ยูเครน รุกยืดคืนหมู่บ้านหลายแห่งทางใต้ กลาโหมรัสเซีย เผยมากกว่า 2 แสนคนเข้าร่วมกองทัพ

(Photo by Anatolii Stepanov / AFP)

ยูเครน ยืดคืนหมู่บ้านหลายแห่งทางใต้ – แผนที่กลาโหมรัสเซียยืนยันความพ่ายแพ้ กลาโหมรัสเซีย เผยมากกว่า 2 แสนคนเข้าร่วมกองทัพ ในการระดมพลบางส่วน

วันที่ 5 ต.ค. บีบีซี รายงานความคืบหน้าของสงครามใน ยูเครน ว่า กองกำลังยูเครนปลดปล่อยหมู่บ้านดาวีดิฟบริด หมู่บ้านสำคัญ ในแคว้นเคียร์ซอน ทางใต้ของประเทศ นับเป็นการเร่งให้กองกำลังรัสเซียล่าถอยอีกครั้ง

กระทรวงกลาโหมยูเครนโพสต์วิดีโอเผยกองพลนาวิกโยธินที่ 35 ชักธงชาติยูเครนเหนือหมู่บ้านดาวีดิฟบริด ท่ามกลางรายงานกองกำลังยูเครนยึดคืนหมู่บ้านใกล้เคียงอื่นๆ อีกหลายแห่งเช่นกัน หลังกองกำลังรัสเซียจำต้องล่าถอยในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนไปแล้ว และตอนนี้กำลังถูกผลักดันกลับในพื้นที่ทางใต้เช่นกัน

การล่าถอยมีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน มีกำหนดลงนามบังคับใช้กฤษฎีกาผนวก 4 แคว้นยูเครนที่รัสเซียยึดครองบางส่วนได้แก่ แคว้นเคียร์ซอน แคว้นลูฮันสค์ แคว้นโดเนตสค์ แคว้นซาโปริฌเฌีย แม้ว่าสงครามใน 4 พื้นที่ทั้งหมดยังกระหน่ำ

การผนวกดินแดนดังกล่าวไม่มีความชอบธรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ประกาศเป็นโมฆะ ล่าสุด ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พูดคุยกับประธานาธิบดีเซเลนสกี เมื่อวันอังคารที่ 4 ต.ค. และให้คำมั่นว่า สหรัฐจะไม่มีวันรับรองการผนวกดินแดน และยังหารือการจัดสรรความช่วยเหลืออีก 625 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (23,000 ล้านบาท) แก่ยูเครน รวมถึงเครื่องยิงจรวดไฮมาร์ส

รัสเซียยังควบคุมเมืองเคียร์ซอน เป็นเมืองหลักของแคว้นเคียร์ซอน แต่การยึดครองพื้นที่ทั้งหมดทางเหนือของแม่น้ำดนีเปอร์ (หรือ “ดนีโปร” ในภาษายูเครน) หลังในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนเคลื่อนพลไปทางใต้ตามริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ และตอนนี้กองกำลังรัสเซียจำต้องล่าถอยออกจากพื้นที่หลายแห่งทางเหนือของแคว้นเคียร์ซอนเช่นกัน

นายเซเลนสกีแถลงเมื่อวันอังคารที่ 4 ก.ย. ว่า หมู่บ้านลูย์บีมิฟคา, เครเชนิฟคา, โซโลตา บัลคา, บีเลียอิฟคา, อูไครนคา, เวลีคา โอเล็คซานดริฟคา และมาลา โอเล็คซานดริฟคา ได้รับการปลดปล่อยเช่นกัน ขณะที่นายเยฟเฮน เอนิน รองรัฐมนตรีกิจการภายในยูเครน ระบุว่า ยึดคืน 50 เมืองและหมู่บ้าน และปลดปล่อยประชาชน 3,500 คน ในเคียร์ซอน แต่ไม่ได้บอกถึงช่วงใด

