ปภ. เผยฤทธิ์ พายุโนรู ถล่มไทย น้ำท่วม11จว. ล้นตลิ่ง8จว. เสียชีวิต1ราย

ปภ. รายงานอิทธิพล พายุโนรู ทำน้ำท่วม 11 จังหวัด และยังคงมีน้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง 8 จังหวัด ประสานพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว

 

วันที่ 30 ก.ย.2565 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานผลกระทบพายุโซนร้อนกำลังแรง “โนรู (NORU)” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้เล็กน้อย เคลื่อนผ่านสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง พายุเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนบน เคลื่อนเข้าประเทศไทยบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 28 ก.ย. เวลา 18.00 น. ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ย. มีสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร สระบุรี ชัยนาท และ สระแก้ว รวม 35 อำเภอ 72 ตำบล 166 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,121 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เนื่องจากสาเหตุลมพัดต้นไม้ลมทับรถยนต์ ดังนี้

1.เพชรบูรณ์ เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเชียรบุรี และอ.ศรีเทพ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

2.อำนาจเจริญ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอำนาจเจริญ และอ.ลืออำนาจ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3.ศรีสะเกษ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองศรีสะเกษ อ.ห้วยทับทัน อ.ยางชุมน้อย อ.วังหิน อ.ภูสิงห์ อ.น้ำเกลี้ยง และอ.อุทุมพรพิสัย รวม 16 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,301 ครัวเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

4.ยโสธร เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองยโสธร และอ.คำเขื่อนแก้ว รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

5.อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ อ.สว่างวีระวงศ์ และอ.พิบูลย์มังสาหาร รวม 12 ตำบล 44 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,026 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

6.มุกดาหาร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองมุกดาหาร อ.คำชะอี และอ.ดอนตาล รวม 8 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1 ครัวเรือน อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย

7.ขอนแก่น เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อ.เมืองขอนแก่น รวม 5 ตำบล 5 หมูบ้าน ระดับน้ำลดลง

8.ชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.คอนสวรรค์ อ.เนินสง่า อ.จัตุรัส อ.เกษตรสมบูรณ์ และอ.บ้านเขว้า รวม 9 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

9.สระบุรี เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.แก่งคอย และอ.วังม่วง รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

10.ชัยนาท เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองชัยนาท อ.วัดสิงห์ อ.มโนรมย์ อ.หันคา และอ.สรรพยา รวม 9 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 750 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

11.สระแก้ว เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.คลองหาด และอ.วังน้ำเย็น รวม 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

สำหรับสถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงทำให้มีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และปราจีนบุรี รวม 5 อำเภอ 18 ตำบล 67 หมู่บ้าน ภาพรวมระดับน้ำลดลงและสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ตาก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี และสิงห์บุรี รวม 17 อำเภอ 132 ตำบล 685 หมู่บ้าน ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำทรงตัว

สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ปภ.โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”