหารในส่วนของกองทัพบก ก็ดำเนินการในส่วนของกองทัพบก หากเป็นทหารในส่วนอื่น ส่วนที่เกี่ยวข้องก็ไปดำเนินการ สำหรับที่บอกว่า 40 คนได้ดี ได้เลื่อนยศขึ้นนั้น ขอถามว่าคนไหน ตนยังไม่ทราบ เพราะไม่เห็นรายชื่อก็บอกไม่ได้ ต้องดูว่ารายชื่อที่เขากล่าวอ้างนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ เราต้องว่ากันตามหลักฐาน ไม่ใช่การกล่าวหา

เมื่อถามว่าผบ.ทบ.ยืนยันได้หรือไม่ได้หัก 5 เปอร์เซ็นต์เข้ากรมสวัสดิการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าโครงการบ้าน กองทัพบกไม่ได้เป็นผู้สร้าง แต่ อทบ.ของกองทัพบก มีไว้ให้กำลังพลมากู้เงินและไปซื้อบ้าน ฉะนั้น เป็นการตกลงกันระหว่างคนซื้อ กับเจ้าของโครงการ ไม่ใช่ว่ากองทัพบกเป็นผู้สร้างขึ้นมา

เมื่อถามว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะกำลังพลต้องกู้เงินไปซื้อบ้านเรื่อยๆ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่มีแล้ว เรายอมรับว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่โครราช กองทัพบกได้รับทราบว่ามีปัญหา และพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ในขณะนั้นก็บอกว่า โครงการนี้เราต้องยุติ เพราะมีปัญหา ก็ยุติมาตั้งแต่ปี 2564 และมีการผ่านคณะกรรมการฯ ที่พล.อ.อภิรัชต์ ก่อนที่ท่านจะเกษียณ ได้เซ็นเอ็มโอยู กับธนาคาร อย่างที่ตนบอกว่าโครงการบ้านเหล่านี้ กองทัพบกไม่ได้เป็นคนสร้าง เป็นคนภายนอก กำลังพลต้องไปกู้กับธนาคาร ซึ่งขณะนี้ไม่มีการกู้กับกองทัพบกมาตั้งแต่ต้นปี 2564

เมื่อถามว่าทหารที่เกี่ยวข้องที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ มีกี่คน และมีรายชื่อใดบ้าง ผบ.ทบ. ยืนยันว่ามีการลงโทษไปแล้วหลายคน ที่เกี่ยวข้องกับ กองทัพบกและยังรับราชการในกองทัพบก และจะทำรายงานไปถึงกลาโหม ซึ่ง กระทรวงกลาโหม ต้องไปดูว่าในส่วนของกองทัพบกดำเนินการอย่างไร กรณีทหารในส่วนอื่นๆ เป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม จะดำเนินการ

เมื่อถามว่าต้องแก้ไขระเบียบหรือไม่ เพราะการลงโทษสถานเบา แค่ให้งดบำเหน็จและเอาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เราดำเนินการว่าด้วยระเบียบ กฎหมายของทหารในเวลานั้น ส่วนในอนาคตจะต้องมาพิจารณาเป็นเรื่องๆ เพราะระเบียบกฎหมายของทหาร มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนตามห้วงเวลาอยู่แล้วเพื่อให้ทันต่อสภาพแวดล้อม

เมื่อถามว่านายกฯได้กำชับอะไรหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ ของทุกองค์กรที่จะต้องมีปัญหา และเมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ไขให้ได้ แค่นั้นเอง ไม่ใช่ว่าองค์กรเป็นคนทำ ยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไปตกลงกันเอง ส่วนที่คณะกรรมาธิการทหาร จะเชิญไปชี้แจงนั้น ตนจะให้หน่วยที่รับผิดชอบไปชี้แจง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้รู้สึกกังวลในกรณีที่เกิดขึ้น