ต่อมา กระทรวงกลาโหมยูเครนระบุว่า กองกำลังรัสเซียเสียขวัญและพยายามทำลายสะพานเพื่อพยายามชะลอการรุกคืบของยูเครน แต่นายคีริลล์ สเตรเมอูซอฟ เจ้าหน้าที่ที่รัสเซียแต่งตั้งในเคียร์ซอนระบุกับชาวบ้าน “ไม่มีเหตุผลต้องตื่นกลัว”

วันเดียวกัน ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแผนที่ใน การแถลงข่าวประจำวัน เมื่ออังคารที่ 4 ต.ค. ยืนยันการพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของรัสเซียในแคว้นเคียร์ซอน เป็นการยืนยันรายงานก่อนหน้านี้จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัสเซีย ตลอดจนนักวิเคราะห์ทหารโปรรัสเซีย ถึงการรุกคืบครั้งสำคัญเข้าสู่เมืองเคียร์ซอน ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนีโปร

อย่างไรก็ตาม พล.ท.อีกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกลาโหมรัสเซีย ไม่ได้ระบุความพ่ายแพ้ของรัสเซีย แต่ระบุว่า กองทัพรัสเซียทำลายชุดเกราะของยูเครนและสังหารกองกำลังของยูเครนในพื้นที่หลายเมืองที่น่าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน เป็นการยอมรับโดยปริยายถึงการรุกคืบของยูเครน

มีเข้าร่วมแล้วกว่า 2 แสน

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า พล.อ.เซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรี กลาโหมรัสเซีย ระบุว่า พลเมืองรัสเซียมากกว่า 200,000 คน เข้าร่วมกองทัพรัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของการระดมพลบางส่วน เพื่อทำสงครามในยูเครน

รีอา โนวอสตี สื่อทางการรัสเซีย รายงานว่า การฝึกอบรมของหน่วยใหม่จะดำเนินการในพื้นที่ฝึกอบรมพิเศษและศูนย์ฝึกอบรม แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคคลทหารที่ถูกเรียกระดมพลครั้งล่าสุดนี้

ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ย. พล.อ.ชอยกูระบุว่า รัสเซียจะเรียกทหารกองหนุน 300,000 นาย หลังประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ประกาศเกณฑ์ทหารเพิ่มเติม จุดชนวนการประท้วงอย่างดุเดือดและการอพยพของชายวัยเกณฑ์ทหารท่ามกลางความหวาดกลัว นอกจากนี้ รัฐสภารัสเซียแก้ไขกฎหมายทหารเพื่อเพิ่มโทษมากขึ้นสำหรับผู้ละทิ้งหน้าที่ทหาร

People walk next to their cars queuing to cross the border into Kazakhstan at the Mariinsky border crossing, about 400 kilometers (250 miles) south of Chelyabinsk, Russia, Tuesday, Sept. 27, 2022. Officials say about 98,000 Russians have crossed into Kazakhstan in the week since President Vladimir Putin announced a partial mobilization of reservists to fight in Ukraine. (AP Photo)

วันเดียวกัน คัซอินฟอร์ม สื่อคาซัคสถาน รายงานว่า นายมารัต อาห์เมตจานอฟ รัฐมนตรีกิจการภายในคาซัคสถาน ประเทศเพื่อนบ้านรัสเซียที่มีพรมแดนร่วมกัน 7,000 กิโลเมตร ระบุว่า พลเมืองรัสเซียเข้าคาซัคสถานมากกว่า 200,000 คน ตั้งแต่ประธานาธิบดีปูตินประกาศคำสั่งระดมพลบางส่วน ในจำนวนนี้มากกว่า 147,000 คน เดินทางออกนอกคาซัคสถานไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.

ส่วนล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ต.ค. นายอาห์เมตจานอฟระบุว่า พลเมืองรัสเซียเข้าประเทศมากกว่า 7,000 คน และเดินทางออกนอกประเทศ 11,000 คน นอกจากนี้ พลเมืองรัสเซีย 68 คน ยื่นขอสัญชาติคาซัค